ตะวันลับกลับหายที่ปลายฟ้า เดือนดาราคราแรมแต้มความเหงา ดาวดับดวงห่วงหาฟ้าจางเงา เมื่อไร้เขา เราเพ้อชะเง้อคอย เหม่อมองไปไกลลิ่วแนวทิวสน ฟ้าสีหม่นดลให้ฤทัยหงอย พิศจันทร์เสี้ยวเรียวบางอย่างเลื่อนลอย กล่อมลูกน้อยกลอยใจไว้ทั้งคืน มือไกวเปลเห่กล่อมเจ้าจอมขวัญ หัวใจมั่นหวั่นไหวไม่อาจฝืน เสียงสนครวญนวลร่ำเกินกล้ำกลืน ถอนสะอื้นขืนอยู่เพียงผู้เดียว แม้กายรู้สู้ไหวแต่ใจล้า หยาดน้ำตาพาไหลไร้ใครเหลียว เบื่อข้าวปลาอาหารพาลซีดเซียว หัวใจเดี่ยวเปลี่ยวเหงาเศร้าจีรัง เสียงนางครวญหวนเพ้อละเมอหา ไยพี่ยาลาลับมิกลับหลัง ฤาลืมลูกผูกพันฝันลำพัง ทิ้งความหวังครั้งเก่าที่เฝ้าเตือน แม้น้ำตาครานี้เป็นสีเลือด มิเคยเผือดเหือดหายคล้ายย้ำเฉือน เคยหวังเคียงเรียงคู่ดูลางเลือน ดั่งดวงเดือนเคลื่อนลับกับคืนแรม หวังจดจำค่ำคืนเคยชื่นหวาน วันดวงมานซ่านไหววัยแรกแย้ม ทุกห้องใจไหนเลยใครเคยแซม พี่เปิดแง้มแต้มรักสลักทรวง ดั่งคืนวันพลันหายที่ปลายฟ้า เดือนดาราลาลับกลับคืนสรวง เสียงเพลงเห่เปลไกวในเรือนรวง จนดาวร่วงล่วงสางนางคงครวญ
17 พฤศจิกายน 2552 23:56 น. - comment id 1044298
คุณฤกษ์ (ไม่จำเป็นต้องล็อกอิน) อิอิ เล่นครวญทั้งคืนนี่นา ครั้งแรกไม่รู้ว่าต้น เหตุเสียงครวญเกิดจากอะไรจะเจ็บปวดก็ไม่ใช่ ใช่ บางครั้งก็มีกระซิก ๆ ทำให้จินตนาการ ไปยืดยาวต่อเมื่ออ่านกลอนแล้วถึงรู้ว่า ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวนี่เอง อิอิ มาแอบฟังนางครวญหวนละห้อย จนเดือนคล้อยมิคลายหายสะอื้น คงครวญคร่ำน้ำตาไหลไปทั้งคืน กว่าจะตื่นคงสายเข้าบ่ายโมง .................................................... หยาดน้ำตาครารินดังสิ้นโศก แม้วิโยคโบกหายสบายโล่ง ความอัดอั้นบั่นทอท้ออยู่โยง จึงเปิดโปงโพรงช้ำเขาย่ำใจ อิอิ.....ก็มันเป็นเสียงจินตนาการนี่คะ การเลี้ยงลูกคนเดียวน่ะ ไม่ทรมานนะคะ แต่สงสารลูกน่ะ ให้เค้าเกิดมาแล้ว กลับต้อง กำพร้าน่ะ อิอิ....ถึงปรางจะครวญได้ยันเช้านะคะ อย่าคิดนะคะว่าจะตื่นสาย น็อควันน็อคคืนค่ะ หลับไม่ลงง่ะ
18 พฤศจิกายน 2552 00:48 น. - comment id 1044307
คุณสุริยันต์ จันทราทิตย์ ช่างไพเราะเพราะพริ้งเศร้าจริงหนอ ฟังนางครวญหวนไห้ได้แต่รอ ระทมท้อทุกข์ใจเมื่อได้ยิน ................................................. ในความเศร้าเหงาแปลกแทรกความหมาย ยามเดียวดายสายใจให้ถวิล ความทุกข์ทนหม่นหมองร่ำร้องจินต์ ดังหมดสิ้นดิ้นไปใช่ได้คืน ขอบคุณมากนะคะที่แวะเข้ามาค่ะ ขอให้มีความสุขนะคะ
18 พฤศจิกายน 2552 00:52 น. - comment id 1044308
น้ำตาลหวาน มาอ่านบทกลอนช้าไปหน่อย ยังคงความสวยงามไพเราะเหมือนเดิม แต่...เศร้าจังเลยค่ะพี่ปราง .................................................... ขอบคุณค่ะที่แวะมา มาช้าดีกว่าไม่มานะคะ มันเป็นความในใจน่ะค่ะ อยากให้ผู้ชายรู้บ้างน่ะ ว่ายามหญิงทุกข์เป็นเช่นไร ขอให้น้องน้ำตาล มีความสุขนะคะ
18 พฤศจิกายน 2552 00:59 น. - comment id 1044310
คุณจะไม่เด็ด กลอนงดงามไพเราะ..และก็เข้าถึงอารมณ์ได้ ชนิดที่ว่าซึ้งจนถึงก้นหัวใจเลยครับ ...................................................... แหม....ขอบคุณในคำชมค่ะ อาจจะเป็น เพราะว่า เรื่องราวที่พี่สาวทั้งสองประสบอยู่ มันสะเทือนใจน่ะค่ะ กลอนบทนี้ปรางทิพย์ แต่งขึ้นขณะที่ร่างกายอ่อนแอมาก และ สภาพจิตใจย่ำแย่ค่ะ เลยอาจจะอินท์ มากไปนิดค่ะ ขอให้คุณจะไม่เด็ด (รีบเด็ดซะนะคะ) มีความสุขนะคะ
18 พฤศจิกายน 2552 01:01 น. - comment id 1044312
พี่รุณ มามาแล้ว ไม่แคล้วคงได้เจอกัน คอยมาตั้งนมนาม ขวัญใจก็ยังไม่มา ที่แรกก็คิดว่าหลอก ที่หลอกให้พี่รอคอย โอ้แม่เจ้าสาวน้อย ให้พี่รอคอยจนเจ็บอุรา ....................................................... พี่รุณคะ ไหน ๆ ก็คอยแล้ว คอยอีกนิดนะคะ หากมีโอกาส มีเวลา พี่รุณจะได้เจอกับสาวน้อย ในดวงใจนะคะ ปรางเอาใจช่วยค่ะ
