สาดแสงเพ็ญเดือนเด่นในคืนหนาว ประกายดาวร่วงหล่นแต่หนไหน ห้วงแห่งฟ้าว้าเหว่เห่กล่อมใคร ลมระบัดพัดใจให้ใครครวญ แลน้ำค้างหยาดมาเพลานี้ ณ ราตรีแห่งเหงาเศร้ากำศรวล สไบแพรผืนใดให้ห่มนวล ทุกสิ่งล้วนมิเทียมเท่าเงาพี่ชาย หนาวเนื้อหนาวใจหนาวสายหมอก อวลกลิ่นดอกราตรีบ่มีหาย สัตบรรณยืนต้นอยู่เดียวดาย มองดั่งคล้ายนวลละออ...รอพี่ยา ดูแสงเพ็ญยังเด่นในคืนหนาว ยิ่งเจ็บร้าวในคืนไร้...สเน่หา วอนลมหนาว...ดาว...หมอก...จงพัดพา รัก...คิดถึง...อาลัยหา...ทุกตราตรึง
27 พฤศจิกายน 2552 15:20 น. - comment id 1068514
ไพเราะยิ่งครับ ชื่นชมด้วยความจริงใจ
27 พฤศจิกายน 2552 15:36 น. - comment id 1068519
ผมก็เคยเป็นโรคนี้ครับ
27 พฤศจิกายน 2552 17:36 น. - comment id 1068533
ไพเราะมากค่ะ อ่านแล้วจับใจสุดๆไปเลย
27 พฤศจิกายน 2552 20:42 น. - comment id 1068562
สไบแพรผืนใดให้ห่มนวล ทุกสิ่งล้วนมิเทียมเท่าเงาพี่ชาย .... อุ่นใดไหนเล่าเท่าอุ่นรักเนาะ กลอนไพเราะจังเลยค่ะ
27 พฤศจิกายน 2552 21:10 น. - comment id 1068578
ถ้อยคำสำบัดสำนวน ให้ชวนเคลิบเคลิ้มหลงไหลมากครับ ไพเราะมาก ๆ ครับ
28 พฤศจิกายน 2552 04:41 น. - comment id 1068652
หวานซึ้งตรึงใจค่ะ
28 พฤศจิกายน 2552 12:21 น. - comment id 1068725
หยาดน้ำค้างพร่างพรมระทมหนาว คืนไร้ดาวคราวจิตนั้นคิดถึง นวลอ้างว้างร้างรักภักดิ์รำพึง เพียงชายหนึ่งซึ้งอยู่มิรู้คลาย
29 พฤศจิกายน 2552 09:50 น. - comment id 1068843
อย่างกะเพลง พี่เสก เลยนะครับ เหงา คิดถึง รอ อ่านแล้ว อารมณ์เดียวกันเลย