เห็นดอกแก้ว ล่วงหล่น โคนต้นแก้ว คิดถึงเธอ อีกแล้ว แก้วอักษร สบายดี หรือไม่ ใจร้าวรอน ไม่มีหรือ บทกลอน อ้อนคนไกล พักผ่อนบ้าง หน้ามล มีคนห่วง อย่าปล่อยดวง ดอกแก้ว สิ้นแววใส ภาระนั้น มีอยู่ รู้แก่ใจ ปล่อยวางได้ ก็ปล่อยวาง บ้างคนดี หาความสุข ให้ตัวเอง กับเพลงฝัน หันหลังพิง เงาจันทร์ ขวัญอย่าหนี ลืมความทุกข์ โถมประดัง มาทั้งปี ร้อยวลี เยียวยา รักษาใจ บนลานฝัน วันนี้ ที่ยังว่าง เพื่อนร่วมทาง ล้วนมี ไมตรีให้ มาเถิดขวัญ อย่าแรมร้าง อย่าห่างไกล ทุกสายใย มิตรภาพ อาบอารมณ์ ชีวิตคน เรานั้น มันสั้นนัก ถ้าได้ทำ สิ่งที่รัก จักสุขสม อย่ายึดติด กับนิยาม ความตรอมตรม จงเพาะบ่ม กำลังใจ ให้แกร่งพอ ระเบียงใจ ใครคนหนึ่ง ซึ่งยังว่าง ยังเปิดทาง เอาไว้ ให้ติดต่อ ขวัญเอย ขวัญมา อย่ารีรอ มาถักทอ สายใย ไว้เคียงกันฯ สมยศ เปียสนิท
6 มีนาคม 2555 21:46 น. - comment id 1227202
เมื่อชีวิตมั่นสั้นนัก ยังจะกระสันกันเป็นใหญ่ เป็นแล้วได้อะไร มองสิโครโลภกิเลสลอย
7 มีนาคม 2555 10:46 น. - comment id 1227224
เป็นการปลอบประโลมคนรักได้น่ารักมากเลยค่ะ อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นใจตามไปด้วยเลย
8 มีนาคม 2555 11:21 น. - comment id 1227299
ต้องตามให้ด้วยมั้ย....เนี่ย
8 มีนาคม 2555 15:00 น. - comment id 1227310
ขอบคุณ คุณอิสรชัย ขอบคุณ คุณผู้หญิงฯ ขอบคุณ คนกรุงศรี รบกวนด้วยก็แล้วกัน นึกว่าช่วยกันเน้อ
8 มีนาคม 2555 20:25 น. - comment id 1227341
๐ ยามสนธยาดอกแก้วแผ่วรินโฉม หอมกลิ่นโน้มชวนพิศจิตผ่องใส สีขาวสพร่างยามพบสบวิไล ยากหาใดเทียบแทนแก่นยุพิน ๐ ประกอบด้วยธรรมรสจรดพิลาส พราวดารดาษมธุรสจรดถวิล มวลสังขารแปรเปลี่ยนเป็นอาจินต์ สลายสูญสิ้นเหลือกลิ่นระรินโชย. แก้วประเสริฐ.