18 พฤศจิกายน 2552 01:07 น. - comment id 1044315
คุณโชคชัย เลิศสุทธิรัศมีวง แง แง แง เหงาทั้งกาย เหงาทั้งใจ เลยซิเรา ................................................ ใครว่าล่ะคะ มาเลยค่ะปรางมาอยู่ ใกล้ ๆ เป็นเพื่อนแล้ว โอ๋ ๆ อย่าร้องนะคะ เดี๋ยวไม่หล่อนะคะ
18 พฤศจิกายน 2552 01:27 น. - comment id 1044318
คุณแสงเพชร เสียงนางครวญชวนให้ใจปวดร้าว อยากพุ่งหลาวเข้าไปคอยช่วยเหลือ หนุ่มไหนหนอหนีไปไร้จุนเจือ จับมาแล่แช่เกลือให้เสือกิน เสียงวิเวกวังเวงดังเพลงเศร้า ต้องคอยเฝ้าเย้าเรือนแลทรัพย์สิน สองมือไกวน้ำตาพาหลั่งริน ใจถวิลคิดถึงซึ่งรักกลาย ภาพความหลังครั้งเก่าเฝ้าหวนคืน สะอึกสะอื้นขื่นขมตรมเหลือหลาย จำต้องทนหม่นหมองตรองใจชาย เจ็บจนหน่ายนานนับจับหัวใจ ................................................... ยามวังเวงเพลงหวานยังพาลเศร้า ไขว่คว้าเงาเขาหน่ายร้ายไปไหม เฝ้าทวงถามยามเพ้อละเมอไกล ดั่งยอกใจใครบ้างอยากร้างตรม ภาพความหลังดังย้ำความช้ำชอก เขากลับกลอกบอกรักหักขื่นขม จำต้องฝืนขืนรอท้อระบม ดุจโคลนตมจมดิ่งทิ้งร่องรอย จึงคร่ำครวญหวนบอกว่ายอกแสน ข้ามดินแดนแผ่นฟ้าคราเหงาหงอย ถึงผู้ชายหมายฝากจากคนคอย ใจดวงน้อยลอยคว้างกลางน้ำตา ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาฝากกลอนไว้ ขอให้คุณมีความสุขเช่นกันค่ะ
18 พฤศจิกายน 2552 01:31 น. - comment id 1044319
กวีน้อยฯ เศร้ามากๆ ครับ หวังว่า เหตุการณ์ ตามเนื้อกลอน จะเกิดขึ้นน้อยที่สุด ในสังคมไทย สงสารเด็ก น่ะสิ ครับ มาเยี่ยมเยียนช้า คงไม่ว่ากันนะครับ ไม่ว่าง และไม่ค่อยสบายด้วย ตอนนี้ ยังมึนๆ หัวอยู่เลย ไม่รู้จะแต่งกลอนใหม่ได้หรือเปล่า ....................................................... แค่แวะมาให้กำลังใจ พี่ปรางก็ดีใจแล้วค่ะ ไม่ค่อยสบายหรือคะ เห็นบ่นมานานทราบ แต่ว่าไม่ค่อยดี แต่ไม่ทราบว่าเป็นอะไรนะคะ ตอนนี้พี่ปรางก็แย่ค่ะ เป็นปอดบวมน่ะ อากาศเย็นมาก พักผ่อนน้อย เล่นเอาแย่ไปเลยค่ะ ดูแลสุขภาพนะคะ
18 พฤศจิกายน 2552 01:49 น. - comment id 1044325
โอเลี้ยง อ่านแล้วคิดถึงแม่จังเลยค่ะพี่ทิพย์ ................................................... โอ๋ ๆ ๆ ๆ อย่าร้องนะคะ คิดถึงแม่ กลับไปหาท่าน หากจัดเวลาได้ คนเรามีหน้าที่ต้องทำนะคะ ทำงาน เรียน ถือว่าทำให้ท่านภูมิใจเช่นกันค่ะ หมั่นโทรหา เขียนจดหมายหา หากมี โอกาส กลับไปกอดนะคะคนเก่ง
15 พฤศจิกายน 2552 17:09 น. - comment id 1052453
คุณราชิกา ** พระพายพัดคอยใครให้ใจเศร้า ใยรักเราวิโยคต้องโศกศัลย์ มองนางครวญหวนหาร้าวจาบัลย์ เพียงผูกพันวันเดือนกลับเลื่อนลอย....ฯ บทกลอนไพเราะมากค่ะ..แต่เศร้าจัง..มาให้กำลังใจ..คุณปรางทิพย์นะคะ...คิดถึงค่ะ.. ........................................................ ลมหนาวพัดซัดใจให้เศร้าหมอง น้ำตานองร้องร่ำซ้ำเหงาหงอย ด้วยใจรักภักดิ์เขาจึงเฝ้าคอย จนเดือนคล้อยรอยช้ำเกินกล้ำกลืน ขอบคุณมากเลยค่ะ ที่ให้กำลังใจปรางอย่างสม่ำเสมอนะคะ ปรางก็คิดถึงคุณราชิกาเช่นเดียวกันค่ะ นางฟ้าสีขาว รักษาสุขภาพนะคะ
15 พฤศจิกายน 2552 16:56 น. - comment id 1056060
คุณขวดเก่า ชีวิตยังต้องสู้อยู่ต่อไป กรรมของใครของใครใครลิขิต หลายครั้งเลือกไม่ได้หนอชีวิต ล้วนไม่ใช่นิมิตที่คิดเอา ............................................... มากเรื่องราวหนาวร้อนซับซ้อนหลาย ทำให้หน่ายดายเดียวแสนเปลี่ยวเหงา ดั่งเคราะห์กรรมซ้ำเติมเพิ่มให้เรา หัวใจเศร้าเงาร้างมิห่างเลย ขอบคุณมากนะคะ ที่แวะมาทักทายค่ะ แวะมาปรางก็ดีใจแล้วค่ะ ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ
14 พฤศจิกายน 2552 06:34 น. - comment id 1064229
เป็นความรู้สึกเศร้า โดดเดี่ยวมากค่ะ นางครวญ....
