ศึกษาโคลงสี่ โคลงสาม โคลงสอง ร่าย จากลิลิตพระลอ
ปติ ตันขุนทด
ลิลิตพระลอ โดยกวีราชสำนัก (มหาราชเจ้า นิพนธ์ เยาวราชเจ้า บรรจง เขียน) เป็นวรรณคดีสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นยอดแห่งลิลิต
*****กล่าวถึงขุนผู้ห้าว นามท่านท้าวแมนสรวง เป็นพระยาหลวงผ่านเผ้า เจ้าเมืองสรวงมีศักดิ์ ธ มีอัครเทพีพิลาส ชื่อนางนาฎบุญเหลือ ล้วนเครือท้าวเครือพระยา สาวโสภาพระสนม ถ้วนทุกกรมกำนัล มนตรีคัลคับคั่ง ช้างม้ามั่งมหิมา โยธาเดียรดาษหล้า หมู่ทกล้าทหาร เฝ้าภูบาลนองเนือง เมืองออกมากมียศ ท้าว ธ มีเอารสราชโปฎก ชื่อพระลอดิลกล่มฟ้า ทิศตะวันออกหล้า แหล่งไล้สีมา ท่านนา ฯ
มีพระยาหนึ่งใหญ่ ธ ไซร้ทรงนามกร พิมพิสาครราช พระบาทเจ้าเมืองสรอง สมบัติของสองราชา มีมหิมาเสมอกัน ทิศตะวันตกไท้ท้าว อคร้าวครอบครองยศ ท้าว ธ มีโอรสราชฤาไกร ชื่อท้าวไชยพิษณุกร ครั้นลูกภูธรใหญ่ไซร้ ธ ก็ให้ไปกล่าวไปถาม นางนามท้าวนามพระยา ชื่อเจ้าดาราวดี นางมีศรีโสภา เป็นนางพระยาแก่ลูกไท้ ลูกท้าว ธ ได้เมียรัก ลำนักเนตรเสนหา อยู่นานมามีบุตร สุดสวาทกษัตริย์สององค์ ทรงโฉมจันทร์งามเงื่อน ชื่อท้าวเพื่อนท้าวแพง จักแถลงโฉมเลิศล้วน งามถี่พิศงามถ้วน แห่งต้องติดใจ บารนี ฯ
เมื่อนั้นไท้แมนสรวง พระยาหลวงให้หา หัวเมืองมาริปอง ว่าเมืองสองกษัตริย์กล้า อย่าช้าเราจะรบ ชิงภิภพเป็นเมืองออก เร่งบอกให้เรียบพล นายกคณชุมกัน ครั้นเทียบพลเศิกเสร็จ ท้าว ธ เสด็จพยุหบาตร ลีลาสจากพระนคร คลี่พลนิกรพยู่ห์ สู่แดนศึกบมิช้า เดียรดาษพลช้างม้า เพียบพื้นภูมิน ฯ
ส่วนนรินทรราชา พิมพิสาครราช พระบาทครั้นได้ยิน ว่าภูมินทรแมนสรวง ยกพลหลวงมากระทั่ง ท้าว ธ ก็สั่งพลออกรับ ตับตามกันเดียรดาษ พระบาทเจ้าบมิช้า พลหัวหน้าพะกัน แกว่งตาวฟ้นฉฉาด แกว่งดาบฟาดฉฉัด ซร้องหอกซัดยยุ่ง ซร้องหอกพุ่งยย้าย ข้างซ้ายรบบมิคลา ข้าวขวารบบมิแคล้ว แกล้วแลแกล้วชิงข้า กล้าแลกล้าชิงขัน รุมกันพุ่งกันแทง เข้าต่อแย้งต่อยุทธ์ โห่อึงอุดเอาชัย เสียงปืนไฟกึกก้อง สะเทือนท้องพสุธา หน้าไม้ดาปืนดาษ ธนูสาดศรแผลง แข็งต่อแข็งง่าง้าง ช้างพะช้างชนกัน ม้าผกผันคลุกเคล้า เข้ารุกรวนทวนแทง รแรงเร่งมาหนา ถึงพิมพิสาครราช พระบาทขาดคอช้าง ขุนพลคว้างขวางรบ กันพระศพกษัตริย์ หนีเมื้อเมืองท่านไท้ ครั้นพระศพเข้าได้ ลั่นเขื่อนให้หับทวาร ท่านนา ฯ
งานรักษาพระนคร ท้าวไชยพิษณุกร กันเ มือง ได้ ไท้แมนสรวงเสด็จคืน ท้าวพิไชยยืนครองพิภพ ปลงศพพระราชบิดาแล้วไส้ ธ ก็ให้สองพงาหน่อเหน้า ไปอยู่ด้วยเจ้าย่าวังเดียว กับสองนางเฉลียวฉลาดพี่เลี้ยง โดบ ธ ตราชื่อชื่น ชื่อนางรื่นนางโรย โดยรักษาสองอ่อน ท้าวสองสมเด็จเสด็จด้าว สู่ห้องเรือนหลวง ท่านแล ฯ
เมื่อนั้นไท้แมนสรวง พระยาหลวงผู้มีศักดิ์ ให้ไปกล่าวนางลักษณวดี นางมีศรีสวัสดิ์ลออ ให้แก่พระลอดิลก ยกเป็นอัครมหิษี มีบริพารพระสนม ถ้วนทุกกรมกำนัล ประกอบสรรพสมบูรณ์ จึ่งนเรนทร์สูรราชบิดา สวรรคาลัยแล้วเสร็จ พระลอเสด็จเสวยราชย์ โฉมอภิลาสสระสม ดินฟ้าชมบรู้แล้ว โฉมพระลอเลิศแก้ว กว่าท้าวแดนดิน แลนา ฯ
รอยรูปอินทร์หยาดฟ้า มาอ่าองค์ในหล้า
แหล่งให้คนชม แลฤา
พระองค์กลมกล้องแกล้ง เอวอ่อนอรอรรแถ้วง
ถ้วนแห่งเจ้ากูงาม บารนี ฯ
โฉมผจญสามแผ่นแพ้ งามเลิศงามล้วนแล้
รูปต้องติดใจ บารนี ฯ
ฤาขจรในแหล่งหล้า ทุกทั่วคนเที่ยวค้า
เล่าล้วนยอโฉม ท่านแล ฯ
