กระต่ายหมายจันทร์
อัลมิตรา
...สายลมแผ่วพลิ้ว..ยังให้ใบไม้ไหวสั่นคลอน...
...ราตรีที่เงียบงันคล้ายถูกทักทายด้วยสายลมแห่งวสันตฤดู...
...พลันบังเกิดเสียงกิ่งไม้และใบไม้ลู่ไปตามสายลม...
...กระต่ายน้อยตัวหนึ่ง ชะเง้อชะแง้มองจันทร์...
...ไม่เพียงแต่กระต่ายน้อยเท่านั้น...
...ที่ยังมีความเพ้อฝันและเพรียกหา...
...มันคอยจ้องความตระการแห่งจันทรา...
...แล้วหวังใจว่า...จันทราจะปรานี...
...กระต่ายน้อย...มันไม่รู้เลยว่า...
...อีกหนึ่งมนุษย์ผู้น่าเวทนาอุรานี้...
...มิต่างกันกับเจ้ากระต่ายน้อยในพงพี...
...วิงวอนให้จันทราปรานีและเห็นใจ...
...จันทร์เจ้าเอย...
...โปรดมอบความรักความห่วงใยและอาทร...
...แม้นยามเหนื่อยอ่อนครั้งคราไหน...
...คราต้องทุกข์ระทมตรอมตรมใจ...
...จันทราอันสว่างกระจ่างใส...
...โปรดเถิด โปรดได้ปลอบขวัญ...
...กระต่ายน้อยตัวหนึ่ง...
...กับมนุษย์ผู้ซึ่งโศกเศร้าร้าวรำพัน...
...รอคอยค่ำคืนอันตระการตามา..นิจนิรันดร์...
...โอ้ดวงจันทรานั้น จักเห็นใจหรือไม่เอย ?
..๏ ครั้นรัตติกาลเยือน.......ศศิเคลื่อนนภาพราว
พลันให้หทัยหนาว............อุระร้าวมิเสื่อมคลาย
..๏ ครุ่นคิดคะนึงหา..........ฤ ยุพาสิกลับกลาย
เชยชิดสนิทชาย-.............นระอื่นและชื่นชม ๚
..๏ ครั้นแสงพระจันทร์ส่อง..สิริผ่องประภาสม
ฤๅน้องมโนรม.................ฤ สิชมเสมือนกัน
..๏ เพรียกเพ้อละเมอถึง....และคะนึงมิเว้นวัน
ข่มใจมิใฝ่ฝัน..................รตินั้นก็ลุกลาม ๚
..๏ แผ่วผ่าวพระพายพัด.....และอุธัจประชิดตาม
ครั้นจิตพินิจความ.............มิสงบและบรรเทา
..๏ เหยียบย่ำกระหน่ำจิต...วิปริต ฤ หนอเรา
หม่นหมองมิบางเบา..........ขณะเศร้าและอาลัย ๚
..๏ ยามเมื่ออดีตนั้น..........ปริพันธ์กวีให้
กล่อมเจ้าระรื่นใจ.............อภิรมย์และสมปอง
..๏ ร้อยคำประพันธ์พจน์....นยะบทกวีผอง
เอื้อนอรรถรสพ้อง............สรพันและเย้ายวน ๚
..๏ เชยชิดสนิทเจ้า..........ผิว์กระเซ้าสิเสสรวล
ตรึงในฤทัยชวน-.............อนุจินต์ถวิลหา
..๏ ดาวเดือนสิเคลื่อนคล้อย....ดุจลอยและร้างลา
ตราบเมื่อสุรีย์จ้า..............ลลนา ฤ เช่นกัน ๚
..๏ สิ้นรักประจักษ์จิต........บ่สนิทสนมพลัน
ลืมเลือนอดีตนั้น..............มิตระหนักและภักดี
..๏ คืนนี้นภาพราว.............ศศิวาวสกาวศรี
แต่ข้าพเจ้ามี-...................ปริเทวนาการ ๚
..๏ คร่ำครวญคะนึงหา- .....วนิดาบ่เว้นวาร
เจ้าลืมเกษมศานต์............ณ อดีตกาลฤๅ ? ๚ะ๛