14 พฤศจิกายน 2552 06:54 น. - comment id 1064243
โดนใจมากเลยครับ....น้ำตกที่จังหวัดตาก มีชื่อ"น้ำตกนางครวญ" ด้วยครับ...ไพเราะมากครับ
14 พฤศจิกายน 2552 07:55 น. - comment id 1064254
เมื่อคืนร้อนมากค่ะ นอนหลับๆ ตื่นๆ ไม่ได้ดูดาวเลย แบบบรรยากาศไม่อำนวยค่ะ
14 พฤศจิกายน 2552 08:27 น. - comment id 1064264
14 พฤศจิกายน 2552 09:35 น. - comment id 1064280
อยากเห็นคุณปรางมีชีวิตที่สดใส สมหวัง อย่าเหมือนแบบกลอนเลยนะคะ
14 พฤศจิกายน 2552 11:09 น. - comment id 1064313
เสียงนางครวญชวนสงสาร เศร้าเหลือเกินนะคะ
14 พฤศจิกายน 2552 11:14 น. - comment id 1064316
พี่นี้มีน้องหนึ่งในดวงใจเท่านั้น หญิงอื่นหมืนพันไม่มีเทียบทันได้เลย .......
14 พฤศจิกายน 2552 11:43 น. - comment id 1064346
ถ้าชีวิตต้องเจอแบบนี้ คงจะยิ่งกว่าควรญค่ะ...
14 พฤศจิกายน 2552 11:51 น. - comment id 1064357
เสียงสนพลิ้วปลิวไหวคล้ายครวญคร่ำ สนร้องร่ำ หวิวหวีด กรีดใจสาว เธอรำพัน ความหลังเก่า เล่าเรื่องราว ถึงเมื่อคราว คนรัก ที่จากไป...... คุณปรางในกลอนยังมีโชคดีในความไม่สมหวังฯ การไม่ได้อยู่กับคนรักแสดงว่าเขายังเปิดโอกาสให้เราได้เริ่มชีวิตใหม่ได้ แต่ถ้าได้อยู่กับคนที่ไม่รักแล้วไม่มีโอกาสเลยนะ ต้องทนทรมานอย่างแสนสาหัส ผมอยากบอกความรู้สึกในชีวิตมากกว่านี้แต่คงไม่ได้ ขอให้คุณในกลอนโชคดีในชีวิตข้างหน้า
14 พฤศจิกายน 2552 11:58 น. - comment id 1064364
นางครวญใจป่วนล้า หวามไหว มองลูกพลางมือไกว กล่อมเจ้า น้ำตาหยดหยาดไหล รินอาบ เคยเล่นแลหยอกเย้า พี่ข้าลาหาย เศร้ามากๆ ค่ะ
14 พฤศจิกายน 2552 12:06 น. - comment id 1064370
วันนี้กลอนเศร้าปนซึ้งจังค่ะพี่ปราง อ่านแล้วรู้สึกนางครวญจริงๆ ที่โน่นคงหนาวแล้วใช้มั้ยคะ ห่มผ้าหนาๆน๊า เป็นห่วงเสมอค่ะ
14 พฤศจิกายน 2552 12:13 น. - comment id 1064375
ครวญได้กำสรดเศร้า...แทรกซอน ดุจดั่งไฟโรยอ่อน..เอื่อยช้า ค่อยหรี่ริบเหลือขอน...ดำขาด ควันกรุ่นเตือนจิตข้า...ข่มเร้ากัดหนุน แวะมาเยือนจ้า
14 พฤศจิกายน 2552 12:30 น. - comment id 1064391
ความรักทำให้เกิดความทุกข์
14 พฤศจิกายน 2552 14:22 น. - comment id 1064445
วันนี้ทุเลามากฝนกำลังจะตกไม่รู้ทำอะไรเลยแวะ มาเยี่ยมศิษย์ เขียนได้ดีจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
14 พฤศจิกายน 2552 14:28 น. - comment id 1064459
เสียงนางครวญหวนไห้ใจโหยหา พี่กลับมาหาน้องอย่าหมองไหม้ ไม่เคยลืมสัมพันวันห่วงใย ยังรักใคร่เหมือนก่อนตอนรักกัน
14 พฤศจิกายน 2552 14:34 น. - comment id 1064468
แวะมาอ่านกลอนแพราะๆค่ะ...