เดือนจรัสโพยมแจ่มฟ้า ผิบ่ได้เห็นหน้า
ลอราชไซร้ดูเดือน ดุจแล ฯ
ตาเหมือนตามฤคมาศ พิศคิ้วพระลอราช
ประดุจแก้วเกาทัณฑ์ ก่งนา ฯ
ทำนองนาสิกไท้ คือเทพนฤมิตไว้
เปรียบด้วยขอกาม
พระโอษฐ์งามยิ่งแต้ม ศศิธรอยู่เยียวยะแย้ม
พระโอษฐ์โอ้งามตรู บารนี ฯ
พิศดูคางสระสม พิศศอกลมกลกลึง สองไหล่พึงใจกาม อกงามเงื่อนไกรสร พระกรกลวงคช นิ้วสลวยชดเล็บเลิศ ประเสริฐสรรพสรรพางค์ แต่บาทางค์สุดเกล้า พระเกศงามล้วนเท้า พระบาทไท้งามสม สรรพนา ฯ
ขับซอยอราชเที้ยร ทุกเมือง
ฤาเล่าพระลอเลือง ทั่วหล้า
โฉมบาบพิตรเปลือง ใจโลก
สาวหนุ่มฟังเป็นบ้า อยู่เพี้ยงโหยหาย ฯ
เล่าลือโฉมท้าวทั่ว เมืองสรอง
ขจรข่าวถึงหูสอง พี่น้อง
ระทวยดุจวัลย์ทอง ครวญใคร่ เห็นนา
โหยละห้อยในห้อง อยู่เหยี้ยมฟ้งสาร ฯ
พระแพงพระเพื่อนเพี้ยง พิศวง
นับอยู่ในใจจง จอดไท้
มลักเห็นดอกกลหลชง ฉงนเงื่อน อยู่นา
อกอ่อนระทวยไหม้ สรากหน้าตาหมอง ฯ
นางโรยนางรื่นขึ้น ไปเยือน
เห็นราชสองหมองเหมือน ดั่งไข้
ทุกวันดุจดวงเดือน งามชื่น ไส้นา
หมองดั่งนี้ข้าไหว้ บอกข้าขอฟัง หนึ่งรา ฯ
ผิวไข้พูนพยาธิไซร้ ยาหาย ง่ายนา
ไข้หลากทั้งหลายใคร ช่วยได้
ไข้ใจแต่จักตาย ดีกว่า ไส้นา
สองพี่นึกในไว้ แต่ถ้าเผาเผือ
ข้าฟังเหลือที่พร้อง สองสมเด็จพระน้อง
กล่าวนี้กลใด
ใดขัดใจแม่ ณ เกล้า สองสมเด็จพระเจ้า
บอกไว้งานเผือ ฯ
เจ็บเผือเหลือแผ่นดิน นะพี่ หลากระบิลในแหล่งหล้า นะพี่ บอกแล้วจะไว้หน้าแห่งใด นะพี่ ความอายใครช่วยได้ นะพี่ อายแก่คนไส้ท่านหัว นะพี่ แหนงตัวตายดีกว่า นะพี่ สองพี่อย่าถามเผือ นะพี่ เจ็บเผือเหลือที่พร้อง โอ้เอ็นดูรักน้อง อย่าซ้ำจำตาย หนึ่งรา ฯ
ข้าไหว้ถวายขีพิต เผือข้าชิดข้าเชื่อ เขือดังฤาเหตุใด ธ มิไว้ใจเท่าเผ้า สองแม่ ณ หัวเจ้า มิได้เอ็นดู เผือฤา ฯ
เสียงฤาเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า
สองเขือพี่หลชับใหล ลืมตื่น ฤาพี่
สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือ ฯ
สิ่งนี้น้องแก้วอย่า โศกา ณ แม่
เผือจักขออาสา จุ่งได้
ฉันใดราชจักมา สมสู่ สองนา
จักสื่อสารถึงไท้ หากรู้เป็นกล ฯ
ความคิดผิดรีตได้ ความอาย พี่เอย
หญิงสื่อรักชวนชาย สู่หย้าว
เจ็บเผือว่าแหนงตาย ดีกว่า ไส้นา
เผือหากรักท้าวท้าว ไป่รู้จักเผือ ฯ
ไป่ห่อนเหลือคิดข้า คิดผิด แม่นา
คิดสิ่งเป็นกลชิด ชอบแท้
มดหมอแห่งใดสิทธิ์ จักสู่ ธ แม่
ให้ลอบลองท้าวแล้ อยู่ได้ฉันใด ฯ
ภายในสองนางขอบ ว่ามิชอบภายนอก ดอกห้ามว่าผิดใหญ่ เขือคิดใช่ความดี มีผู้รู้น่ากลัว เสียตัวเขือลูกไท้ จะไว้ผิดในแหล่งหล้า จะไว้หน้าแห่งหนใด ข้าเดาใจสองสบ พบกระแหน่สองศรี ใจกษัตรีย์มิเสียชอบ เราจะประกอบจงควร ซึ่งสองครวญจุ่งได้ ไว้ความร้ายแก่เรานา ข้าก็ว่าสองพงาอยู่เกล้า สองท้าวเจ้าไป่รู้ ไว้เผือตูอาสา ครานี้พี่บผิด ความคิดสองบ่ได้ สองบพิตรจักไว้ สองพี่เลี้ยงเยียใด ฯ
ข้าจะใช้ชาวในผู้สนิท ชิดชอบอัชฌาสัย ไปซื้อขายวายล่อง แล้วให้ท่องเที่ยวเดิน สรรเสริญสองโฉมศรี ทั่วบุรีพระลอ ขับซอยอยศอ้าง ฤาลูกกษัตริย์เจ้าช้าง ชื่อแท้ใครเทียม เทียบนา
ทุกเมืองมีลูกท้าว นับมี มากนา
บเปรียบสองกษัตรีย์ พี่น้อง
พระแพงแม่มีศรี ยศยิ่ง คณนา
พระเพื่อโฉมยงหย้อง อยู่เพี้ยงดวงเดือน
โฉมสองเหมือนหยาดฟ้า ลงดิน
งามเงื่อนอัปสรอินทร์ สู่หล้า
อย่าคิดอย่าควรถวิล ถึงยาก แลนา
ชมยะแย้มทั่วหน้า หน่อท้าวมีบุญ
หมื่นขุนถ้วนหน้าส่ำ หัวเมือง ก็ดี
