บทเพลงแห่งความคิดฮอด ...แสงจันทราที่อับแรง ดาราอ่อนแสงมัวหม่น คืนมืดมิดยิ่งมัวมล ดั่งคนไม่อยากหายใจ ดั่งตะวันไม่หวลมา ...โลกที่เคยสดใส ไม่มีวันกลับมาหา ฤดูกาลเปลี่ยนแปลงเวลา ไม่มีฝนฟ้าเปลี่ยวเหงา ดั่งชีวิตเราจะ...ขาดรอน .......................................... โอ้หนอ...อ้ายเอย... ...ควมฮักผู้ซายนี่ ไหลหนีปานขี้ฝ่า เคยสัญญาสิมาหมั้น ผู้ได๋แล้วเปลี่ยนไป บอกว่าเคยคิดฮอด อยากกอดน้องแก้หนาว บาดเถิงคราวไกลกัน มาส่างลืมกันได้ อยากถามหัวใจอ้าย ฮักแท้อ้ายอยู่ไส....บอกมา (ขี้ฝ่า ขี้ฟ้า หมายถึงก้อนเมฆ ,มาส่างลืมกันได้หมายถึง ใยมาลืมกนได้) ............................................... ...ก็ยังคิดถึงเธอ อยู่เสมอมิคลาย มีเธอมีความหมาย ทะเลยิ่งทำให้เหงา ...คล้ายดั่งเธอลืมหมดแล้ว น้องแก้วลืมสัญญาเก่า ว่าจะไม่ลืมรักเรา แล้วจะหวนคืนกลับมา ต่อให้หมื่นฟ้าไกล ไม่หวั่นไหวกับเวลา ความรักเปี่ยมล้นอุรา คิดถึงไม่เคยจืดจาง ................................................ ....โอ้นออ้ายเอย อ้ายเคยฝากจูบไว้ ในใจน้องจำได้บ่ ยามเมื่ออ้ายจากน้อง จำได้บ่เคยลืม อันว่าเทิงท้องฟ้า เปลี่ยนสีอยู่ตลอด เปรียบคือดั่งใจอ้าย ฝากคนใกล้อยู่บ่หนอ อยากถามหัวใจอ้าย ฮักแท้อ้ายอยู่ไส..... ................................................ ....ก็ยังคิดถึงนะ ถึงแม้จะห่างหาย รักคิดถึงมิคลาย โลกนี้โหดร้ายยามไร้เธอ ชีวิตก็ต้องก้าวไป แม้ไร้เจ้าเดินเคียงข้าง แม้ต้องเดินเพียงลำพัง มีเพียงความหวัง...ยังคอย .................................................................................... อยู่ไสหนอควมฮัก........โอ้ละหนอ.................. ........................................ ห้วงทะเลขอบฟ้าไกล โหดร้ายยามไร้เธอ ยังคิดถึงเธอเสมอ ขอเธอได้โปรดคืนมา ................................................................................ ขอบฟ้าทะเลสดใส กลับมาได้ใหม....ยังคอย .................................................................................. ก็ยังคิดถึงเธอ..................... ยังคิดถึงเธอ....................... คิดถึงเธอ........................... .................................................................................. โอ้ละหนอควมฮัก.............. โอ้ละหนอ.......................... ควมฮัก............................... โอ.....โอ.....โอ........โอ.................... .............................................................................
24 ตุลาคม 2553 06:48 น. - comment id 1163581
สวัสดีคะ คุณสุรศรี ตื่นเช้า หรือ ยังไม่ได้นอนคะ ไหนบอกจะให้ฟ้าแปลหนังสือให้ไงล่ะ กลอนเพราะคะ (นอกจากบางคำอ่านไม่เข้าใจ)
24 ตุลาคม 2553 07:05 น. - comment id 1163585
หวัดดีตอนเช้าครับคุณฟ้า เมื่อคืนไปเค้าดาวน์ริมฝั่งโขงกับเพื่อนครับ ดนตรีเพราะ ๆ แสงเดือนใส ๆ เพือ่นดื่ม ร้อง เต้น แต่ผมไม่ดื่มนะ มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากครับ เดี๋ยวจะเขียนกลอนมาให้อ่านครับ ....................................................... ขอบคุณคุณฟ้ามากครับ ที่มีไมตรี คืองานมันยังไม่สมบูรณ์นะครับ เห็นคุณฟ้าเก่ง ด้านนี้ผมก็เลยลองถามดูครับ เอาไว้เสร็จเมื่อไร จะรบกวนครับ ขอบคุณอีกครั้งครับคุณฟ้า หวัดดีครับ
24 ตุลาคม 2553 08:31 น. - comment id 1163595
เดี๋ยวจะเป็นศิริพรให้จ้า อิอิ ความคิดถึงเป็นจั่งซี่เองบ่อจ้า
24 ตุลาคม 2553 09:02 น. - comment id 1163607
อ่อนหวานจังค่ะ...มีบางคำที่แซมไม่ทราบ แต่ พออ่านรวมๆ แล้ว.. รู้สึกได้ถึงความงดงามค่ะ... ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ.... แซมค่ะ
24 ตุลาคม 2553 12:14 น. - comment id 1163632
สวัสดีค่ะ คุณสุรศรี อ่านแล้วอยากอ่านอีก วนกลับมาอ่านอีกรอบค่ะ
24 ตุลาคม 2553 12:54 น. - comment id 1163647
หวัดดีครับคุณเพียงพลิ้ว เค้กหมดรึยังอะ ฝากไว้ก่อนนะ คงไม่เน่า ความรักความคิดถึงเป็นสิ่งสวยงามครับแม้ว่าเราจะคิดถึงเขาข้างเดียว..... หวัดดีครับน้องแซม คำไหนไม่ทราบก็ถามพี่โป้งนะเขาถนัดเหมือนกันนี่ ขอบคุณที่แวะมาครับ หวัดดีครับคุณวลีลักษณา ชื่อคุณเพราะจังเลย คือแบบว่า ครั้งแรกที่ผมฟังเพลงนี้ผมไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าเขาทำกันได้ยังไง เพลงสติง เศร้า ๆ หวาน ๆ ผสมผสานกับบทเพลงพื้นบ้าน(ลำเต้ย) ได้อย่างลงตัว กลมกลืนทั้งเสียงทั้งเนื้อร้อง เป็นการตัดพ้อต่อว่า ที่ต่างคนต่างพูด แต่น้ำเสียงของเขาก็อาทรห่วงใยในกันและกัน กันครับ ขอบคุณที่ให้กำลังใจครับ
24 ตุลาคม 2553 19:01 น. - comment id 1163688
บทกลอนหวานแหววน่ารักดีนะคะ อ่านแล้วให้รับรู้ถึงความรู้สึกเลยค่ะ
24 ตุลาคม 2553 20:58 น. - comment id 1163745
เราก็อ่านเปงทำนองเพลงบอดี้แสลมเลย