14 พฤศจิกายน 2552 15:40 น. - comment id 1064526
พิศดาวพราวพร่างพร้อย เพรานภา ฤๅเทียบคมนัยนา นุชน้อง ขับคีตะกล่อมกรรณา แนบนิท-ราเฮย หทัยพี่พันเกี่ยวคล้อง คู่เข้าคลอเคลีย สวัสดีครับ ปรางทิพย์ แหะๆ ^ ^
14 พฤศจิกายน 2552 16:15 น. - comment id 1064547
เสียงสนครางนางครวญจนหวนไห้ ลมหนาวไล้ไร้ร้างเส้นทางฝัน เมื่อเขาไปไกลตาไม่ว่ากัน แต่ตัวฉันมั่นคงตรงเพียงเธอ
14 พฤศจิกายน 2552 16:45 น. - comment id 1064579
เป็นบทกลอนแสนเศร้ารวดร้าวนัก เมื่อคนรักทิ้งไปไม่แลเหลียว ปล่อยนางครวญร่ำหาอุราเซียว คืนเดือนเสี้ยวฟ้าหม่นคนเศร้าใจ
14 พฤศจิกายน 2552 17:20 น. - comment id 1064599
คุณวันสุข เป็นความรู้สึกเศร้า โดดเดี่ยวมากค่ะ นางครวญ.... .................................................. ค่ะความรู้สึกของคนที่เป็นแม่...เมีย อัดอั้นในจิตใจ น่าเห็นใจมาก ๆ ค่ะ
14 พฤศจิกายน 2552 17:22 น. - comment id 1064600
คุณ donjuann โดนใจมากเลยครับ....น้ำตกที่จังหวัดตาก มีชื่อ"น้ำตกนางครวญ" ด้วยครับ... ไพเราะมากครับ ........................................................ ดีใจนะคะ ที่โดนใจคุณ... น้ำตกนางครวญ สวยงามค่ะ ยามหน้าน้ำ สายน้ำแรง สดสวยตามแบบฉบับของธรรมชาติค่ะ ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจนะคะ ขอให้คุณมีความสุขค่ะ
14 พฤศจิกายน 2552 17:25 น. - comment id 1064601
คุณตรากลม เมื่อคืนร้อนมากค่ะ นอนหลับๆ ตื่นๆ ไม่ได้ดูดาวเลย แบบบรรยากาศไม่อำนวยค่ะ ............................................... ร้อนก็นอนเปิดหน้าต่างนิดนะคะ อากาศบ้านเราเปลี่ยนไปมา ดูแลสุขภาพ นิดนะคะ น่าดวงดาวดวงนั้น ที่เฝ้ามอง ไม่หายไปไหนนะคะ ไว้วันฟ้ามืดเราพบ กันนะคะ คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ
14 พฤศจิกายน 2552 17:26 น. - comment id 1064602
คุณกู้ภัย ถึงไม่มีคำพูด แต่ก็ขอขอบคุณแรงใจ ที่มอบให้นะคะ สุขสดใสในวันหยุดนะคะ
14 พฤศจิกายน 2552 17:40 น. - comment id 1064614
คุณครูกระดาษทราย พูดถึงเพลงนางครวญแล้ว ก็นึกถถึงนางเอกเรื่องคู่กรรม อังศุมาลิน เธอเล่นขิมเพลงนี้ละ ครูกระดาษทรายก็เล่นเพลงนี้เหมือนกัน แต่ว่าเล่นจะเข้อ่ะ เพราะดีนะคะ ...................................................... ใช่แล้วค่ะ เสียงขิมเนี่ย ระรัวไพเราะมาก หากได้ฟังไกล ๆ เหมือนเป็นเสียงเพรียก เรียกได้ดีเชียวค่ะ ครูกระดาษทรายเล่น จะเข้หรือคะ เก่งจังค่ะ ปรางเองเคยหัด ตอนเรียนค่ะ อิอิ....ไม่เอาไหนเลยเพราะ ตัวเองชอบเล่นกีฬา งานประดิษฐ์ ฯลฯ ดนตรีทุกประเภทเนี่ย ไม่มีพรสวรรค์กับเค้าเลยค่ะ ฟังเสียงขิมปริมว่าน้ำตาไหล ดังเรียกใครให้กลับมารับขวัญ หวานระรัวพัวบางอย่างรำพัน หวนถึงวันฝันเก่าวอนเขาคืน
14 พฤศจิกายน 2552 17:40 น. - comment id 1064615
เสียงครวญนวลปรางนางรอพี่ ใจของพี่รับรู้อยู่ไกลเจ้า ต่างพันผูกรอวันเพื่อนงเยาว์ หากว่าเจ้ารักพี่อย่าตรอมตรม รักแล้วรอหน่อย
14 พฤศจิกายน 2552 17:44 น. - comment id 1064617
บทกลอนไพเราะมากค่ะ ภาพก็สวย กลอนซึ้งและเศร้าจับใจจริงๆ ค่ะ
14 พฤศจิกายน 2552 17:45 น. - comment id 1064618
คุณอนงค์นาง อยากเห็นคุณปรางมีชีวิตที่สดใส สมหวัง อย่าเหมือนแบบกลอนเลยนะคะ ................................................... ขอบคุณค่ะเพื่อนนาง ชีวิตคนเราก็มี สุขบ้างเศร้าบ้างนะคะ บทกลอนบทนี้ ไม่ใช่ชีวิตของปรางค่ะ ได้แรงใจจาก พี่สาว สองคน ต่างบทบาทกัน หนึ่งเธออยู่กับลูก เฝ้าคอยเขา... หนึ่งเธอเปล่าเปลี่ยว มีความรักให้บางใคร และเฝ้าคอยเขา.... ได้ทราบเรื่องราว ปรางเจ็บยอกในหัวอกค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง จะว่าไปกลอนบทนี้ ทำเอาปรางแย่ไปเหมือนกันค่ะ เขียนไป น้ำตาร่วงไป เพราะรู้ซึ้งของคุณค่าความรักน่ะ
