ภาพสะท้อนย้อนคลื่นกับพื้นน้ำ ฟ้าสีคล้ำกับทะเลที่เหว่ว้า จวบจนพลบจบตะวันเห็นจันทรา สุขวิญญาล่องลอยที่คอยรอ คืนนี้จันทร์เต็มดวงเหมือนล่วงรู้ ฉันยืนดูอีกดวงที่ลวงล่อ เงากระทบพบว่าน้ำตาคลอ คนพนอเคยพนันรักกันไง เธอชอบฟ้าฉันชอบน้ำค่ำคืนนั้น กับแสงจันทร์ระยิบกระพริบไหว เมื่อฟ้าโอบน้ำเอื้อมอบเยื่อใย ด้วยสองใจสองจันทร์คืนวันเพ็ญ
11 กันยายน 2553 23:22 น. - comment id 1155628
เข้ามาอ่าน บทกลอนดีๆ ก่อนนอนครับ
11 กันยายน 2553 23:42 น. - comment id 1155634
อย่าเพิ่งทิ้งกันนะ..ชายพจน์ เดี๋ยวเขียนกลอนยให้ 2 บท นะ
12 กันยายน 2553 00:43 น. - comment id 1155639
กับคืนนั้นนอกหน้าต่างภาพจางจับ คืนนี้กลับฝนหล่นจนไม่เห็น น้ำตาฟ้ารุ่งสางเปียกร่างเย็น ยังคงเป็นเช่นนี้อีกกี่ครา เมื่อไหร่หนาสองจันทร์จะบรรจบ เงากระทบริมฝั่งดั่งเรียกหา เสียที่เธอเพ้อพร่ำคำก่อนอำลา เป็นสัญญาหรือสัญญาณของกาลรอ
12 กันยายน 2553 11:00 น. - comment id 1155729
เพราะมากครับคุณบูมฯ
12 กันยายน 2553 11:01 น. - comment id 1155730
เมื่อน้ำเอื้อฟ้าโอบโลภเข้าครอง โอบตระกองฟ้าฉ่ำจนน้ำล้น อัสนีพลุ่งพล่านระหานชล คืนวันเพ็ญเปรอปรนสองอุ่นไอ อิอิ พอดีแอบมองอยู่อีกหน้าต่างนึง
12 กันยายน 2553 11:04 น. - comment id 1155731
อ่านต่ออีกสองบทข้างล่างแล้ว ไพเราะมากเลยครับ เศร้า.......
12 กันยายน 2553 11:25 น. - comment id 1155739
ต่อคุฤกษ์ เมื่อน้ำเอื้อฟ้าโอบโลภเข้าครอง โอบตระกองฟ้าฉ่ำจนน้ำล้น อัสนีพลุ่งพล่านระหานชล คืนวันเพ็ญเปรอปรนสองอุ่นไอ(คุณฤกษ์) ไม่มีแล้วน้ำฟ้ามาบรรจบ เสียงคลื่นกลบเสียงพรอดสุดยอดไหม? ฝนที่หล่นปนเรียกเสียงเพรียกใด แม้นหวานใจทรายกลบก็ลบเลือน ภาพสะท้อนย้อนคลื่นกับพื้นน้ำ มีแต่ย้ำย่ำแย่บาดแผลเฉือน เพ็ญที่จันทร์เป็นใจใยแชเชือน แรมแล้วเดือนเลือนลาง..ยิ่งจางจำ
12 กันยายน 2553 13:13 น. - comment id 1155765
สวัสดีครับ...คุณบูมเมอแรง.... "กวี ซีม่า" แวะมาเยี่ยมชมนอกหน้าต่างครับ **************************** ภาพที่เห็น พบว่า นอกหน้าต่าง ยังคงจาง ว่างเปล่า ทุกเช้าค่ำ เพ็ญแสงโสม ส่องประกาย บนสายน้ำ เหมือนตอกย้ำ ว่าวันนี้ ไม่มีดาว ดาวที่เคย จรัสจ้า วันฟ้าหม่น เราสุขล้น หวานชื่น ในคืนหนาว พอจันทร์แจ้ง แสงเทอง ส่องสกาว ดาวลับล่วง ห้วงหาว ร้าวฤทัย เหม่อตามอง นอกหน้าต่าง คงว่างเปล่า เก็บความหลัง เก่าเก่า มาเล่าใหม่ ถึงวันนี้ ไม่มีเขา เราเข้าใจ ยังเก็บภาพ นั้นไว้...ในทรงจำ
12 กันยายน 2553 14:47 น. - comment id 1155778
คุณกวี ซีม่า ดื่มกาแฟกันหน่อยไหมคะ มองสายฝนหม่นมัวเนื้อตัวสั่น ใจยังหวั่นนิวรณ์แอบซ่อนช้ำ คุณกวี ซีม่า มาทวนคำ ตาดำดำเริ่มเศร้าไม่เข้าใจ ด้วยคืนนั้นดาวใจมอบไออุ่น อกที่หนุนแอบเอื้อว่าเชื่อได้ พระจันทร์ยิ้มส่งซิคระริกไกล ห้วงหทัยสองดวงยอมล่วงเกิน ตอนนี้ฝนกำลังตกค่ะถ้าต่อกลับมา.ยากจะฉุดให้หยุดอยู่ค่ะ
12 กันยายน 2553 14:49 น. - comment id 1155780
นอกหน้าต่างคืนนี้มีจันทร์เพ็ญ ดูสวยเด่นเห็นฟ้าพาสดใส ให้คิดถึงคนดีที่อยู่ไกล เหตุไฉนใจจึงคิดถึงเธอ
13 กันยายน 2553 14:40 น. - comment id 1155878
สวัสดัครับ...คุณบูมเมอแรง... "โคโยตี้ ซีม่า" แวะมารับสัมผัสกลอน..ขอ-รับ มองไปนอก หน้าต่าง ก็อย่างงั้น มองพระจันทร์ แรมร้าง ยังขัดเขิน มองหาดาว ที่พร้อม ยอมร่วมเดิน ก็หมางเมิน ทุกครั้ง ที่นั่งมอง ถมความทุกข์ ท่วมใจ แสนหน่ายเหนื่อย รอจนเมื่อย อ่อนล้า อุราหมอง โยนภาพลักษณ์ ความหลัง เคยรังรอง ออกจากห้อง ตรงทาง หน้าต่างใจ
13 กันยายน 2553 19:36 น. - comment id 1155920
จันทร์ที่แรมแก้มที่ร้างยังค้างอก จะโยนยกกว้างทิ้งยิ่งเข้าใกล้ บูมเมอแรงรู้ดีที่เขวี้ยงไป แรงเท่าใด? จะแรงกลับรับไม่ทัน ไม่อยากมองกระจกฝ้าปิดผ้าม่าน หัวใจด้านสายฟ้าแล๊บแป๊บกระชั้น เสียงฝนตกอกที่ช้ำก็รำพัน เขียนกลอนกัน..แก้เหงา..ได้เท่านี้