นภาพร่าง กางดาว สกาวใส ส่องไฉไล แทนเดือน ที่เลือนหาย ดั่งพี่ยา ลาน้อง ต้องวางวาย แล้วย่างกราย สู่จิต ติดภวังค์ พี่เข้ามา จูบลา นิจจาเอ๋ย นัยน์ตาเผย สายสบ พบความหลัง แม้ถ้อยปัก อักษรา มาประดัง หาได้รั้ง เทียมพ้อง ที่น้องยล ภาพอดีต ตรึงฤดี ทวีอาบ น้องกำซาบ อุ่นไอ ในทุกหน เรานั่งชิด ติดนั้น กันสองคน ยังระคน อาบซึ้ง คล้องถึงใจ แล้วผวา ลุกตื่น เมื่อคืนสาง แจ่มศุภางค์ ดาวระยับ ขับแสงใส เย็นยะเยือก ลมหนาว รานร้าวใจ เหตุไฉน เหงื่อล้น ดั่งมนตรา มือเรียวน้อย ปาดไล้ ในผิวแก้ม คราบนั้นแซม นวลปราง ทางซ้ายขวา กำลังเริ่ม สายใหม่ ในชลนา ไหลหลั่งมา ตอกย้ำ ซ้ำรอยเดิม เริ่มต้นจากที่สตรีท่านหนึ่ง ซึ่งเล่าเรื่องตนเองว่าอดีตเคย "ฆ่าคน" โดยไม่ยี่หระมาก่อน วิธีการคือปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นหลงรัก และรักมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นหล่อนก็ทิ้งไปเสีย จนบุรุษนั้นถึงแก่อัตวิบากกรรม
2 กรกฎาคม 2554 02:27 น. - comment id 1201362
นี่แหละคือานุภาพของแปดที่บอกไว้ อ่อนช้อยรับความอ่อนหวานพลิ้ว กระชับ รัดกุมได้เนื้อหาที่สอดคล้องเกิดทำนอง เสียงอีักษรไพเราะ แก้วประเสริฐ.
2 กรกฎาคม 2554 02:31 น. - comment id 1201363
ยังมีผิดการส่งรับอย่าใ้ห้คำซ้ำๆกันด้วยนะ เรานั่งชิด ติดนั้น กันสองคน ยังระคน อาบซึ้ง คล้องถึงใจ สองคน เน้นคน ระคน คำ คนซ้ำกันผิดควร หาคำอื่นมาทดแทน เป็น ยังอลวน ซาบซึ้ง คล้องถึงใจ จะไม่ผิด งดงามกว่าอีกด้วย จำไว้ แก้วประเสริฐ.
2 กรกฎาคม 2554 07:07 น. - comment id 1201372
กราบขอบพระคุณครู ที่เข้ามาช่วยพิจารณากลอนครับ ในบทแรก กระผมนึกอยู่นานว่าจะอธิบายคำว่า.. "เดือนดับ" .. ได้อย่างไร ครั้งแรกตั้งใจจะเขียนว่า "อมาวสีมีเดือนดับ ที่มืดหาย" แล้วกลัวคำจะรุนแรง หรือเข้มข้นเกินไป กระผมขอคงไว้ในช่วงที่ครูได้แนะนำ ทั้งนี้เพื่อท่านผู้มีเกียรติ ที่เข้ามาอ่าน ให้ผู้น้อยได้รับใช้ เป็นกรณีศึกษา นับเป็นการดีครับ ครูครับเช้าวันเสาร์นี้กระผมตื่นประมาณ 6 โมงครึ่ง พบว่าครูตื่นตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง ครูต้องพักผ่อนมากๆนะครับ ท่านต้องรักษาสุขภาพตนเองด้วย ครับ ศิษย์ในนี้ทุกคน เป็นห่วงครูครับ รักและเคารพครูเสมอ
