เมื่อได้จาร ก็ซ่อนนัยถ้อยกานต์ หวานและเหงา ความคิด เป็นเพียงแต่รูปเงา มาเยือนเย้า ให้รู้สึก ให้นึกคิด วันหนึ่ง มีเพียงแค่นิดหน่อย คำที่ สารร้อย สร้อยลิขิต จากใจ จากจำ ด้วยน้ำมิตร มิล่วงสิทธิ์ ประการใดของใครเลย เมื่อได้เขียน ก็ได้เรียนรู้ซึ้ง คำซึ่งเผย เศร้า,สุข ในส่วน สบายเสบย ใช่แล้วเคย ครบถ้วน และล้วนเป็น อารมณ์เอย อารมณ์ของความคิด สนมสนิท ชิดห่าง อย่างที่เห็น บนรอยว้าง เวลาที่ร้างเร้น เราต่างเป็น ผู้กำหนดจรดจาร ฉันจึงเพียรเขียนคำย้ำความคิด คะนึงถึงชีวิตที่พ้นผ่าน เฉพาะแต่ ความรู้สึกละไมมานย์ กับอารมณ์ อันแสนหวานที่ผ่านไป มิคิดถึงสิ่งใดที่ใจหมอง เกรงเมื่อต้องกลับมา พบกันใหม่ รู้สึกมิเหมือนที่เคยดีใจ ยามเมื่อแรกที่ได้รู้จักกัน จึง คิด ถึงความรักอันแสนหวาน ถ้อยที่ซ่านทรวงนัยจนใจสั่น มือนิ่มนุ่มกุมจับกระชับกัน ตักที่ฉันนั้นเขนยเคยหนุนนอน ใบหน้าที่ ดุจเดือนเมื่อเยือนฟ้า ยามกานดาหนุนแขนพี่แทนหมอน สองตางาม ยามพ้อเราง้องอน เรียวแก้มอ่อน ร้อนซ่านละมานย์ใจ คิดถึงแต่ดวงดาวที่วาวคว้าง บนฟ้ากว้าง ชวนชมชิดพิสมัย แม้ฟ้ามืดชืดแสงจากแหล่งใด โลกยังได้สว่างใส ในตานาง และคิดถึงอารมณ์รุก ยามทุกข์ท้อ บทกวีที่ร้องขอยามไกลห่าง อยากจะร่นขอบฟ้าแคบมาบ้าง ฉันอยากวางหัวใจไว้ใกล้เธอ โอ้หละหนอ ถ้อยคำของความคิด นึกเพียงนิด ปานว่าน้ำตาเอ่อ ล้นพ้นความ เฟ้อฟุ้งบำรุงบำเรอ งดงาม มากเสมอ ละเมอมา แค่ความคิด คงมิผิด ถึงเป็นข้อครหา ว่าได้แต่ เขียนไว้ ไร้น้ำยา เหมือนบอดใบ้ บื้อบ้า ช่างน่าอาย บทส่งใจ... ผมถามใครบางคนว่า คุณว่าทำไมความทรงจำถึงได้อัศจรรย์นัก เธอว่า เขาเรียกฮาดดิสรุ่นหมื่นกิ๊ก ท่าจะจริง พระจันทร์ที่ ๑๐ มกราคมที่นี่ นนทบุรี ๕๔ / แทนคุณแทนไท
10 มกราคม 2554 13:10 น. - comment id 1178791
ที่ 1 ก่องโดนอัด
10 มกราคม 2554 13:10 น. - comment id 1178792
1
10 มกราคม 2554 13:10 น. - comment id 1178793
โหยพี่ยาอ่า
10 มกราคม 2554 13:15 น. - comment id 1178794
ในความคิดถึงของความทรงจำ มักจะทำอะไรๆให้อัศจรรย์ได้เสมอ 1 กันพลาด
10 มกราคม 2554 13:27 น. - comment id 1178797
ผมขอบคุณคุณยาแก้ปวดและคุณก้าวที่กล้าที่มาเยือนครับ วิ่งเหนื่อยๆ หยุดพักสักครู่ อ่านถ้อยคำกันสักเดี๋ยวก็ไม่ว่ากันครับ ขอบคุณในความไวที่กินกันไม่ขาดครับ
