~๐ครั้งองค์พระทศพลสมเด็จเจ้า เสวยชาตินานเนาเป็นหงสา เลี้ยงมารดรปิตุเรศผู้ชรา ไกรลาศหนาถิ่นพำนักในพงพี~ ~๐เวลาเช้าพร่ำบ่นมนตราฤทธิ์ อันศักสิทธิ์ป้องกันภัยในทุกที่ จากหมู่พรานไพรพนาที่มากมี ก่อนจรรีบินเข้าเขตดงไพร~ ~๐หาอาหารเลี้ยงพ่อแม่ที่แก่เฒ่า ไม่จิตเบาเพลินเที่ยวเถลไถล ระวังกายสำรวมจิตมิวางใจ จึงรอดพ้นพิบัติภัยมาทุกครา~ ~๐ถือสัจจะละทางเดินโดยประมาท จึงแคล้วคลาดบ่วงพรานดักหงสา ที่คอยคิดทำลายหมายบีฑา พรานชแรแก่ชรามิสมการณ์~ ~๐ถึงคราวเคราะห์เพราะเหตุแห่งชีวิต กรรมมาปิดบดบังคิดสังหาร เมื่อวันหนึ่งนานเนื่องจำเนียรกาล ลงมาหาอาหารเหมือนดั่งเคย~ ~๐กิริยาอันใดที่เคยทำ ทั้งจิตจำทำประกอบไม่วางเฉย ทั้งระวังไม่ประมาทสักนิดเลย ทำอย่างเคยคำสอนบิดรมารดา~ ~๐เดินก้าวย่างกลางไพรอย่างเคยคุ้น จิตการุณห่วงพ่อแม่เป็นหนักหนา หมายเสร็จกิจรีบกลับเหมือนทุกครา อนิจจาเดินติดบ่วงของพรานไพร~ ~๐พร่ำเสียงขานน้ำตานองอาบใบหน้า ว่าพ่อจ๋าแม่จ๋าเป็นไฉน ลูกมาติดบ่วงพรานอาจต้องตาย ต่อนี้ใครจะเลี้ยงท่านให้อยู่ดี~ ~๐พรานได้ยินเสียงหงส์องค์โพธิ คิดดำริไต่ถามตามเรื่องนี้ เดินเข้าหาเอ่ยวาจาไม่ช้าที ถามสิ่งที่ตัวพบประสบมา~ ~๐ว่าหงส์ทองไฉนท่านจึงประมาท ก่อนเก่งกาจเรามิอาจจะเข่นฆ่า ตั้งแต่หนุ่มเราเฝ้าจับตัวท่านมา จนตัวเราเฒ่าชรามิสมปอง~ ~๐มาวันนี้เห็นสมอารมณ์หมาย ตัวท่านไซร้ย่ามใจหยิ่งผยอง เดินสุ่มสี่สุ่มห้าตาไม่มอง เข้ามาต้องบ่วงเราน่าเศร้าใจ~ ~๐แทนที่จะห่วงไยในชีวิต กลับพร่ำเสียงเพียงพินิจน่าสงสัย ชวนเราคิดจึงอยากถามเนื้อความนัย ก่อนจับตัวท่านไปตามใจเรา~ ~๐ครานั้นหงส์องค์โพธิได้เอ่ยตอบ ว่าพรานเอ๋ยท่านทำชอบมิใช่เขลา ท่านเป็นเช่นบัณฑิตคิดฟังเรา มิมัวเมาฆ่าแกงในทันที~ ~๐อันตัวเราที่มาติดบ่วงท่าน มิได้มั่นทางมิชอบในวิถี มิได้ยึดทางประมาทในชีวี เป็นเช่นนี้เพราะคราวเคราะห์ของเราเอง~ ~๐อันตัวเราจะต้องตายไม่คิดห่วง เพราะรู้ล่วงบ่วงกรรมที่ข่มเหง