อย่าใคร่อย่าคิดเคือง สวาทไหม้
สมภารส่งสองเรือง สองรุ่ง มานา
สองราชควรท้าวไท้ ธิราชผู้มีบุญ
ยอยศสองอ่อนท้าว ฤาทั่วทุกแดนด้าว
ลอราชได้ฟังสาร ฯ
ฟังตระการอยู่เกล้า ให้เร่งเบิกเขาเข้า
มาสู่โรงธาร ฯ
ฟังสารสองหนุ่มหน้า จอมราชควรคิดอ้า
อะคร้าวหัวใจ ท่านแล ฯ
มลักนึกในคะแคล้ว ผิพี่มีบุญแล้ว
พี่เพี้ยงไปสม เจ้านา ฯ
ชมข่าวสองพี่น้อง ต้องฤทัยจอมราช พระบาทให้รางวัล ปันผ้าเสื้อสนอบ ขอบใจสูเอาข่าว มากล่าวต้องติดใจ บารนี ฯ
ฉันใดกูจักได้ สมพระนุชน้องไท้
อ่อนท้าวทั้งสอง ฯ
ท้าวจำนองโคลงอ้าง โคลงบพิตรเจ้าช้าง
ชื่นแท้ใดเทียม เทียบนาฯ
เรียมฟังสารอ่านอ้าง อันผจง กล่าวนา
ถนัดดั่งเรียมเห็นองค์ อะเคื้อ
สองศรีสมบูรณ์บง กชมาศ กูเอย
นอนแนบสองข้างเนื้อ แนบเชื้อชมเชย ฯ
พระกรเกยผากให้ มือลูบทรวงไล้ไล้
ทำเล่ห์ให้เขาเห็น ฯ
เป็นปริศนาแล้วไส้ ธ ก็ให้เลี้ยงดูโดยขนาด เขาก็ลาพระบาทเมื้อเมือง หน้ารุ่งเรืองชมชื่น ไปบอกแก่นางรื่นนางโรย โดยยุบลทุกสิ่ง จิ่งสองนางพี่เลี้ยง ทูลแด่สองเนื้อเกลี้ยง ถี่ถ้วนสารแสดง จึงแสวงหายายมด ไปจรดผู้ยายำ จำเอาแต่ผู้สิทธิ์รู้ชิดใช้กลคล่อง บอกทำนองทุกอัน ครั้น ธ ช่วยลุไส้ ดูจะได้ลาภจงครัน จะให้รางวัลจงพอ ครั้นพระลอสมสองแล้ว อยู่ช่างยายมดแก้ว อะคร้าวใดปาน เปรียบเลย ฯ
ยายฟังสารยายสั่นหัว ยายเคยลองแต่ตัวชั่วตัวช้า
ยายจักลองเจ้าหล้า บ่ได้หลานเอย ฯ
ยายเคยใครยำไสร้ ยายช่วยยายชักให้
ถ่องแท้จักไป ฯ
ยายว่าเยียกระไดเขาทุกผู้ ตูรู้จักเขาทั่วหน้า ย่อมชั่วช้ามิเป็นกล เห็นแต่ตูสามคนแม่มดเฒ่า แก่เจ้าแม่มดใหญ่ จะลองใครใครก็มา จะหาใครใครก็เต้า เว้นแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ธ รู้ศิลป์รู้ศาสตร์ ธ มีอำนาจมีคุณ ตูบุญไกลท่านไท้ สองราชนั้นฤาได้ อาจยื้อฤาถึง เลยนา ฯ
ดังจึงตูรู้จัก หมอศักดิ์สิทธิ์สามคน รู้พระมนต์มีฤทธิ์ ลูกศิษย์ปู่สมิงพราย ยายก็นำไปบอก ถึงจรอกหมอแล้วมา ข้าก็เข้าไปสู่ ปู่กล่าวกลยายมด ตูนี้ยศยังต่ำ ลองแต่ส่ำพอดี พอแรงผีแรงมนต์ เจ้าสากลผ่านหล้า หน้าผู้ใดจะลองดู สองนางทุทรฮู ว่า ธ เอ็นดูรู้จัก ผู้มีศักดิ์มีสิทธิ์ ผู้มีฤทธิ์มีอำนาจ อาจลอง ธมาได้ ตูจะให้ลาภจงเต็มกอง ตูจะให้ทองเต็มโกฎิ ผู้บอกโสดจะรางวัล เชิญบอกพลันอย่าช้า จงดูรู้จักหน้า ท่านให้เต็มใจ หนึ่งรา ฯ
หมอว่าในใต้ฟ้า ทั่วแหล่งหล้าผู้ใด ใครจักเทียมจักคู่ ปู่เจ้าสมิงพราย ธ ว่าให้ตายก็ตายทันเห็น ธ ว่าให้เป็นก็เป็นทันใจ จะลองใครใครก็มา จะหาใครใครก็บอยู่ จะไปสู่ท่านไสร้ ไว้ตูจะนำไป เฒ่าว่าทางไกลจรล่ำ วันนี้ค่ำสองนางเมือ พรุ่งเช้าเขือเขียวมา สองนางลาสองเฒ่า ไปบอกแก่สองเจ้า สองอ่อนท้าวยินดียิ่งนา
สองศรีเสาวภาคได้ ฟังสาร
ถนัดดั่งพระภูบาล จักเต้า
คือสุริยส่องบัวบาน สรดร่อ กันนา
เกรงเกลือกเยียวความเร้า รั่วรู้ฤาดี
กรกลเกียดเกี้ยว กรรชิด
แกล้งใส่กลปกปิด เงื่อนไว้
ความขำซ่อนซอนมิด งำแง่ งามนา
เอาชอบปลอมปนให้ แปลกร้ายกลายดี
พี่เลี้ยงเห็นเล่ห์แล้ว ยืนฉงน อยู่นา
สองใส่กลเหนือกล ใช่น้อย
ไหว้พระย่ายังยล หลานราช ฤาแม่
สองอยู่สองเศร้าสร้อย สรากหน้าตาหมอง
หมอดูหมอว่าให้ รับขวัญ
ขวัญอ่อนเขจรจรัล จิ่มฟ้า
ขวัญเที่ยวทั่วแดนบรร พตป่า ดงนา
ให้รับขวัญอย่าช้า พรุ่งเช้าวันดี ฯ
ย่าเจ้าฟังข่าวร้อน อาดูร แดนา
เขือเร่งเร็วไปทูล แด่ไท้
พระภูบดินทร์สูรย์ ปิตุราช สองนา