10 มกราคม 2554 13:44 น. - comment id 1178800
เวลาเท่ากัน ให้เสมอได้ป่าว กำมะเกินมาเอง ไม่เข้าข้างใคร
10 มกราคม 2554 16:16 น. - comment id 1178823
คุณ จวว ร้องขอในนามอะไร
10 มกราคม 2554 16:52 น. - comment id 1178824
คอมเม้นคุณแสงเพชรผมขออนุญาตปรับปรุงนะครับ เพลงซ้อนกัน ท่านคงเจตนาดี
10 มกราคม 2554 16:56 น. - comment id 1178825
เพลงเพราะมากๆเลยครับ
10 มกราคม 2554 16:46 น. - comment id 1178826
คุณคะ เพลงมันดังซ้อนกันสองเพลงนะคะ
10 มกราคม 2554 16:49 น. - comment id 1178827
ขอบคุณคุณ จวว ครับ หาต้นเหตุสักครู่
10 มกราคม 2554 17:38 น. - comment id 1178833
คิดถึงที่สุดเลย
10 มกราคม 2554 19:27 น. - comment id 1178839
10 มกราคม 2554 19:34 น. - comment id 1178841
เมื่อใดที่จิตลิขิตกานท์ ย่อมรู้รสความหวานที่ซ่อนนัย
10 มกราคม 2554 20:13 น. - comment id 1178849
สวัสดีครับ คุณแทนคุณแทนไทย
10 มกราคม 2554 21:37 น. - comment id 1178870
ฟังเพลงเพลิน..เม้นท์ไม่ถูกเล๊ยยย
10 มกราคม 2554 21:40 น. - comment id 1178872
@ ขอบคุณครับคุณแสงเพชร มีความสุขกับบทเพลงนะครับ @ ตาเบญญ่า คงไม่ที่สุดไปกว่าความรู้สึกผมกระมัง @ ขอบคุณครับคุณแจ้น @ คุณโคลอน เมื่อใดที่จิตลิขิตกานต์ ย่อมรู้รสความหวานที่ซ่อนนัย แค่นั้นก็สุขกว่าสิ่งใด รับรู้ได้ด้วยใจ ละไมละมุน ขอบคุณที่แวะมาครับ ยิ้มฟันขาวเชียว @ สวัสดีครับคุณหนังสือ
10 มกราคม 2554 21:46 น. - comment id 1178875
สวัสดีครับคุณเทียนหยด เพลงไพเราะจริงๆครับผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง ชอบก็ฟังได้นะครับตามสบาย แค่มาเยือนก็ขอบคุณน้ำใจแล้ว
11 มกราคม 2554 02:24 น. - comment id 1178934
ดีจ๊าคุงแทน อ่านงานคุณแล้วมันอินอ่ะ ขอหน่อย... ทุกทุกค่ำ ห้วใจพร่ำว่าเงียบเหงา บางคืนกับบางเงา มีแต่เราหรือเปล่าที่เฝ้าจำ เขียนลิขิต ประดิษฐ์สถานใช่เขียนย้ำ เขียนไว้ใช่ลำนำ บางคนขำช่างเขาไม่ว่ากัน ขีดเขียนอารมณ์เล่า ดูโง่เขลาบางครั้งเรื่องของฉัน ใครว่าคนเมามันส์ เธอเท่านั้นที่ฉันรู้สึก.. เพราะฉันเขียนหัวใจในบทนี้ เขียนที่มีในส่วนลึก อาจไม่ซึ้งไม่ซ่านไม่ก้องกึก แต่สำนึกของฉันยังชัดเจน แค่อยากจารถ้อยบทคำเขียนว่ารัก เขียนสลักร้อยไว้ใช่ล้อเล่น เป็นถ้อยคำความคิดอยากจะเป็น เธอจะเห็นหรือไม่..เรื่องของเธอ บทส่งใจ ขออาศัยความรู้สึกในคืนที่ห่างไกล คิดถึงบางใครสักคน... ....นะ... ๑๑ มกรา ๕๔ ที่คิดถึง