14 พฤศจิกายน 2552 17:48 น. - comment id 1064620
เพียงพลิ้ว เสียงนางครวญชวนสงสาร เศร้าเหลือเกินนะคะ ........................................................ ใช่ค่ะ น่าสงสารมาก ความรักที่มั่นคง บางครั้งก็ทรมานนะคะ พี่ปรางเองก็แย่ค่ะ เขียนไปปาดน้ำตาไป เป็นไข้ด้วย อิอิ... เลยมาอ้อนให้เพียงพลิ้วใจอ่อนน่ะ
14 พฤศจิกายน 2552 17:50 น. - comment id 1064624
พี่รุณ พี่นี้มีน้องหนึ่งในดวงใจเท่านั้น หญิงอื่นหมืนพันไม่มีเทียบทันได้เลย ....... .................................................... ปรางดีใจเป็นที่สุดค่ะ ที่พี่รุณแวะเข้ามา ปรางยังระลึกถึงพี่เสมอนะคะ ดูแลสุขภาพ นะคะ
14 พฤศจิกายน 2552 17:54 น. - comment id 1064625
คุณกิตติกานต์ ถ้าชีวิตต้องเจอแบบนี้ คงจะยิ่งกว่าครวญค่ะ... ............................................... อูยยย.....อย่าได้เจอะได้เจอเลยค่ะ รับรู้ไว้เป็นบทเรียนนะคะ พี่สาวสองท่าน เธอมีความรักที่มั่นคง เลยเป็นการทรมาน น่าเสียดายที่ผู้ชายไม่เห็นคุณค่าของความรัก และความภักดีของเธอค่ะ
14 พฤศจิกายน 2552 18:03 น. - comment id 1064629
คุณผู้ผ่านมา (แต่ไม่ยอมผ่านไป) คุณปรางในกลอนยังมีโชคดีในความไม่สมหวังฯ การไม่ได้อยู่กับคนรักแสดงว่าเขายังเปิดโอกาสให้เราได้เริ่มชีวิตใหม่ได้ แต่ถ้าได้อยู่กับคนที่ไม่รักแล้วไม่มีโอกาสเลยนะ ต้องทนทรมานอย่างแสนสาหัส ผมอยากบอกความรู้สึกในชีวิตมากกว่านี้แต่คงไม่ได้ ขอให้คุณในกลอนโชคดีในชีวิตข้างหน้า เสียงสนพลิ้วปลิวไหวคล้ายครวญคร่ำ สนร้องร่ำ หวิวหวีด กรีดใจสาว เธอรำพัน ความหลังเก่า เล่าเรื่องราว ถึงเมื่อคราว คนรัก ที่จากไป...... ...................................................... นางรำพึงถึงเขาเศร้าหม่นหมอง เสียงร่ำร้องก้องไปในไพรสน หวังรักคืนกลืนกล้ำสุดช้ำทน ดูมืดมนหนทางอ้างว้างคอย ขอบคุณนะคะที่ไม่ผ่านเลยไปค่ะ ในความโชคดีที่เขาฝากทิ้งไว้ มันแสนเจ็บปวดนะคะ จริงอยู่เขาให้โอกาสให้ไปเริ่มต้นใหม่ได้ แต่....หาก ในความเป็นจริง ความเป็นแล้ว ผู้หญิงส่วนใหญ่ จะรักและภักดีกับคนที่เธอรักนะคะ ปรางหวังว่า พี่สาวทั้งสองคงได้อ่าน เมนท์ของคุณนะคะ อิอิ....จะว่าไปคุณกล่าวดังกับว่า คุณผ่านชีวิตอันแสนสาหัสมาแล้วงั้นน่ะ ขอบคุณนะคะที่ผ่านมา แล้วผ่านมีอีกนะคะ
14 พฤศจิกายน 2552 18:16 น. - comment id 1064631
คุณ วิริศมาหรา นางครวญใจป่วนล้า หวามไหว มองลูกพลางมือไกว กล่อมเจ้า น้ำตาหยดหยาดไหล รินอาบ เคยเล่นแลหยอกเย้า พี่ข้าลาหาย เศร้ามากๆ ค่ะ ........................................................ ยินเสียงครวญดั่งร้าว ทรวงใน คืนค่ำเพียงคอยใคร ไป่ร้าง เปลไกวกล่อมขวัญใจ นอนเถิด ดังปลอบตัวเองบ้าง ที่ช้ำเกินทน ขอบคุณนะคะที่แวะเข้ามา เป็นเรื่องเศร้าจริง ๆ ค่ะ ขอให้มีความสุขในวันหยุดนะคะ
14 พฤศจิกายน 2552 18:20 น. - comment id 1064632
แก้วประภัสสร วันนี้กลอนเศร้าปนซึ้งจังค่ะพี่ปราง อ่านแล้วรู้สึกนางครวญจริงๆ ที่โน่นคงหนาวแล้วใช้มั้ยคะ ห่มผ้าหนาๆน๊า เป็นห่วงเสมอค่ะ ................................................... น้องแบมจ๋า..... เป็นเสียงนางครวญจริง ๆ ค่ะ ถ่ายทอด ออกมาจากความรู้สึกของคนที่เป็นแม่ เป็นเมียน่ะ... ที่นี่วันนี้ดีหน่อยหนึ่งค่ะ เจ็ดองศาตอนเที่ยง หากไม่มีลมนะคะ อิอิ...ทั้งลมทั้งฝนเชียวค่ะ ขอบคุณสำหรับอ้อมกอดอันอบอุ่นนะคะ
14 พฤศจิกายน 2552 18:32 น. - comment id 1064633
คุณกิ่งโศก ครวญได้กำสรดเศร้า...แทรกซอน ดุจดั่งไฟโรยอ่อน..เอื่อยช้า ค่อยหรี่ริบเหลือขอน...ดำขาด ควันกรุ่นเตือนจิตข้า...ข่มเร้ากัดหนุน แวะมาเยือนจ้า ...................................................... คืนเดือนแรมยิ่งช้ำ เกินทน หมองหม่นมองทิวสน ดั่งย้ำ ดวงดาวซ่อนเวหน หมายบอก แสนเหนื่อยดวงใจช้ำ ฝากไว้นางครวญ ขอบคุณเจ้าค่ะ ที่แวะมาเยือน ขอให้มีความสุขอย่าได้สร่างนะคะ