ข้าพี่เลี้ยงไปไหว้ บอกท้าวทุกอัน ฯ
ครั้นฟังธิราชร้อน รนใจ อยู่นา
หมอจักเอาอันใด เร่งให้
ไปรับเรียกขวัญใน เขาปู่ พระเอย
หมอสั่งเขือข้าได้ ชอบช้างตัวเร็ว ฯ
เขือไปอุประกาศแล้ว เขือมา
ทูลแด่สองธิดา อยู่เกล้า
สองฟังสองหฤหรรษา ชมชื่น ใจนา
สองพี่เร็วไปเช้า ช่วยน้องจงพลัน
เบิดเอาช้างต้นชื่อ เทียมลม ธ พี่
กับพระพายุพลันสม ชื่อแท้
เทียมใจเลิศแลชม ฝีย่าง มันนา
เร็วเร่งเร็วนักแล้ เลิศด้วยเดินพลัน ฯ
ไก่ขันเขียวผูกช้าง มาเทียบทั้งสองข้าง
แนบข้างเกยนาง ฯ
ไป่ทันสางสั่งไท้ พระแต่งจงสรับไว้
เยียวปู่เจ้าเรามา ฯ
เผือจักลาแม่ ณ เกล้า จักอยู่เยียวจวนรุ่งเช้า
จักช้าทางไกล ฯ
ขึ้นช้างไปผะผ้าย มาคะคล้ายโดยทาง ถับถึงกลางจรอกอยู่ หมอเฒ่าอยู่เล็งเห็น แสร้งแปรเป็นโฉมมลาก เป็นบ่าวภาคบ่าวงาม สองถึงถามหาปู่ ปู่หัวอยู่ยแย้ม ข้อยว่าสองแสล้ม มาแต่ด้าวแดนใด ฯ
สองคะนึงในใคร่รู้ ลูกหลานปู่ฤาผู้
อื่นโอ้ไป่งาม บารนี ฯ
กามกรรหายยั่วช้าง คิดแต่จักแย่ข้าง
ท่านไซร้จักเป็น ป่วยนา ฯ
บนานเห็นเป็นปู่ รูปเฒ่าอยู่ดูหลาก สองประจากษ์ตกใจ ใครจักปูนปู่ได้ ปู่ช่วยสองลูกไท้ แต่นี้ฤาไป อื่นเลย ฯ
เสียแรงเป่าหิ่งห้อย แรงปู่นี้รู้น้อย
เผือไป่รู้เลยนอ ฯ
เชิญปู่หมอขึ้นขี่ ขับช้างปรี่ปริงตาม ทั้งสามไประร่าย บ่ายหน้าตรงเขาเขียว เหลียวแลท่งจรลิ่ว เหลียวแลทิวเทินป่า ฝ่าแฝกแขมแกมเลา ดงประเดาประดู่ หมู่ไม้ยางไม้ยูง ตะเคียนสูงสุดหมอก พะยอมดอกมุ่งเมฆ อเนกไม้หลายพรรณ มีวัลย์เวียนเกี้ยวกิ่ง ไม้แมกมิ่งใบระบัด ลมพานพันพันลอก ดอกดวงหลวงเพล็ดชุม ช่อกระพุ่มห่อเกสร สลอนบุษบาบาน ตระการกลิ่นหอมหื่น ชื่นซรุกลูกเหลืองล่อน ใบอ่อนลำต้นอ้อน กิ่งก้านแกมงาม ฯ
ตามกันไปบหึง ถึงตีนเขาแต่ล่าง แลลิบงค่างบ่างชะนี ผีกู่ร้องน่ากลัว หัวพองอยู่คะคร้าม เสือสางด้ามด้อมทาง แรดควายขวางขัดอยู่ หมู่กระทิงเที่ยวป่า วัวลานล่าเล็มไพร หมูหมีไปคคล้าย นางช้างผ้ายคะคล้ำ บรู้กี่ส่ำตามสาร งูพพานพิษกล้า งูเหลือมคว้ารัดควาย เยียงผาผายปบป่าย ฝ่ายข้างเขาเทราซรึก สัตว์พันฤกพันลาย หมอมิกลัวกรายจรกล้าย เข้าป่าไปคล้ายคล้าย ด่วนดั้นโดยทาง ฯ
เอ็นดูสองนางตกใจกลัว ร รัวหัวอกสั่น ลั่นทะทึกทะทาว สราวตามหมอผะผ้ำ เห็นแนวน้ำบางบึง ชรทึงธารห้วยหนอง จรเข้มองแฝงฝั่ง สรพรั่งหัวขึ้นไขว่ ช้างน้ำไล่แทงเงา เงือกเอาคนใต้น้ำ กล่ำตากระหลับเหลชือก กระเกลือกกลอกตากลม ผมกระหวัดจำตาย ฝ้ายหนปลายไม้แมก ฟังเสียงแสกเง้างูด ทิ้งทูดบ่น พ พึมเสียง เค้ากู่เคียงคู่ร้อง ก้องดงดุจตระวาด ผาดฟังตกใจกลัว หมอเฒ่าหัวไปพลาง โลมสองนางอย่าตกใจ บ เป็นใดนะแม่ กระแหน่นี้นะเจ้า พระปู่เราหากทำเอง หมอมิเกรงสักสิ่ง ขับช้างวิ่งขึ้นเขา เคร่ากันไปบหึง ถันถึงแต่ตีนเขา หมอเฒ่าลงจากช้าง ไว้สองนางอยู่แต่ไกล หมอจึงเข้าไปสู่ ปู่เจ้าสมิงพราย ถึงถวายกรกราบไหว้ บอกว่าพระหลานไท้ เพื่อนท้าวแพงทอง ฯ
ทำงนสองเท่าฟ้า มาบำบวงให้ข้า
นำพี่เลี้ยงสองมา ฯ
ปู่เจ้าบอกหมอไส้ ไปเรียกมาให้ใกล้
แทบนี้อย่าขาม ฯ
หมอบอกความสองเจ้า พระปู่ให้สองเข้า
ไปสู่แล้วเชิญเขือ ฯ
สองเห็นเสือกราบเฝ้า คร้ามกลัวก้มกราลเข้า
กราบไหว้ทั้งสองฯ
ตามองเสือพรับ เห็นเสือกลับเป็นแมว แถวจราสศุภลักษณ์ มลักเห็นโฉม)เจ้า แปรรูปเถ้าหงอกสกาว คิ้วขาวขนตาเผือก กลับเตลือกเป็นบ่าว พึงมล่าวไฉนกล้องแกล้ง งามอรรแถ้วโถงเถง ทรงนักเลงเสสรวล สรคราญครวญงามถนัด ระบัดเป็นกลางแก่ ตระแหน่รูปลักษณ์ดี มีมารยาทเสี่ยมสาร สองถวายสการบูชา อันแต่งมาทุกสิ่ง จึ่งทูลสารสองไท้ สองราชก้มกราบไหว้ พระบาทเจ้ากูมา ฯ