11 มกราคม 2554 18:14 น. - comment id 1178946
ความทรงจำมันมีความจุเกินหมื่นกิ๊กกะไบต์อีกครับ ค่าความจุมันเป็นอนันต์ (infinity) เลยครับคุณแทนคุณแทนไท บางครั้งภาพของเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต มันหลุดออกมาตอนซอฟท์แวร์ประมวลผลเพี้ยนก็มีครับ
11 มกราคม 2554 11:01 น. - comment id 1179067
บางครั้งก็อายเกินที่จะฝากถ้อยคำและความคิด บางครั้งความอายไปยู่ไหนก็ไม่รู้นะคะ
11 มกราคม 2554 13:05 น. - comment id 1179111
19 เลี่ยนได้อีก
11 มกราคม 2554 13:06 น. - comment id 1179112
บางอารมณ์เศษเสี้ยวความรู้สึก บางความนึกความคิดถึงประดั่งฝัน ยังรอแม้เวลาเนิ่นนานวัน เพราะใจฉันมีเธอเสมอ,,ใจเดียว.. อยากให้อยู่ด้วยกันในวันนี้ ไม่เคยมีใครครองแม้เศษเสี้ยว เพราะยังมั่นใจภักเพียงหนึ่งเดียว ไม่ยุ่งเกี่ยวหมายปองมองชายใด ฝากถ้อยคำห่วงหาว่าคิดถึง อ้อมกอดยังติดตรีงแม้อยู่ไหน ความเหน็บหนาวทุกอณูห้วงห้องใจ ความห่างไกล..มิอาจกั้น...ฉันรักเธอ อยากมาอยู่ด้วยกันในวันนี้ โปรดกลับมาเสียที,,,รอเสมอ... น้ำตาการรอคอยรินหล่นจนบร่าเบลอ รักเธอเสมอ..สามคำนี้..รอเธอฟัง... เช้าใจเลือกเพลงนะคะพี่แทนโดนใจจริงๆๆ ชอบมากเลยเถือโอกาสนี้สวัสดีปีใหม่นะคะ ขอให้พี่มีแต่ความสุขคิดอะไรสมหวังให้พบเจอแต่เรื่องดีๆตลอดปีตลอดไปในชีวิตคะ
11 มกราคม 2554 21:27 น. - comment id 1179142
มาตาม2ลิงกลับบ้านค่ะ
11 มกราคม 2554 21:46 น. - comment id 1179147
12 มกราคม 2554 12:53 น. - comment id 1179246
สวัสดีค่ะ พีแทน.. ขอบคุณถ้อยคำ และความคิด... ทุกถ้อยความติดตามเคยถามไถ่ ลึกของใจเก็บซ่อนด้วยอ่อนไหว รักหวงแหนถ้อยคำ "ใคร" พร่ำไว้ สุดหัวใจ...หนึ่งเดียวหวังเกี่ยวพัน... ภาพซ่อนนัยความคิดสะกิดซ้ำ ทุกรอยจำมิเลือนยังเตือนมั่น รักเพียงหนึ่งมิคลายพี่ชายนั้น เนิ่นนิรันดร์...เคียงอยู่สู่ห้องใจ.. ถ้อยคำ และความคิด...