14 พฤศจิกายน 2552 18:35 น. - comment id 1064636
คุณไหมไทย ความรักทำให้เกิดความทุกข์ .......................................... ดั่งคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ อกขื่นขม ระทมหม่นหมอง เป็นความจริงอย่างยิ่งค่ะ ขอบคุณนะคะที่แวะมาเยือนค่ะ
14 พฤศจิกายน 2552 18:40 น. - comment id 1064640
คุณแก้วประเสริฐ วันนี้ทุเลามากฝนกำลังจะตกไม่รู้ทำอะไรเลยแวะ มาเยี่ยมศิษย์ เขียนได้ดีจ้า รักเสมอ .................................................. กราบขอบพระคุณมากค่ะที่แวะมาเยี่ยมปรางค่ะ ปรางดีใจนะคะที่ได้ยินว่าครูแก้วฯ อาการดีขึ้น สุขภาพคนเราหาซื้อ หาเปลี่ยนซ่อมแซมกันไม่ได้นะคะ พักผ่อนมาก ๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ กับสุขภาพจิตที่ดี จะทำให้ครูแก้วฯ ฟื้นตัวเร็วค่ะ ปรางคอยฟังข่าวเสมอ ๆ นะคะ
14 พฤศจิกายน 2552 18:52 น. - comment id 1064648
เศร้าสุดๆเลยค่ะ
14 พฤศจิกายน 2552 18:52 น. - comment id 1064649
คุณก่องกิก เสียงนางครวญหวนไห้ใจโหยหา พี่กลับมาหาน้องอย่าหมองไหม้ ไม่เคยลืมสัมพันวันห่วงใย ยังรักใคร่เหมือนก่อนตอนรักกัน .................................................. ความรวดร้าวคราวนี้ฤดีหมอง น้ำตานองร้องร่ำคำเปลี่ยนผัน เคยสัญญาว่ารักมาหักพลัน ให้หวาดหวั่นฝันร้ายมลายทรวง
14 พฤศจิกายน 2552 18:55 น. - comment id 1064654
คุณ White roses แวะมาอ่านกลอนแพราะๆค่ะ... .............................................. ขอบคุณค่ะ ที่แวะมาให้กำลังใจกันค่ะ ทุกคอมเมนท์ ปรางทิพย์ถือว่าเป็นน้ำใจ อันมีค่าค่ะ ทำให้มีแรงใจเขียนบทกลอน ต่อ ๆ ไปค่ะ ขอให้มีความสุขอย่าได้สร่างนะคะ
14 พฤศจิกายน 2552 19:17 น. - comment id 1064679
คุณธันวันตรี พิศดาวพราวพร่างพร้อย เพรานภา ฤๅเทียบคมนัยนา นุชน้อง ขับคีตะกล่อมกรรณา แนบนิท-ราเฮย หทัยพี่พันเกี่ยวคล้อง คู่เข้าคลอเคลีย สวัสดีครับ ปรางทิพย์ แหะๆ ^ ^ ........................................................ คีตกานท์ซ่านซึ้ง ทรวงใน หวังพี่เคียงคลอใจ ร่ำร้อง ยามนอนกล่อมฤทัย นาพี่ วอนฝากฝันปันน้อง อย่าร้างเรียมเปรย สวัสดีค่ะ อิอิ......ขอบคุณนะคะที่แวะมา ขอให้มีความสุขสดในในวันหยุดนะคะ
14 พฤศจิกายน 2552 19:29 น. - comment id 1064689
ขอให้กำลังใจให้พี่สาวคุณปรางทิพย์คับ หากชีวิตเดินมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ และอาจต้องเดิมพันชีวิตที่เหลืออยู่ ขอให้เดินไปข้างหน้าด้วยก้าวแรกที่หลุดพ้น จากความกังวลเรื่องในอดีตให้ได้ ชีวิตต้องมีคุณค่าที่ยิ่งใหญ่เสมอ....ไม่มีใคร ทำให้ด้อยหรือไร้ค่า นอกจากตัวเราเอง ขอเมนต์เล็กๆคับ
14 พฤศจิกายน 2552 19:53 น. - comment id 1064706
แววอักษรา เสียงสนครางนางครวญจนหวนไห้ ลมหนาวไล้ไร้ร้างเส้นทางฝัน เมื่อเขาไปไกลตาไม่ว่ากัน แต่ตัวฉันมั่นคงตรงเพียงเธอ .................................................. ยินเสียงสนหม่นนักรักสลาย แสนเสียดายสายใยใจพร่ำเพ้อ ใจดวงน้อยคอยหวังรั้งแรกเจอ แค่เพียงเผลอเก้อแล้วแก้วพี่เอย
14 พฤศจิกายน 2552 20:37 น. - comment id 1064738
เศร้าอ่ะ ร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดเลยเหรอ
14 พฤศจิกายน 2552 20:52 น. - comment id 1064745
เฌอมาลย์ เป็นบทกลอนแสนเศร้ารวดร้าวนัก เมื่อคนรักทิ้งไปไม่แลเหลียว ปล่อยนางครวญร่ำหาอุราเซียว คืนเดือนเสี้ยวฟ้าหม่นคนเศร้าใจ ................................................ เสียงนางครวญหวนไห้อาลัยหา หยาดน้ำตาพาเศร้าเหงาอ่อนไหว ยามค่ำคืนฝืนคอยน้อยฤทัย เหตุไฉนไยลับไม่กลับคืน โอ๋ ๆ อย่าร้องไห้นะคะ นี่เป็นชีวิตจริงของ หญิงซึ่งพี่ปรางนำมาเป็นพล็อตเรื่องค่ะ