ทุกข์ธิดาเท่าฟ้า เห็นแต่พระเจ้าข้า
พระปู่เจ้าองค์เดียว
ขับเขียวมาแต่เช้า สองให้เชิญพระเจ้า
โปรดเลื้องทุกข์หลาน ท่านเทอญ ฯ
เชิญช่วยการลูแล้ว เงินแลทองกองแก้ว
อเนกข้าขอถวาย ฯ
กามกรรหายเหิ่มไหม้ พระช่วยพระชักให้
สองราชพ้นความตาย ฯ
ปู่ไป่ผายตอบถ้อย ยั้งน้อยหนึ่งมินาน ปู่ก็ธิญาณเล็งดู กูจะช่วยควรฤามิควร รู้ทั้งมวลทุกอัน ด้วยผลกรรม์เขาแต่ก่อน ทำหย่อนหย่อนตึงตึง ส่วนจะถึงถุงบมิหยุด เท่าว่าจะพลัดหยุดพลันม้วย ด้วยผลกรรมเขาเอง แต่เพรงเขาทั้งสอง ทำบุญปองจะไจ้ ขอได้พึ่งบุญตู ปู่ดูเสร็จจึงว่า สองนางอย่ากล่าวอ้าง ถึงสินจ้างสินบน ตนกูจักไปสู่ ถึงที่อยู่สองเจ้า เขือเข้าไปก่อนกล่าว ข่าวดังนี้ให้ฟัง กูจะไปภายหลังบช้า ผิมิวันนี้อ้า พรุ่งนี้กูถึง ฯ
สองนางพึงใจคำปู่ ไหว้รับอยู่มิวาง สองนางสอง่คำตอบ ขอบคำพระปู่เจ้า เสมออำมฤตร้อยเต้า มาโสรจให้สร่างเสบย
พระเอยเผือข้ามา จักตายช้าตายหมอก เนื้อนกกลอกหนทาง สางแสกทูดทูดเค้า ขอพึ่งบุญพระเจ้า จงพ้นความกลัว ฯ
ปู่หัวอยู่ยะแย้ม ข้อยว่าสองแสล้ม อย่าร้อนใจเขือ
สองนางเมือเห็นวัน จงทันออกจากป่า เร่งไปว่าหลานแก้ว กูจะช่วยจงแล้ว อย่าร้อนใจหลาน ฯ
มินานนางรื่นนางโรย ไหว้ปู่ชื่นชมลา กับหมอมาขึ้นช้าง เลียบเดินข้างตีนเขาคืนไต่เต้าตามทาง เหลียวหลังพลางจะไจ้ ชมไม้ไล้สะอาด เหมือนปราสาทพิศาล คือพิมานมณเทียร อาเกียรณ์แกมดอกแดง แสงดุจปัทมราค ภาคใบขเขียวสรด คือมรกตรุ่งเรือง ดอกเหลืองเพียงทองสุก ขาวดุจมุกดาดาษ โอภาสพรรณพิจิตร พิพิธภูมิลำเนา งามเอาใจใช่น้อย คล้อยลงถึงดินต่ำ เล็งสบส่ำพฤกษางามพอตาตาดู เพราะหูหูฟังนกประนังกันร้อง เพราะไพรก้องป่าก้อง เพรียกพื้นพงพี
เสียงโนรีสาลิกา สัตวาดุเหว่า แขกเต้าเคล้าคลิ้งโคลง นกเอี้ยงโองคู่เคียง เสียงแซ้งแซวภูรโดก โคกม้าม่ายนางนวล กระสาสรวลกระสันต์ กางเขนผันแผ่แพน แอ่นออกจอกจิบกด ขุนยูงชดขนฟ้อน กระหย้อนหางพพ่าย นางยูงรายรอบเฝ้า ทรายทองเคล้าคู่เคียง ละมั่งเมียงม่ายคู่ เกลื่อนกลาดอยู่คละคล่ำ บรู้กี่ส่ำกี่สาร เห็นตระการสรนุก จริวจราวซุกจรจรัล บรู้กี่พรรณปูปลา นกหกดาดาษอยู่ หงส์เหิรสู่สระสรง เป็ดน้ำลงลอยล่อง ทุงทองท่องจรจรัล จากพรากพรรค์ฟุบฟอง คับแคครองคู่ว่าย ดอกบัวผ้ายจับบัว ภมรมัวเมาซราบ อาบละอองเกสร สลอนบุษบาบาน ตระการดอกบัวแดง แฝงบัวขาวคลี่คล้อย สร้อยสัตบรรณบงกช ระรวยรสกลิ่นจงกล นิโลศบลโกมุท อุบลบุษบัวเผื่อนฉลับ ป่ากลัวกลับกลายสรนุก สำราญสุขเปรมปรี ช้างเร็วลีผาดผัง ถึงวังใกล้ปราสาท รับขวัญราชธิดา ขวัญสองมาสมสู่ อยู่กับองค์อ่อนไท้ ไฟแดดอย่ารู้ไหม้ ไข้อย่ารู้ถึง แม่เลย ฯ
คำนึงใดอย่าแคล้ว ลุลาภโดยใจแก้ว
อยู่เคล้าฤาคลา หนึ่งเลย
ส่วนธิดาทั้งสอง ตั้งเตียงทองรองอาสนฤ พิดานดาดดัดบน เทียบขนนเขนยตระสัก ม่านปักแพร้วแพรพรรณ สรรพของหอมหาได้ สรรพดอกไม้หาถ้วน ล้วนแก้วต่างข้าวตอก ช่อดอกไม้เงินทอง ของกินสรรพอาหาร ตระการแกล้มเหล้าเข้า แต่งไว้รับปู่เจ้า แต่งไว้รับขวัญ ฯ
ไป่ทันว่าจะแจ้ว พระปู่เจ้ามาแล้ว
ก่อนแล้ถึงเรือน ฯ
เป็นหาวเหมือนจรคลุ้ม ชรอุ่มบนเวหา สองสงกาจะไจ้ สองประนมมือไหว้ ร้อยปู่เจ้าเรามา ฯ
แลหาสองพี่เลี้ยง เห็นแต่ไกลมาเพี้ยง