เพราะกรรมเก่าเราทำมาฉะนี้เอง จึงไม่เกรงชดใช้ด้วยชีพตน~ ~๐แต่มารดาบิดาของเรานั้น ทั้งสองท่านแก่ชราจะรับผล แห่งความทุกข์เหลือประมาณมิทานทน เมื่อรู้ผลแห่งบุตรน้อยผู้จากไป~ ~๐จะไม่มีใครผู้ใดมาเลี้ยงป้อน หาอาหารจัดที่นอนให้ท่านได้ เมื่อมีเหตุภัยเภทมากล้ำกราย ใครที่ไหนจะให้ท่านพักพิง~ ~๐ก่อนที่เราจะถึงซึ่งชีวิต ขอวอนท่านสักนิดอย่าคิดนิ่ง ปล่อยเราไปลาแม่พ่อขอประวิง ขอสักสิ่งก่อนพรากชีพไปจากตน~ ~๐อันตัวเรายึดถือในสัจจะ อมตวาจาทุกแห่งหน จะไม่หลบหนีหน้าชะตาตน สมดั่งใจดั้นด้นจะกลับมา~ ~๐พรานได้ฟังจิตอ่อนไหวใจสงสาร ว่าชาติพันธุ์เป็นสัตว์เหล่าปักษา ใจประเสริฐกว่าบางคนในโลกา ยึดคุณค่าตายก็ยังกตัญญู~ ~๐จึงปลดบ่วงโดยไวไม่รอช้า ประนมหัตถ์วันทาไหว้ใจอดสู พร้อมอดโทษต่อหงส์ทองเฝ้ามองดู น้ำตาพรูหลั่งไหลใจเทิดทูน~ ~๐พลางเอื้อนเอ่ยวาจาว่าพ่อหงส์ ขอท่านจงกลับไปวังไอยศูรย์ เลี้ยงแม่พ่อของท่านทดแทนคุณ ตราบชีวิตดับสูญไปตามกาล~ ~๐เพราะตัวท่านกตัญญูรู้สัจจะ เราจะละการผลาญชีวิตท่าน ขอสวัสดิ์ชีพนี้ท่านจงนาน เจริญสุขทุกสถานนิรันดร์เทอญ~ ~๐ถ้าชีวิตคนเราเปรียบเรื่องนี้ มีทั้งดีทั้งผิดคิดตื้นเขิน แต่ยึดมั่นทำดีบนทางเดิน แม้เผชิญผิดพลั้งในบางครา~ ~๐ถึงคราวต้องหมองช้ำเพราะกรรมซัด ต้องติดขัดข้องจิตด้วยโมหา ไม่ตั้งใจให้พลาดผิดเจตนา แต่กรรมพาดลให้พลั้งดังคำเปรย~ ~๐สำคัญที่มีคนให้โอกาส เมื่อเขาพลาดไม่เหยียบซ้ำทำเมินเฉย ยืนเคียงข้างสร้างแรงใจให้ดั่งเคย ไม่ละเลยแม้ยามพบประสบภัย~ ~๐ขอเพียงตั้งรักวางไว้ตรงหน้า ยึดความดีและศรัทธาไม่หวั่นไหว แม้มีเหตุอาเภทหนักสักปานใด จะพ้นภัยเพราะดีป้องคุ้มครองตน.~
30 มกราคม 2553 23:43 น. - comment id 1093865
เจริญธรรมค่ะ ได้อ่านบทกลอนสอนธรรม ยาว ๆ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมนะคะ
31 มกราคม 2553 03:03 น. - comment id 1093899
...เหมือนนั่งอ่านนิทานเลยค่ะ...เพลินค่ะ...เพราะด้วย......