14 พฤศจิกายน 2552 21:38 น. - comment id 1064756
แสนสะอื้นคืนวิโยคสุดจะโศก โลกช่างหม่นมืดมนดูหมองศรี ตะวันลับเลือนหายร้ายชีวี หมู่ดาราจรหนีไร้วี่แวว เหม่อมองฟ้ามืดมิดคืนเดือนเสี้ยว ช่างโดดเดี่ยวเปลี่ยวใจสิ้นเสียงแล้ว เงียบสงัดลมพัดกระซิบแผ่ว คำแว่วหวานวานชื่นคืนลับไกล ด้วยความรักฟักไว้มาตายสิ้น ดื่มด่ำลิ้นกลิ่นรักห่างถวิล เคยภิรมย์ชมชื่นสมอาจินต์ รักผวนผินทิ้งถิ่นเคยเคียงคลอ เสียงคร่ำครวญหวลโหยไม่โรยรา เสียน้ำตาทุกคราคนึงหา สายใยรักหักร้างห่างสัญญา ปล่อยกายาพาซมระทมใจ จิตพันผูกลูกรักที่ฟักไว้ เป็นแรงใจดับพร่าน้ำตาไหล อุ้มลูกน้อยคอยรักหักอาลัย ร่องรอยใจทิ้งไว้ให้เลี้ยงดู หยาดน้ำตามาสิ้นถวิลหา ให้ลูกยาของเจ้าไม่อดสู เห็นท่าทางน่ารักชักเอ็นดู หวังเคียงคู่ลูกรักหักเสียงครวญ ขออนุญาติส่งกลอนจินตนาการ รักสลักเศร้ามาให้ครับ
14 พฤศจิกายน 2552 21:50 น. - comment id 1064762
คห.46 ขอแก้ไขครับ ด้วยความรักฟักไว้มาตายสิ้น ดื่มด่ำลิ้นกลิ่นรักหมดสิ้นไร้ เคยภิรมย์ชมชื่นสมฤทัย รักผวนไปทิ้งถิ่นเคยเคียงคลอ เสียงคร่ำครวญหวลโหยไม่โรยรา เสียน้ำตาทุกครารำพึงง้อ สายใยรักหักร้างสัญญารอ ปล่อยกายท้อพาซมระทมใจ
14 พฤศจิกายน 2552 22:31 น. - comment id 1064776
นางครวญครางไร้ใครข้างอ้างว้างนัก คนเคยรักรักมากมาจากหนี ทิ้งนางให้ครวญคร่ำล้ำวันปี ครวญหาพี่ไม่เหลียวมาหานางครวญ ********************** เศร้าจังเลยพี่ปราง ขอให้พี่ปรางมีความสุขนะคะ มาอ่านก่อนนอนค่ะ
14 พฤศจิกายน 2552 23:27 น. - comment id 1064809
๐ เสียงครวญคร่ำย้ำโศกวิโยคจิต เฝ้าครุ่นคิดพินิจในใจไห้หวล เมื่อร้างลาคราวหนาวร้าวรัญจวน ยามทบทวนชวนช้ำเขาร่ำลา..ฯ กลอนงามมาก แต่แสนเศร้า นะครับ มาเป็นกำลังใจให้ ครับ
15 พฤศจิกายน 2552 01:14 น. - comment id 1064819
คุณกษิณ เสียงครวญนวลปรางนางรอพี่ ใจของพี่รับรู้อยู่ไกลเจ้า ต่างพันผูกรอวันเพื่อนงเยาว์ หากว่าเจ้ารักพี่อย่าตรอมตรม รักแล้วรอหน่อย ................................................. เสียงคร่ำครวญนวลบอกแสนยอกเหลือ ฤาอยู่เพื่อเกื้อเขาเฝ้าทอดถอน โลกความจริงยิ่งรั้งดังละคร ทุกบทตอนสอนใจให้ยลยิน ขอบคุณค่ะ พี่ป๋องปุ๋ยสบายดีนะคะ ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ
15 พฤศจิกายน 2552 01:19 น. - comment id 1064820
เรียมเอง บทกลอนไพเราะมากค่ะ ภาพก็สวย กลอนซึ้งและเศร้าจับใจจริงๆ ค่ะ ..................................................... ขอบคุณมากค่ะ ที่แวะมาอ่าน ทุกความเห็นเป็นแรงใจให้ค่ะ บทกลอนบทนี้ เป็นเรื่องราวที่ยอกอก อิอิ......เลยมาระบายที่บทกลอนเจ้าค่ะ มีความสุขกับวันหยุดนะคะ
15 พฤศจิกายน 2552 01:25 น. - comment id 1064822
คุณโคลอน เศร้าสุดๆเลยค่ะ ............................................ ค่ะเมื่อรัก มีทั้งสุขและทุกข์นะคะ ยามสุขโลกก็กลายเป็นสีชมพู ท้องฟ้า สว่างมองไปทางใด มีแต่หนทางที่สวยงาม แต่....ยามทุกข์โลกกลายเป็นสีหม่นแม้ กระทั่งท้องฟ้า ดวงตะวัน ดวงจันทร์ หรือ ดวงดาว เหมือนจงใจหนีหน้าไปหมด แบบนี้ไม่เศร้าได้ไงคะ ขอให้มีความสุขอย่าได้สร่างนะคะ
15 พฤศจิกายน 2552 01:31 น. - comment id 1064823