2 กรกฎาคม 2554 08:15 น. - comment id 1201374
รำพันได้เพราะจังนะคะ.... แซมงี้พล่ามไม่รู้เรื่อง.... ขอให้สดชื่นค่ะ แซม
2 กรกฎาคม 2554 11:31 น. - comment id 1201400
คุณแซมคร้าบ ผู้น้อยลองฝึกตามที่ครูแนะนำน่ะครับ คิดๆเอาไว้ก่อน แล้วเขียนให้อยู่ในกรอบ นั่นแล สุขมากๆขอรับ ^^
2 กรกฎาคม 2554 13:04 น. - comment id 1201423
** อุ่นไอรัก รู้ใจ ใครปกป้อง อุ่นไอสอง ร่วมจิต ลิขิตฝัน อุ่นไอครอง คลอเคล้า เราผูกพัน อุ่นไอจันทร์ แจ่มกระจ่าง กลางหทัย ** ฝากไอรัก พักพิง เฝ้าอิงแอบ ประคองแนบ จิตน้อง ต้องหวั่นไหว คือความรัก ละมุน อบอุ่นไอ ฝากด้วยใจ เคียงข้าง มิห่างกัน....ฯ บทกลอนไพเราะค่ะ..มาขอร่วมแจมนะคะ..
2 กรกฎาคม 2554 17:11 น. - comment id 1201441
T_T ขอบพระคุณคุณราชิกาครับ เป็นเกียรติยิ่งครับที่ร่วมแจม บ้านกลอนอุ่นนี้ขาดมิได้ซึ่งกำลังใจ ติก่อ จะได้ช่วยกันพัฒนาทักษะนั่นแลครับ ดีใจๆๆๆ >_<
2 กรกฎาคม 2554 21:32 น. - comment id 1201476
๐ หวนอดีตคล้ายดั่งทอดยั้งดื่น รอยขมขื่นโชนครั้งในกังขา สะกิดให้เห็นรู้ลึกอุรา คงติดตราตรึงทาบเงาวาบทัณฑ์ ฯ มาเยี่ยมชมผลงานครับ
3 กรกฎาคม 2554 08:26 น. - comment id 1201519
อรุณสวัสดิ์ครับคุณกิ่งโศก ขอบพระคุณที่มาเยี่ยมงานกลอนขอรับ เรียนเชิญทานข้าว และมาใช้สิทธิ์กันครับ
5 กรกฎาคม 2554 12:52 น. - comment id 1201726
......... ภาพอดีตกรีดซึ้งตรึงดวงจิต วนเวียนคิดถึงเธอเสมอมั่น จำเรียงถ้อยร้อยรจพจน์รำพัน มากำนัลขวัญเจ้าก่อนเข้านอน ...............
5 กรกฎาคม 2554 23:16 น. - comment id 1201813
เรียน คุณdin ชอบมากครับโดยเฉพาะช่วง "จำเรียงถ้อยร้อยรจพจน์รำพัน มากำนัลขวัญเจ้าก่อนเข้านอน" ขอบพระคุณที่มาเยี่ยม ครับ
7 กรกฎาคม 2554 13:04 น. - comment id 1201979
รอยอดีตบางทีก็พยายามลืมๆไปค่ะ
10 กรกฎาคม 2554 20:33 น. - comment id 1202452
แผลในใจ รักษาให้หายได้ยากยิ่งนัก ยิ่งแผลรัก ถูกหักหลัง ยิ่งฝังใจ ...
10 กรกฎาคม 2554 23:04 น. - comment id 1202465
สวัสดีคุณเฌอมาลย์ครับ เห็นด้วย ยิ่งเป็นคนขี้ลืมด้วยครับ ^^
10 กรกฎาคม 2554 23:05 น. - comment id 1202466
สวัสดีครับ คุณมินตรา ณ ที่นี้คือบ่วงกรรม ที่ยังไม่นำผล ภาพที่เห็นผมไม่กล้าเรียกว่า เป็นเพียงลางสังหรณ์ นั่นเอง