น้ำค้างพรม ลมพลิ้ว ใจหวิวหวั่น อะไรกัน แฝงเงา ให้ร้าวฉาน เหมือนเกาะอยู่ คู่กัน กับดวงมาน ความร้าวราญ ผสม กับตรมทรวง ทุกเวลา นาที ที่ผ่านผัน หลายคืนวัน มั่นใจ ให้แหนหวง ความสับสน ปนอยู่ คู่แดดวง อยากจะล่วง พ้นผ่าน กาลเวลา สิ่งใดเล่า เข้าสุม คลุมดวงจิต ถูกหรือผิด คิดค้น ดั้นด้นหา เป็นภาพหลอน ซ่อนกล มนต์มายา พบเพียงว่า ลึกลึก รู้สึกดี เฝ้าพินิจ คิดหา ว่าเหตุผล แสนวกวน วุ่นวาย ใจเหลือที่ สิ่งพบพาน หลายหลาก แสนมากมี ถ้อยวลี คำนั้น พรั่นฤทัย แล้วใจก็ ค่อยค่อย เกิดรอยด่าง กับอ้างว้าง กมล สุดหม่นไหม้ สุดหนาวเหน็บ เจ็บร้าว กับเงาใจ ยิ่งทำให้ ดวงมาน ถึงซานซม ความรู้สึก พลาดผิด สะกิดอยู่ กับอดสู พร้อมรับ กับขื่นขม ปิดบังเงา เอาแนบ แอบเชยชม สุดจะข่ม ใจพราก ให้จากลา คนกรุงศรี ฯ กลุ่มวรรณกวีศรีอยุธยา
11 กุมภาพันธ์ 2555 07:23 น. - comment id 1224299
อรุณสวัสดิ์ครับ
11 กุมภาพันธ์ 2555 11:00 น. - comment id 1224321
สุดจะข่ม ใจพราก ให้จากลา ทั้งน้ำตา ที่หยด ไม่หดหาย กับความเศร้า เร้ารุม ซุมรอบกาย ใจเดียวดาย คล้ายตาย แล้วทั้งเป็น กลอนไพเราะมากเลยค่ะ
11 กุมภาพันธ์ 2555 11:42 น. - comment id 1224353
แวะมาเยี่ยมเยียนครับ คุณคนกรุงศรี