หลังพิงฝา ตาจ้อง มองสายฝน ที่ร่วงหล่น โปรยปราย เพิ่มสายสินธุ์ สำนึกหนึ่ง นั้นยัง ฝังในจินต์ ยังมิสิ้น สร่างไป จากใจเรา เม็ดฝนเยือก เย็นเยียบ เปรียบคมมีด เหมือนคอยกรีด กดย้ำ ซ้ำแผลเก่า ความเดียวดาย อ้างว้าง มิบางเบา ภาพและเงา ความหลัง ยังฝังใจ ถ้อยแสนหวาน ขานขับ กับคำมั่น มิแปรผัน สัญญา ท่ามฟ้าใส เพียงบุญกรรม นำพราก เราจากไกล นอกอื่นใด มิอาจ สามารถเลย เราถนอม กล่อมเกลา ทุกเช้าค่ำ เหมือนตอกย้ำ วจี ที่เอื้อนเอ่ย สุขอันใด ไหนเล่า จะเท่าเอย คำภิเปรย สุขเหลือ มิเบื่อฟัง เวลากาล มิพราก เราจากได้ ลิขิตใคร ส่งผล แต่หนหลัง ให้เดินทาง หลบเลี่ยง เพียงลำพัง หมดความหวัง เลือนลบ จบตำนาน หลังพิงฝา ตาหลับ รับความหนาว ความปวดร้าว หาใคร ไหนผสาน มองสายฝน หล่นพราว ยิ่งร้าวมาน อีกกี่กาล จะกลับ...หรือหลับตา คนกรุงศรี ฯ
3 กันยายน 2555 16:17 น. - comment id 1237295
หลังพิงฝาตาหลับกับหยาดฝน ที่โปรยหล่นหยาดพร่างมิสร่างสาย มันเย็นเยียบเหมือนว่าจะบ้าตาย เหมือนดังคล้ายคมมีดกรีดดวงแด หลังพิงฝาตาหลับกับความหนาว ทุกเรื่องราวตอกย้ำซ้ำรอยแผล เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันผันแปร ย้ำรอยแพ้แผลพิษปลิดดวงใจ
2 กันยายน 2555 16:04 น. - comment id 1244023
พิรุณร้าง โรยหล่น ฝนสั่งฟ้า หลังพิงฝา ท้ารับ กับลมหนาว แต่รอยต่อ ก็เป็น เช่นทุกคราว ต้องปวดร้าว แผลเป็น เช่นทุกปี สวัสดีครับ....หลับแระ?
5 กันยายน 2555 07:19 น. - comment id 1244316