31 มกราคม 2553 06:14 น. - comment id 1093912
สวัสดีครับ น่าอ่านจังเลยครับ
31 มกราคม 2553 08:28 น. - comment id 1093932
เพราะ น่าอ่านมากค่ะ
31 มกราคม 2553 09:39 น. - comment id 1093953
คุณ ปรางทิพย์ สาธุ..ขอบคุณมากครับสำหรับการแวะมาเยี่ยมเยือนด้วยไมตรีจิต หวังว่าสิ่งที่เขียนนี้จะช่วยให้คนเราไม่ย่อท้อต่อการทำความดี แม้ว่าจะมีอุปสรรคใด ๆ มากั้นขวาง แม้แต่อุปสรรคจากโชคชะตาก็ตาม ขอเพียงมีความรัก ศรัทธา และเชื่อมั่นในความดีครับ..สาธุ
31 มกราคม 2553 09:45 น. - comment id 1093954
คุณ คมดาบนารี ขอบคุณมากนะครับ สำหรับการมาเยี่ยมเยือนกัน ชอบมากครับที่อ่านแล้วรู้สึกเพลิน เพราะอาจจะด้วยความที่เนื้อกลอน มีจำนวนบทที่ยาวมาก ในใจผู้แต่งเองยังคิดเลยว่า จะมีผู้ใดบ้างหนอทนอ่านให้จบได้ แต่นี่อ่านแล้วใช้คำว่าเพลิน นับเป็นความปลื้มใจของผู้แต่งเป็นอย่างยิ่งครับ..ขอบคุณอีกครั้งครับผม แวะมาอีกนะครับ
31 มกราคม 2553 09:47 น. - comment id 1093955
คุณ อินสวน ขอบคุณสำหรับการมาเยี่ยมครับผม ได้รับกำลังใจจากนักกลอนฝีมือชั้นครู ย่อมทำให้ผู้ใหม่นี้มีกำลังใจครับผม..แวะมาอีกนะครับ
31 มกราคม 2553 09:48 น. - comment id 1093956
คุณ อนงค์นาง ขอบคุณสำหรับการมาเยี่ยมครับผม ได้รับกำลังใจจากนักกลอนฝีมือชั้นครู ย่อมทำให้ผู้ใหม่นี้มีกำลังใจครับผม..แวะมาอีกนะครับ
31 มกราคม 2553 10:06 น. - comment id 1093959
31 มกราคม 2553 11:11 น. - comment id 1093982
คุณ ตั ว เ ล็ ก ขอบคุณมากมายสำหรับกำลังใจครับผม
31 มกราคม 2553 12:19 น. - comment id 1093998
ถึงเคราะห์หามยามร้ายให้เศร้าโศก ไม่มีโชคลาภยศมาหมดหาย ความมุ่งมั่นทำดีมิเสื่อมคลาย สิ่งเลวร้ายกลายเป็นดีมิอับจน ไม่มีอะไรเคราะห์ร้ายตลอดนะคะ
31 มกราคม 2553 12:52 น. - comment id 1094007
มาชื่นชมผลงานและมาขอบคุณที่ไปเยี่ยมเยือน และฝากข้อคิดเห็นดีๆไว้ที่บ้านนะคะ
31 มกราคม 2553 13:04 น. - comment id 1094010
คุณ ครูกระดาษทราย จริงอย่างนั้นครับ ไม่มีอะไรที่โชคดีหรือโชคร้ายไปซะทุกอย่าง แต่เลือกที่จะยึดมั่นทำความดีโดยไม่ย่อท้อ ดีใจมากครับที่แวะมาเยี่ยม ขอบคุณมากครับ
31 มกราคม 2553 13:08 น. - comment id 1094012
คุณ โคลอน ยินดีและเต็มใจเป็นอย่างยิ่งครับ แวะเวียนมาได้ตลอดครับยินดีต้อนรับเสมอเลย ผมได้อ่านผลงานของคุณโคลอน ก็รู้สึกประทับใจเช่นเดียวกัน ว่ากันว่า ข้อความที่จะถ่ายทอดหรือตอบสนองต่อข้อความใด ข้อความของผู้ตั้งต้องดียิ่งกว่า เพราะจะเป็นสื่อนำความคิดของผู้เขียนในภายหลัง ผลงานของคุณโคลอน เป็นเช่นนั้นครับผม
31 มกราคม 2553 17:11 น. - comment id 1094104
สวัสดีค่ะ เป็นสิ่งเตือนใจให้ข้อคิดกระต่ายหลายอย่างน่ะค่ะ ทั้งที่เรื่องเคยรับปากใครคนหนึ่งจะเขียนชาดกนามแนวเขียนตัวเองแต่ไม่รุ้จะเริ่มตรงจุดไหนอีกอย่างไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย ในสายลมหนาวที่เดียวดายย่อมห่อหุ้มไอที่อบอุ่นมาด้วยเสมอ คงเป็นลักษณะผู้ชายอย่างคุณกระมังค่ะ
31 มกราคม 2553 17:21 น. - comment id 1094106
เอ่อ คือว่า สหายโคลอนไล่ให้มาอ่านคะ แหะ..แหะ.... พออ่านแล้วถึงบางอ้อ ..... ขอบคุณสำหรับกลอนดีๆนะคะ
31 มกราคม 2553 20:30 น. - comment id 1094164
คุณ กระต่ายใต้เงาจันทร์ ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับที่แวะมาเยี่ยม ถ้าเนื้อความ ข้อความใดของผมจะพอมีประโยชน์บ้างก็ปลื้มใจแล้วครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ขอบคุณครับผม
31 มกราคม 2553 20:33 น. - comment id 1094166
คุณ ฉางน้อย ยินดีและเต็มใจเสมอครับที่แวะมาเยี่ยม จริง ๆ ถ้าจะบอกให้ถูก ฉางน้อยก็เหมือนคนคุ้นเคยคนนึงเลยนะ เพียงแต่ว่าตัวผมเองไม่ค่อยได้เข้ามาบ่อยนักน่ะครับ แต่แฝงมากะคนข้างหมอนซะมากกว่า..อิอิ แล้วที่ว่าถึงบางอ้อนี่ อ้อไหนล่ะครับ..