12 มกราคม 2554 16:25 น. - comment id 1179285
ถ้อยคำเกริ่น.. บางครั้งเพลินเหมือนเที่ยวไพร บางครั้งทำหวั่นไหว เพราะหัวใจไม่เย็นชา บทกวีแห่งชีวิต.. บ้างอุทิศวันเวลา โถมหลั่งดั่งน้ำตา พรั่งพรูซ่อนในกลอนกานท์ แต่งเติมโลก.. บ้างดอกโศกกำลังบาน เจือถ้อยร้อยโวหาร เกินสลดปลดอารมณ์ สีสันสวย รินระรวยลดรสขม ตามแต่ความนิยม พอหายหนาวกับคราวล้า เถอะมวลมิตร จงใช้จิตเปลื้องปัญหา จากสมองแลสองตา นั่นคือผู้หยั่งรู้ตน สวัสดีค่า.. แวะมาขอบคุณที่ไปเม้นให้บ่อยๆค่ะ
12 มกราคม 2554 17:04 น. - comment id 1179302
สวัสดีครับคุณยาแก้ปวด ผมสวัสดีคุณยามเย็นครับ เวลานึกคิดและได้ผ่องถ่ายความรู้สึกออกไป แปลกนะครับ ไม่ว่าเศร้า สุข หรือทุกข์ กลับใจสบายเมื่อได้เขียนออกไปบ้าง บางหนความทุกข์จะมากหน่อย บางครั้งความสุขก็เกินไปนิด แต่ก็ธรรมดาของอารมณ์ครับ ถ้าเราห้ามใจเราได้ก็คงดีมิน้อย จะได้ทำทุกสิ่งด้วยความดีงามเสมอๆ แต่บางทีการปล่อยความรู้สึกอารมณ์ให้ล่องลอยก็มิได้เสียหายอะไร กลับเป็นอะไรที่งาม และงาม ตราบเท่ามิได้เบียดเบียนความเป็นไปของผู้ใด คุณครับ ผมชอบบทกวีที่คุณเขียนนะครับ สะอาดดี ผมนึกถึงบทกวีดีดี รวมกลอนรัก คุณแลมิตราเคยนำมาฝากไว้เมื่อนานมาแล้วครับ ร่วมกลอนรัก (เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์) หัวใจรักเจ้าเอยช่างเอ่ยเอื้อน แว่วแว่วเหมือนมาตามมาถามข่าว มีน้ำอย่างหยาดแก้วกลบแววดาว๑ เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง๒ อารมณ์รักมักให้เห็นเป็นกวี ถ้อยคำรักคือวลีที่เริงรุ่ง ถึงไม่จำแต่ไม่ลืมยังปลื้มปรุง หอมแห่งทุ่งดอกไม้รักรายรอง อ้อมกอดพี่จะสงวนไม่ด่วนเสนอ อ้อมตักเธอจงถนอมก่อนยอมสนอง๓ ทั้งคมคำคมความให้ตามตรอง กระเทือนห้องหัวใจกันหลายชั้น ดอกรักบานในใจใครทั้งโลก แต่ดอกโศกบานอยู่ในหัวใจฉัน๔ คนเคยรักเคยร้างเคยห่างกัน ยังหวั่นหวั่นหวามหวามอยู่รำไร โอ้นกเขาเจ้าขันกระชั้นแจ้ว เราโตแล้วหาตักอุ่นหนุนไม่ได้๕ ถ้าไม่ไปหาเขาเราเสียใจ แต่ถ้าไปหาเขาเราเสียตัว๖ ทั้งเสียวสะแสบไส้กระไรเลย อุแม่เอ๋ยเอาหัวใจออกไขทั่ว กล้าก็กล้าใจหนอกลัวก็กลัว เหมือนมายั่วมาย้ำมานำชัก ขณะที่ปากมีไว้เพื่อให้พูด เธอก็ใช้ลิ้นการฑูตพูดเสียหนัก ส่วนหัวใจมีไว้เพื่อให้รัก เธอไม่ยักใช้มัน...