ดั่งได้กินเมือง
ประนังเนืองนั่งเฝ้า ข้าจึ่งลงช้างเข้า
มากราบไหว้ทั้งสอง
สองแลพลางสองไหว้ ใดดั่งนี้ร้อยไท้
ปู่เจ้าเราฤา ฯ
เขาว่าคือท่านแท้ พระปู่เสด็จมาแล้
อย่าได้สงกา ฯ
มาจะอาราธนปู่เจ้า กรประนมตั้งเกล้า
กราบไหว้ทั้งหลาย ฯ
ปรายเข้าตอกดอกไม้ ถวายธูปเทียนทองไหว้
กราบเกล้าสดุดี ฯ
พระมียศยิ่งฟ้า ขอพระเอ็นดูข้า
ท่านได้เห็นองค์ ท่านนา ฯ
สองผจงอาราธนไหว้ อารักษ์
ขอท่านแสดงสิทธิศักดิ์ อย่ากั้ง
ขอเป็นที่พำนัก นิตย์แด่ เผือนา
ขอพระปู่เจ้าตั้ง แต่งให้เป็นตัว
บัดเดี๋ยวพระปู่ให้ เห็นองค์ ท่านนา
งามรูปงามโฉมยง อะเคื้อ
บผอมบพีทรง บหนุ่ม งามนา
บแก่ผมผิวเนื้อ ปากคิ้วตราตรู
สองเจ้าเห็นปู่เจ้า สองชม ชื่นนา
สองบกราบกรบังคม เคี่ยมไหว้
สองถวายเครื่องอุดม สบสิ่ง แลนา
ผจงแต่งบูชาไท้ ปู่เจ้าจงเอา
ปู่เห็นสองเจ้าแพ่ง ภักดี อยู่นา
ใจปู่ปองปรานี หนุ่มเหน้า
ปู่เอากระยาศรี ผจงแต่ง ถวายนา
เห็นปู่รับสองเจ้า พี่น้องยินดี
แล้วสองกราบไหว้บ่ำ บวงสรวง ท่านนา
ความยากแถลงทั้งปวง ถี่ถ้อย
ขอพระช่วยชูทรวง ทุกข์เทวษ ไส้พ่อ
ลุลาภเขือข้าค้อย ท่านได้โดยจง
จักถวายแก้วเก้าโกฎิ เงินทอง
แลสิ่งแลเกวียนทอง ลากได้
วัวควายเผือกเขาทอง หงส์ห่าน หมูนา
เป็ดไก่เหล้าเข้าให้ ปู่เจ้าแทนคุณ
ปู่ฟังปู่ว่าอ้า อดสู บารนี
สองอย่าบลบานตู เกลียดจ้าง
ภักดีสิ่งเดียวดู ดียิ่ง ดีนา
ความโรคเขือจักร้าง อย่าร้อนใจเขือ
ใช่กลผีไส้ขาด เส มา อยากนา
เร่ร่อนขวนขวายหา เตร่ต้อง
ขุกเท็จกล่าวมารษา จำท่าน บลนา
ทำบาปมาเลี้ยงท้อง ร่างร้ายฤาอาย
เรานี้เราเทพเจ้า จอมผา ใหญ่นา
เขาใส่สมญาเรา ปู่เจ้า
แรงบุญส่งสนองมา พูนเพิ่ม แลแม่
เสวยพิภพผลฃาญเข้า ชั่วฟ้าล่มกัลป์
สิทธิฤทธิ์เรืองเดชด้วย ผลบุญ ส่งนา
สร้างกุศลเป็นทุน บ่ร้อน
สมบัติดั่งมีขุน ไหลหลั่ง มานา
สรรพพิภพซ้ำซ้อน เลิศด้วยสมบูรณ์
ปู่เห็นสองเจ้าปู่ ปรานี นักนา
จะช่วยสองกษัตรีย์ อย่าร้อน
จักเชิญพระลอลี ลาสู่ สองนา
สองราชอย่าไข้ข้อน อยู่ถ้าฟังสาร
สองไหว้สองกราบแล้ว สองถาม
ยังเท่าใดขุนงาม จักเต้า
ปู่เฉลยใช่คนทราม คนชั่ว นะแม่
ขุนขี่เกล้าหน่อเจ้า แผ่นผู้ มีบุญ
หมอเถ้าหมอแก่แก้ คุณความ มากนา
จักกำหนดโดยถา ไป่ได้
หลานเอยค่อยพยายาม ฤารอด เราเลย
บร่างนานนักไท้ ธิราชผ้ายถึงเรา
สองนงเยาว์เคร่าถ้า แม้ว่าเห็นพระขข้า
จึ่งให้ไปเตือน ปู่เทอญ ฯ
เตือนสองสระเกศแก้ว พระประสิทธิ์ให้แล้ว
ปู่เจ้าลาสอง ฯ
มองตาเมิลปู่ผ้าย หายบัดเดี๋ยวเห็นคล้าย
คลาดเพี้ยงลมลิว ฯ
เฉียวฉิวถึงที่อยู่ ปู่เอาไม้เลี้ยงไม้ไล่ ไม้ไผ่ไขว่ลูกลม เขียนพระตนกลมอยู่กลาง เขียนสองนางข้างแลองค์ สองอนงค์กอดรูปท้าว โน้มน้าวชักชวนมา ยันต์มายารายรอบ รายขอบทั้งสี่คู่ ปู่ชุบมนต์เมิลไม้ ยางใหญ่ได้เจ็ดอ้อม ปู่ปั่นมือดีดค้อม ยอดตั้งติดดิน ฯ
ครั้นยางยินคำปู่ ใจพระลออยู่บมิกลม ปู่เอาลูกลมปักปลาย ยางวางมือบัดเดี๋ยวดาย ปลายไม้ผายยยัน ใบไม้ผันยย้าย คล้ายลูกตรงตระบัด ลมพัดลูกลมผัน กลกังหันคคว้าง (คคว้าง คือ คว้างคว้าง) ลอบพิตรเจ้าช้าง ปั่นเพี้ยงลมผัน ฯ
ฝันเห็นพระเพื่อไท้ แพงทอง
สองแนบนอนแนมสอง ตราบไท้
สองศรีกอดกรตระกอง กอดราช แลนา
ชวนชักไปไล้ไล้ สู่บ้านเมืองสอง
พระทองผทมตื่นขึ้น สะทึ่นเทื้อนสะอื้น
ประหว่าโอ้โหยหา ฯ
