ขนาดนางเอกเขางอนแล้ว อีตานี่ก็ยังตัดพ้อไม่เลิกรา.. อิ อิ.. ที่เหินห่างทางใจใช่อยากห่าง ช่องที่ว่างกว้างเกินไปแสนไกลกว้าง มันเต็มตันด้วยน้ำตามากั้นกลาง ในระหว่าง ที่ว่างของสองหัวใจ เมื่อทะเลน้ำตามากั้นขวาง คงเคว้งคว้างร้างทุรนสุดทนไหว แลไม่เห็น เร้นหายละลายไป ฝั่งอยู่ไหน ยังใฝ่ฝันทุกวันวาร เหนื่อยหนักหนาสาหัสนักรักจนเหนื่อย พลาดรักเรื่อยหลั่งน้ำตามหาศาล เป็นน้ำตาซึ่งไหวหวาม ความร้าวราน นานกว่านานจนหมดหวังฝั่งใดๆ จะรักเก่าหรือรักใหม่ไม่อาจรู้ ยังสำลักน้ำตาอยู่ เธอรู้ไหม ภายนอกอาจดูเห็นเป็นคนไป ดูภายในจะเห็นว่า สิ้นค่าคน เป็นเพียงซากซากหนึ่งซึ่งเดินได้ สิ้นความหมายผูกสมัครสิ้นมรรคผล เมื่อรักราญประหารใจให้อับจน ใจพิกลปนพิการมันด้านชา ในทะเลน้ำตามันว้าเหว่ สุดคะเนเลิกใฝ่ฝันถึงวันหน้า แม้มีมือที่สงสารประทานมา ใจยังหวาดกลัวว่าจะฆ่าแกง หากมีใจเสนอให้ด้วยใจดี ใจดวงนี้ยังกลัวว่ามากลั่นแกล้ง หากมีรักสวยล้ำมาสำแดง ยังคลางแคลงว่าสวมคราบภาพลวงตา ..จะมีใครรักลงปลงใจรัก ใครจะภักดิ์รักหัวใจที่ไร้ค่า มีก็แต่จะตอกตำย้ำตีตรา ย้ำชัดว่าเกิดมาแพ้อย่างแท้จริง..
9 กุมภาพันธ์ 2555 14:56 น. - comment id 1224073
แต่งกลอนได้เยี่ยมได้เลยค่ะ ชอบทุกบท แต่บทด้านล่างนี้ชอบมากเป็นพิเศษเลยค่ะ "จะรักเก่าหรือรักใหม่ไม่อาจรู้ ยังสำลักน้ำตาอยู่ เธอรู้ไหม ภายนอกอาจดูเห็นเป็นคนไป ดูภายในจะเห็นว่า สิ้นค่าคน"
10 กุมภาพันธ์ 2555 17:05 น. - comment id 1224251
.............. คุณแรมฯ บทกลอนไพเราะมาก แต่ก็ต่อยากมากเหมือนกัน ลองดูนะ.....ฝืดจ้ะ เธอเป็นซากซากหนึ่งซึ่งเดินได้ มีหัวใจจมปลักกับรักขม ยอมให้ความหม่นหมองครองอารมณ์ อยู่กับปมชีวิตที่บิดเบือน จะรักเก่ารักใหม่เธอไม่รู้ เพราะจมอยู่กับฝันอันลอยเลื่อน คืนวันผันผ่านคล้อยเป็นร้อยเดือน ยังไร้เพื่อนไร้มิตรคู่ชิดใจ หากทะเลน้ำตามันว้าเหว่ จะร่อนเร่ชีวิตทิศทางไหน ยอมให้รักร้าวรานประจานใจ ซมอยู่ในช่องว่างที่กว้างเกิน เห็นเธอหม่นก่นเศร้าฉันเฝ้าคิด ดวงชีวิต...เวียนวก...ระหกระเหิน ฉันอยากฉุดเธอลากกระชากเดิน เธอกลับเมินเหินห่างก่อนร้างไป เพราะช่องว่างกว้างไกลไร้ขอบเขต คือมูลเหตุทุกข์ตรมระทมไหม้ ช่องที่ว่าง...กั้นกลาง...หว่างสองใจ แยกเราให้เหินห่างอย่างที่เป็น เมื่อทะเลน้ำตามากางกั้น หวิวหวาดหวั่นร้างราอย่างที่เห็น ทั้งหนาวเหน็บเจ็บแปลบแสบลำเค็ญ ไร้ประเด็นเว้นว่างเหมือนอย่างเคย หากรักกันไม่ได้ไม่ต้องรัก จำต้องหักใจเดินเหมือนเมินเฉย เสียเวลาปลอบร่ำพร่ำภิเปรย แล้วก็เลยจากกันนิรันดร์กาล .........................