ฉันเสียดาย๗ เหมือนระย้าผกาแก้วแววระยับ กระทั่งกับภูผาน่าใจหาย๘ คือดวงแก้วแห่งรักมักวับวาย มีแต่จะตกกระจายไม่วายเว้น หนึ่งจะมีรักใหม่อย่าให้รู้ สองจะอยู่กับใครอย่าให้เห็น ให้ฉันเถิดขอร้องสองประเด็น แล้วจะเป็นผู้แพ้ที่แท้จริง๙ สารพันสารพัดจะสัตย์ซื่อ ความรักคือความทุกข์ถูกทุกสิ่ง ประเดี๋ยวสุขสมหมายก็พรายพริ้ง ประเดี๋ยวยิ่งปวดร้าวก็เศร้าทรุด ถ้ารักใครไม่ได้ก็ไม่รัก แต่กุจักชักดาบเข้าฉาบฉุด ดั่งโคถึกคึกคะนองลำพองรุด ใครจะยื้อใครจะยุดจะฉุดใจ๑๐ เมื่อรักกันไม่ได้ก็ไม่รัก ไม่เห็นจักเกรงการสถานไหน ไม่รักกุกุก็จักไม่รักใคร เอ๊ะ น้ำตากูไหลทำไมฤๅ๑๑ ข้อยฉวยช้อนกลอนรักมาถักร้อย เป็นสายสร้อยดอกไม้สร้อยลายสือ มอบไว้เป็นของขวัญมั่นกับมือ เสมอสื่อสารรู้...ใจสู่ใจ รายนามนักเขียนที่ประพันธ์วรรคทองจากบทกลอนชุดดังกล่าว มีดังต่อไปนี้ ๑ ตุลย์เทพ สุวรรณจินดา ๒ อังคาร กัลยาณพงศ์ ๓ สวัสดิ์ ธงศรีเจริญ ๔ เฉลิมศักดิ์ ศิลาพร ๕ นิภา บางยี่ขัน ๖ กรรณิการ์ เฮงรัศมี ๗ รังษี บางยี่ขัน ๘ อุชเชนี ๙ สนธิกาญจน์ กาญจนาสน์ ๑๐ ขรรค์ชัย บุญปาน ๑๑ สุจิตต์ วงษ์เทศ ฝากไว้ครับ อ่านเอาอิ่ม
12 มกราคม 2554 17:08 น. - comment id 1179307
คุณเพียงพลิ้ว เป็นธรรมดาครับ บางเวลาบางรู้สึกอายจะกล่าว บางเวลาบางรู้สึกนึกเสียดายมิได้เอ่ย บางเวลาบางรู้สึกเอ่ยอ้างออกมาได้อย่างไรไม่รู้ได้ ผมเป็นบ่อย คุณชินจนสนิทสนมเป็นมิตรกันไปแล้ว ขอบคุณที่แวะมาครับ มีความสุขนะครับ
12 มกราคม 2554 17:09 น. - comment id 1179308
คุณ จวว
12 มกราคม 2554 17:11 น. - comment id 1179310
คุณกระต่ายครับ เพลงนี้เป็นเพลงของไม้เมือง ไพเราะหลายเพลง ยินดีนะครับที่คุณชอบ ว่างๆแวะมาอีกนะครับ บทกลอนไพเราะมาก "ความคิดถึงนั้นช่างงดงามจริงๆ"
12 มกราคม 2554 17:13 น. - comment id 1179315
คุณสีเมจิก คุณอธิบายความได้เห็นภาพเลยครับ และเราๆระบบประมวลผลอาจเพี้ยนบ่อยก็เป็นได้ หรือว่าผมเป็นคนเดียวก็มิทราบ ขอบคุณครับ
12 มกราคม 2554 17:26 น. - comment id 1179317
คุณฉางน้อย ลิงที่ไหนครับ มีลิงด้วยรึ จะได้แขวนกล้วยไว้สักหวี
12 มกราคม 2554 17:28 น. - comment id 1179318
คุณกีกี้ ไม่พบกันนานสบายดีนะ