บคลาสมปฤดีบพิตร พระสนมสะกิดกันดู เห็นพระภูธรพิการ จึ่งเอาสารพิกล ดลแด่ภควดี ชนนีนาถรู้ข่าว ร้อนผผ่าวหฤทัย (ผผ่าว คือ ผ่าวผ่าว) ธ ไปยังลูกบพิตร ท้าว ธ เห็นผิดแก่ตา ธ ก็ว่าบาบัวบาทบงกชราชจอมใจ พ่อเป็นใดแก่อกแม่ ท้าวทูลแด่แม่ ณ หัว วันนี้ตัวข้าสั่น ใจข้าปั่นผัดผัน คืนนี้ฝันเห็นถนัด ว่าสองกษัตริย์เพื่อนแพงทอง นอนแนบสองข้างข้า หน้าแนบอกอิงอร สองสอดกรกอดเกื้อ โลมลูบเชื้อเชิญไป ใจข้าไหวดังจะผก อกข้าปั่นดังจะคว่ำ ทุกข์บรู้กี่ส่ำแสนเศร้า จักใคร่เต้าไปหา เยียวลูกลาแม่ ณ เกล้า (เยียว คือ เผื่อว่า หากว่า) ขอบพิตรพระเจ้า ท่านท้าวเอ็นดูลูกรา ฯ
ออกท้าวฟังลูกไท้ ทูลสาร
ถนัดดั่งใจจักลาญ สวาทไหม้
น้ำตาท่านคือธาร แถวถั่ง ลงนา
ไห้บรู้กี่ไห้ สระอื้นอาดูร ฯ
ตีอกโอ้ลูกแก้ว กลอยใจ แม่เอย
เจ้าแม่มาเป็นใด ดั่งนี้
สมบัติแต่มีใน ภพแผ่น เรานา
อเนกบรู้กี้ โกฏิไว้จักยา พ่อนา ฯ
นายแก้วเร้งอย่าช้า ไปหา
เร้วเร่งพระโหรมา อย่าช้า
หาหมู่แพทย์ยากหา หมอภูต มานา
หาแม่มดถ้วนหน้า หมู่แก้กฤตยา น
นายขวัญจุ่งถ้วน ทั้งหลาย
ทุกหมื่นขุนมูลนาย ช่วยไส้
เถมิลไพรเร่งขวนขวาย ยาป่า มานา (เถมิล คือ พวก หมู่ )
ยาเทศทั้งปวงไว้ ฝ่ายข้างชาวคลัง ฯ
คลังกูคลังลูกแก้ว กูนา
จักจ่อมจ่ายเยียวยา หน่อเหน้า
สิ้นทั้งแผ่นดินรา แม่ลูก ก็ดี
สิ้นแต่สินจงเจ้า แม่ได้แรงคืน ฯ
ขวนขวายถึงขนาดพร้อม เพรียงกัน
หมอว่าทำใดสรรพ์ สิ่งนั้น
บนานพระลอพลัน สรว่าง เสบยนา
ถ้วนทุกหมอมาหั้น ท่านให้เหลือเฟือ
ออกท้าวธิราชได้ แรงรมย์
นางพระยาพระสนม ชื่นหน้า
มนตรีไพร่เมืองชม สรดชื่น เสบยนา
ลอ บพิตรเจ้าหล้า สว่างคลุ้มหายมัว
สองบัวบุษย์อยู่ถ้า ฟังข่าวพระลอช้า
อกร้อนคือไฟ ฯ
ให้ไปเตือนปู่เจ้า ปู่ว่ามีหมอเถ้า
แกแก้คุณเรา ฯ
ปู่ก็เอาธงสามชาย รายยันต์มากกว่าเก่า เขียนท้าวเจ่าอยู่กลาง เขียนสองนางซ้ายขวา กอดเจ้าหล้ารัดรึง
ชักทึงท้าวชวนเต้า แล้วปู่เป่าตะเคียนใหญ่ เก้าอ้อมใช่สามาญ ปลายไม้กราลก้มลง ปู่เอาธงปักผลักขึ้น ต้นไม้ฟื้นฟฟั่น ใบไม้สั่นฟฟัด ลัดลุกขึ้นยืนตรง ลมลิ่วธงททัด พัดถูกธงททาว ลมสร้าวเสียวเฉียงฉิว ปลิวกระพือยาหยูก ถูกพระองค์ท่านไท้ ถนัดดั่งสองนางไล้ ลูบให้แลเห็น องค์นา ฯ
ท้าว ธ เป็นหนักเล่ากว่าก่อน ดังเห็นสองอ่อนแก่ตา มาชักไท้ ธ สู่หย้าว มาเชิญ้าวสู่เรือน ใจท้าวเฟือนฟฟั่น สั่นพระองค์ทท้าว หนาวพระองค์ยะยัน ผันพระพักตร์รับบพิตร ไปยังทิศตะวันออก เขาเร่งบอกนาฏบุญเหนือ ธ รีบเมือยังลูกไท้ ไห้มาพลางรันทด สลดฤทัยพระองค์ ทรุดนั่งลงแลพระพักตร์ พระลอลักษณดิลก ทาบตีอกร้องไห มือทุ่มทรวงไล้ไล้ ลูกแก้วกับตน แม่เอย ฯ
เจ้าไข้ทุกข์แม่เพี้ยง ภูเขา ลูกเอย
เจ้าเลื่อนทุกข์บางเบา สว่างร้อน
มาเห็นพ่อเงียบเหงา หนักกว่า ก่อนนา
ทุกข์เร่งซ้อนเหลือซ้อน ยิ่งฟ้าทับแด
หญิงชายเหลือแหล่งหล้า ฤายล ยากนา
เห็นแต่เราสองคน คู่ม้วย
ฉันใดพ่อกับตน เป็นดั่ง นี้นา
แม้พ่อตายตายด้วย พ่อแล้จอมใจ แม่เอย ฯ
นายขวัญนายแก้วเร่ง ขวนขวาย หนึ่งรา
หาหมู่หมอทั้งหลาย ทั่วหล้า
ม้าเร็วเร่งยาสาย สมรแม่ เร็วนา
เดินด่วนอย่าได้ช้า ช่วยด้วยหัวใจ ฯ
หาสิ้นสบส่ำถ้วน มดหมอ
ทั้งแผ่นดินฤาฟลอ อยู่ได้
มาแก้พระเลื่องลอ ฤาเคลื่อน คลายเอย
พระแม่ไท้เห็นไท้ ลูกท้าวพิศวง ฯ
ท่านไท้ชุมถ้วนมิ่ง มนตรี
เผยม่านผายเสาวนีย์ ท่านพร้อง
สมเด็จปิ่นภูมี ศวรราช เรานา
ยาบ่หายไข้ข้อง สวาทแค้นคาใจ น
ตรวจไตรหาหน้าหมู่ มดหมอ
สูหยั่งยังเหลือหลอ อยู่บ้าง
สิ่งใดจะพึงพอ คิดเร่ง คิดนา
ใดชอบทำอย่าร้าง เร่งเทิ้ญเร็วทำ
