ผีเสื้อน้อย ลอยละล่อง ร่อนถลา กุสุมา กลีบบาง พลิ้วปลิวไสว เจ้าปีกสวย ดอมดม ชมชื่นใจ ดูดดื่มไซ้ จนอิ่มหนำ สำราญทรวง สุธาหวาน ปานน้ำตาล ที่ลิ้มรส พอดูดหมด หยดน้ำหวาน ที่แสนหวง กระพือปีก ลาจากเกสร ทั้งรวง พอตักตวง ลวงให้ช้ำ ก็บินไป ไยสวรรค์ สาปฉันเป็น ดังเช่นบุปผา เหล่าภุมรา เชยชม สมใจหมาย ก็ทอดทิ้ง ให้เปล่าเปลี่ยว อย่างเดียวดาย เป็นดอกไม้ กลางดิน ที่ถูกลืม
13 ธันวาคม 2552 16:11 น. - comment id 1073584
ฟังชื่อคุณแล้ว..อยากกินจัง..นึกถึงบ้านนอก บ้านนาของผมมีต้นหว้ามากมายบางต้นก็ หวานบางต้นก็ฝาด..แต่เชื่อไหมละว่ามันเก็บ กินลำบากมาก..เพราะกว่าจะเก็บมากินได้ก็ ฝ่ากองมดแดงเต็มต้นเลย..ครับ แวะมาให้กำลังใจเป็นคนแรกเลยในห้องนี้ บทกลอนก็เพราะดีสวยงามแบบธรรมชาติ ครับ....
13 ธันวาคม 2552 20:07 น. - comment id 1073682
หอมเอยหอม...ดอมดมจนสมอยาก แล้วก็พรากจากไปให้โหยหา ไยลืมสิ้นกลิ่นรสสลดลา เจ้าบุปผาครารอแสนท้อใจ มากความหมายค่ะ
13 ธันวาคม 2552 21:32 น. - comment id 1073715
ขอบคุณค่ะน้าประทานที่มาให้กำลังใจคะ ขอบคุณสำหรับบทกลอนคะพี่ปรางทิพย์ ^O^
14 ธันวาคม 2552 00:37 น. - comment id 1073766
มาชื่นชมครับสหาย
14 ธันวาคม 2552 08:25 น. - comment id 1073801
อ๊ะ? โดนซะแล้วเรา หมู่ภมร บินไปทั่วเลย ชมดอกโน้น ดอกนี้ กำลังเพลิน นกก็มาโฉบเอาผีเสื้อแสนสวยไปกินเป็นอาหาร บุปผาก็รอคอย ไยผีเสื้อไม่กลับมา
14 ธันวาคม 2552 21:45 น. - comment id 1074146
เพราะมากครับคุณลูกหว้า อ่านแล้วเศร้าสะเทือนใจดีแท้นอ.... แต่บุปผาราตรีนี่กลิ่นหอมมากกว่าบุปผากลางคืนนะครับ แถมยังไม่ค่อยจะมีคู่แข่งด้วยนา....