12 มกราคม 2554 17:34 น. - comment id 1179319
คุณแมงกุ๊ดจี่ ขอบคุณน้ำใจที่แวะมาครับ ทุกครั้งที่แวะมา จะบอกว่า ชื่นใจ น้ำมิตร น้ำคำที่ถามไถ่ สื่อได้ ว่ายังไม่ลืมกัน ถ้อยคำและความคิด คิดอย่างไรก็แถลงตามนั้น
12 มกราคม 2554 17:42 น. - comment id 1179321
คุณแก้วประภัสสรครับ ช่วงนี้ผมพอมีเวลาถึงได้แวะมาบ่อยไป บ้านผมบ้าง เขียนงานเองบ้าง หรือบางครั้งก็ไปเยี่ยมงานท่านอื่นบ้าง ผมอาจไปงานคุณบ่อยในชิ้นล่าสุด คงไม่ทำให้บ้านคุณรกเกินไป ยามได้อ่านบทกวี เหมือนได้ผ่อนพักครับ ขอบคุณที่มาเขียนคำสวยๆให้บ้านผมหน้าอยู่ขึ้น และขอบคุณด้วยบทกวีสวยๆ ด้วยบทกวีเก่าแต่ทรงคุณค่าครับ ....ฟ้อง....(โดยเกษมสุข บุณยมาลิก) อยากเขียนกลอนได้ฉ่ำเหมือนน้ำผึ้ง อ่านแล้วซึ้งซาบสุขทุกอักษร ให้รื่นรวยรินรสทุกบทกลอน จนสะท้อนสะท้านจิตมิตรทุกคน เพื่อผู้อ่านอ่อนไหวหัวใจหวิว ราวช่อหลิวลู่โอนคราวโดนฝน แต่ครั้นลองรื้ออดีตออกคิดค้น มีสักหนไหมอารมณ์เคยสมจินต์ ที่เขียนแต่กลอนอวดความปวดร้าว ใช่อยากสาวใส้ตนให้คนหมิ่น เคยเห็นแต่ความช้ำน้ำตาริน ความพังภินท์ความเศร้าและร้าวราน ท้องฟ้าคลุ้มเมฆคลึ้มดูทึมอับ ช่วยตอบรับว่าไม่มีชีวิตหวาน การหวังคอยน้ำใจใครมาจาน ต้องคอยนานถึงหมดความอดทน กลอนบทแรกแม้จารเสียหวานฉ่ำ ไม่กี่คำมักสะท้อนเป็นกลอนหม่น ภาษากลอนย้อนมาฟ้องห้องกมล โดยเผลอตนกรองกานท์ประจานใจ ถ้าฉันขาดใจตายในวันนี้ ถึงไม่มีคนหมองช่วยร้องให้ ยังพอมีกลอนย้ำความอาลัย ช่วยหม่นไหม้อาวรณ์ตอนสิ้นลม ถ้าเราจารถ้อยร้อยความคิดได้ละเมียดละไมแบบนี้บ้างคงดี สวัสดีและมีความสุขนะครับ
13 มกราคม 2554 14:32 น. - comment id 1179466
มาบ้านนี้ได้กำไรหลายต่อเลยค่ะ อ่านเพลินจนอิ่ม แบบนี้งดข้าวเย็นดีกว่าเน๊าะ
7 กุมภาพันธ์ 2554 12:56 น. - comment id 1183855
วรรคทอง "แม้ฟ้ามืดชืดแสงจากแหล่งใด โลกยังได้สว่างใส ในตานาง"
15 กุมภาพันธ์ 2554 22:27 น. - comment id 1185043
ชื่นชมและชื่นชอบคุณแทนจริงๆๆค่ะดีใจที่ได้อ่านผลงานดีๆๆและจะยังคงตามอ่านตลอดนะค่ะความคิดความปราถนาของเราไม่ผิดหลอกค่ะไม่น่าอายด้วยคิดสิ่งใดแสดงออกสิ่งนั้นแสดงออกซึ่งความรักละมุมละไมน่าชื่นชมและน่ารักที่สุดคะยังไงให้มีผลงานออกมาอีกนะค่ะ