มนตรีจำพระกฤษฎีกา ตรวจหาหมอทุกผู้ จึงรู้ว่าหมอสิทธิไชย นั้นออกไปอยู่ป่า รู้มลักว่าทั้งหลาย คุณพันลายพันลึก ตรึกตรึงไตรศาสตราคม บันสมสิทธิสามารถ ชำงัดโดยคุณโดยฤทธิ์ ธ ประกาศิตเสร็จสรรพ เขาเร่งรับปู่เข้ามา ปู่ตั้งกลากูณฑ์พิธี พลีเทพผู้มีฤทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์มนตราคม บันสมทำโดยศาสตร์ ให้พระลอราชหายหลง ให้ท้าว ธ สรงอุทกมนต์ เจ้าสากลสว่างเสบย เสวยโอสถประสิทธิ์ อันมีฤทธิ์พิเศษ สระพระเกศพระสกนธ์ ตั้งมณฑลสามชั้น บั้นในไว้อารักษ์ กลางไว้ยักษ์บริบาล ทวารนอกไว้ปีศาจ อากาศไว้ภูตคณา อยู่รักษาทุกแห่ง แล้วแต่งการเอิกเริก เบิกสมโภชพิธี เบิกบายศรีทำขวัญราช พระบาทให้รางวัล สรรพอุปโภคพิพิธ แก่หมอสิทธิไชย หมอถัดไปโดยลำดับ ให้สำรับเสื้อผ้าให้แก่หมอถ้วนหน้า ผู้อยู่เฝ้ารักษา ท่านนา ฯ
เอ็นดูสองราชไท้ ธิดา ท่านนา
ท่านบเห็นโหยหา อกไหม้
พระลอราชจักมา ฤาไป่ มาเลย
สองราชละห้อยไห้ แต่ถ้าภูบาล
จึงใช้สองพี่เลี้ยง ไปพลัน
ถามปู่เป็นฉันใด ดั่งนี้
ข้าไปบังคมคัล พระปู่ แลนา
พระปู่เฮยยังกี้ เมื่อท้าวจักมา
(โคลงบนนี้เป็นโคลงจัตวาฑัณฑี)
ปู่เล็งเห็นทั่วแล้ว ทุกอัน นาแม่
บอกข่าวเขาแก้กัน แต่งเฝ้า
มดหมอจักเทียมทัน เขายาก นักนา
ไว้ปู่จักกลอยเถ้า ต่อด้วยเขาเอง
เขืออย่าเกรงเกลือกช้า สองจักพลันเห็นหน้า
พระบาทเท้าจักถึง แม่ลา ฯ
ปู่รำพึงถึงเทพดา หากันมาแต่ป่า มาแต่ท่าแต่น้ำ มาแต่ถ้าคูหา ทุกทิศมานั่งเฝ้า พระปู่เจ้าทุกตำบล ตนบริพารทุกหมู่ ตรวจตราอยู่ทุกแห่ง ปู่แต่พระพนัศบดี ศรีพรหมรักษ์ยักษกุมาร บริพารภูตปีศาจ ดาเดียรดาษมหิมา นายกคณาแลคน ตนเทพผู้ห้าวท้าวผู้หาญ เรืองฤทธิ์ชาญเหลือหลาย ตั้งเป็นนายเป็นมุล ตัวขุนให้ขี่ช้าง บ้างขี่เสือขี่สีห์ บ้างขี่หมีขี่หมู บ้างขี่งูขี่เงือก ขี่ม้าเผือกผันผาย บ้างขี่วัวควายขี่แรด แผดร้องก้องน่ากลัว ภูตแปรตัวหลายหลาก แปรเป็นกากภาษา เป็นหัวกาหัวแร้ง แสร้งเป็นหัวเสือหัวสาง เป็นหัวกวางฉมัน ตัวต่างกันพันลึก ลคึกกุมอาวุธ เครื่องจะยุทรยงยิ่ง เต้นโลดวิ่งตระเบง คุกเครงเสียงคะครื้น ฟื้นไม้ไล่หินผา ดาษดากันผาดเผ้ง รเร้งร้องก้องกู้เกรียง เสียงสะเทือนธรณี เทียบพลผีเสร็จสรับ ปู่ก็บังคับทุกประการ จึงบอกสารอันจะใช้ ให้ทั้งยาทั้งมนต์ บอกทั้งกลกระทำ ให้ยายำเขาเผือด มนตราเหือดหายศักดิ์ ให้อารักษ์เขาหนี ผีเขาแพ้แล้วไส้ กูจะใช้สลาเหิน เดินเวหาไปสู่ เชิญพระภูธรท้าว ชักมาสู่สองหย้าว อย่าคล้าคำกู สั่งนา ฯ
น่าดูพลปู่เจ้า จอมผา
อึงอัดอัมพรคลา คลาดเต้า
ผีผาภูตคณา นับโกฏิ เกรียงแฮ
ไคลคลี่พลคลาเต้า ด่วนได้โดยโพยม ฯ
พิศเพี้ยนผีพวกพ้อง เพียงพล มารแฮ
เต็มป่าพฤกษ์ไพรสนฑ์ แหลกหลู้
บนานก็มาดล แดนราช
ผีฝ่ายแดนขุกรู้ เร่งเร้งเรียกกัน ฯ
มากลากลาศกันแดน ผีแขกแค้นเข่นขุก ผีแดนรุกรบพุ่ง แล่นไล่ยุ่งโลดเต้น บ้างหลบบ้างหลีกเร้น บ่ได้ตอบตี ฯ
ผียยุ่งรบกับด้วย ผีแขวงแดนนา
ผีทุ่มผีไล่แทง ผาดผ้าย
ผันแผงผาดรบแรง ร้องเร่ง พลนา
ผีแขกรุกราญร้าย รบเร้ารอนผลาญ ฯ
ผียะยุ่งรบกัน ครรชิตฤทธิ์ราวี ผีทุ่มผีไล่แทง รบแรงผันแผงแผด ผีเจ้าแจดจ้ายจ้าย ร้องเร่งพลพล่ำคล้าย ผาดผ้ายรุกราญ ฯ
********************************
พระลอราชร่มเกล้า แมนสรวง
พระเพื่อนพระแพงพวง คู่สร้อย
สามรักมั่นแหนหวง ภักดิ์ต่อ กันนา
สามร่วมยืนตายคล้อย เชื่อมร้อยสรองสรวง