31 มกราคม 2553 20:53 น. - comment id 1094172
18.........อ้อ แอ้.....ฟันธง แอนด์ คอนเฟริ์ม....
31 มกราคม 2553 22:31 น. - comment id 1094217
คงเป็นคราวเคราะห์
1 กุมภาพันธ์ 2553 00:38 น. - comment id 1094252
คุณ ฉางน้อย ถ้าฟันธง+คอนเฟิร์มขนาดนี้ คงต้องอ้อและแอ้ตามใช่มั้ยครับ...อิอิ ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีครับฉางน้อย
1 กุมภาพันธ์ 2553 00:41 น. - comment id 1094254
คุณ ก่องกิก คงเป็นคราวเคราะห์ของคุณก่องกิกจริง ๆ ที่หลงเดินทางเข้ามาอ่านกลอนยาว ๆ แบบนี้สินะครับ..อิอิ แต่ในเมื่อเผลอตัวเผลอใจมาแล้ว ดื่มกาแฟร้อน ๆ สักถ้วยก่อนกลับนะครับผม ขอบคุณมากครับที่มาเยี่ยมเยือน ..ราตรีสวัสดิ์ครับ รักษาสุขภาพด้วย
1 กุมภาพันธ์ 2553 02:11 น. - comment id 1094262
.......โห สัญญลักษณ์เหมือนเค้าเลยอ่ะ คิทตี้สีจามปู อิอิ .....
1 กุมภาพันธ์ 2553 10:21 น. - comment id 1094307
ดุจอ่านชาดก... เจริญธรรม..
1 กุมภาพันธ์ 2553 14:06 น. - comment id 1094373
คุณ ฉางน้อย สำคัญมากครับคุณฉางน้อย ทุกสิ่งสำคัญที่"ใจตรงกัน" ขอบคุณที่แวะมาอีกครับผม แต่อย่าเพิ่งด่วนกลับเลย รับกาแฟอุ่นไปดื่มสักแก้วนะครับ
1 กุมภาพันธ์ 2553 14:10 น. - comment id 1094375
คุณ กิ่งโศก ขอบคุณมากมายครับที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียน ได้ติดตามอ่านผลงานของคุณกิ่งโศกมาพอสมควร รู้สึกประทับใจก็มิใช่น้อย วันนี้ดีใจที่คุณกิ่งโศกแวะมาครับ รับกาแฟ นั่งสนทนาให้ความรู้ผู้ใหม่ก่อนกลับนะครับผม
1 กุมภาพันธ์ 2553 21:48 น. - comment id 1094586
สุดยอดจริงๆค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
2 กุมภาพันธ์ 2553 04:51 น. - comment id 1094663
คุณ นรสิริ ขอบคุณมากครับที่แวะมาเยี่ยมเยียน ถ้ามีเวลาก็อยากจะให้แวะมาบ่อย ๆ สู่เรือนกลอนหลังน้อยหลังนี้ด้วยนะครับผม
2 กุมภาพันธ์ 2553 05:13 น. - comment id 1094666
ไหนๆก็ไหนๆแระ ขอบ้านนี้ด้วยแระกัน ฟิ้ววววววววววว
2 กุมภาพันธ์ 2553 05:13 น. - comment id 1094667
30.........ฮี่ ฮี่...... นอนตายตาเหลือก เอ๊ย ตาหลับแระเรา อิอิ