คุณวิทย์ ศิริ ขอให้กำลังใจให้พี่สาวคุณปรางทิพย์คับ หากชีวิตเดินมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ และอาจต้องเดิมพันชีวิตที่เหลืออยู่ ขอให้เดินไปข้างหน้าด้วยก้าวแรกที่หลุดพ้น จากความกังวลเรื่องในอดีตให้ได้ ชีวิตต้องมีคุณค่าที่ยิ่งใหญ่เสมอ....ไม่มีใคร ทำให้ด้อยหรือไร้ค่า นอกจากตัวเราเอง ขอเมนต์เล็กๆคับ ....................................................... ปรางขอขอบพระคุณคุณวิทย์ฯ เป็นอย่างยิ่งค่ะ เป็นคำแนะนำที่ดีมากเลยค่ะ เชื่อมั๊ยคะ ผู้หญิงและผู้ชาย มีความรักที่แตกต่างกัน ผู้ชาย พบแล้วพอใจ เอ่ยคำว่ารักได้เลย หากจะหมดรักแล้ว กลับใช้คำว่าเพื่อนสนิท หรือว่าคนเคยเคียงได้ และอาจจะเกลียดได้ด้วย แต่ในขณะเดียวกัน ผู้หญิง กว่าจะเอ่ยคำว่ารัก กับใครสักคน แสนจะยากเย็น และน้อยราย ที่จะจากไปนอกเสียความตายเท่านั้น และ จะรักภักดี มอบให้แก่ชายที่เธอพลีกายและใจ เฝ้ารอคอย แม้จะรู้ว่าเค้าไม่มีวันจะกลับมา อูยยย...อิอิ ลืมไป ไม่ใช่เป็นตัวปรางเลย ตอบตามความรู้สึกของตัวเองน่ะค่ะ ขอบคุณเมนท์เล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยแรงใจ มีความสุขกับวันหยุดนะคะ
15 พฤศจิกายน 2552 01:40 น. - comment id 1064825
กลอนเศร้าจังค่ะพี่ปรางค์...เม้นท์ไม่ถูกเลย ตื้อๆยังไงก็ไม่ทราบค่ะ อ้อยขอให้พี่สาวของพี่ผ่านพ้นเรื่องราว ทุกข์ใจไปได้ด้วยดีนะคะ
15 พฤศจิกายน 2552 01:44 น. - comment id 1064826
ยาแก้ปวด เศร้าอ่ะ ร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดเลยเหรอ ........................................................ น้องยาผู้น่ารักคะ ร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดน่ะ เป็นคำ เปรียบเปรยค่ะ จะว่าไปก็น่าจะนะคะ เพราะ บางคราวเวลาเราร้องไห้มาก ๆ หลาย ๆ วัน ติดต่อกัน ปวดกระบอกตามาก ตาแห้งเลย แค่ยังไม่มีเลือดไหล ก็เสียใจแย่แล้วค่ะ ขอให้มีความสุขสดใสในวันหยุดนะคะ
15 พฤศจิกายน 2552 01:52 น. - comment id 1064828
คุณวิชัย ขออนุญาติส่งกลอนจินตนาการ รักสลักเศร้ามาให้ครับ หยาดน้ำตามาสิ้นถวิลหา ให้ลูกยาของเจ้าไม่อดสู เห็นท่าทางน่ารักชักเอ็นดู หวังเคียงคู่ลูกรักหักเสียงครวญ ................................................ ด้วยสายใยในรักยังภักดิ์มั่น หัวใจขวัญฝันไว้ฤทัยหวน เคยสัญญาคราปลื้มไยลืมนวล ฤาเรรวนป่วนจินต์แทบสิ้นใจ ขอบคุณ คุณวิชัยมากเลยค่ะ ที่กรุณา ฝากบทกลอนในจินตนาการอันงดงามไว้ ขอให้มีความสุขกับวันหยุดพักผ่อนมาก ๆ นะคะ
15 พฤศจิกายน 2552 01:58 น. - comment id 1064829
ยายแม่มด เศร้าจังเลยพี่ปราง ขอให้พี่ปรางมีความสุขนะคะ มาอ่านก่อนนอนค่ะ นางครวญครางไร้ใครข้างอ้างว้างนัก คนเคยรักรักมากมาจากหนี ทิ้งนางให้ครวญคร่ำล้ำวันปี ครวญหาพี่ไม่เหลียวมาหานางครวญ ..................................................... เสียงครวญนางช่างเศร้าเร้าใจนัก ด้วยเพราะรักหักห้ามมิตามเขา ยอมรอคอยน้อยใจอย่างไร้เงา ทุกคืนเหงาเฝ้าท้อทรมาน น้องมดจ๋า..... ชีวิตก็เป็นเช่นนี้นะคะ อย่าเศร้ามากนะคะ หลับฝันดีนะคะ คนดี
15 พฤศจิกายน 2552 02:17 น. - comment id 1064832
คุณคนกุลา ๐ เสียงครวญคร่ำย้ำโศกวิโยคจิต เฝ้าครุ่นคิดพินิจในใจไห้หวล เมื่อร้างลาคราวหนาวร้าวรัญจวน ยามทบทวนชวนช้ำเขาร่ำลา..ฯ กลอนงามมาก แต่แสนเศร้า นะครับ มาเป็นกำลังใจให้ ครับ ..................................................... รอยความช้ำย้ำอยู่รู้เสมอ เคยคอยเก้อเพ้อไปใจโหยหา เจ็บใจกายคล้ายท้อต่อชะตา เช็ดน้ำตาลาจากมิอยากจำ ขอบพระคุณพี่ชายมากค่ะ ที่เป็นกำลังใจ ให้ปรางเสมอมา ความช้ำมันอัดเต็มหัวใจค่ะ ระบายออกเสียบ้างน่ะคะ ขอให้พี่ชายมีความสุขนะคะ
15 พฤศจิกายน 2552 02:26 น. - comment id 1064836
เทียนหยด กลอนเศร้าจังค่ะพี่ปรางค์...เม้นท์ไม่ถูกเลย ตื้อๆยังไงก็ไม่ทราบค่ะ อ้อยขอให้พี่สาวของพี่ผ่านพ้นเรื่องราว ทุกข์ใจไปได้ด้วยดีนะคะ ...................................................... น้องเทียนหยดจ๋า...อิอิ...อ้อยใจ มันเป็นความอัดอั้นภายในของพี่ปรางค่ะ ได้ฟังเรื่องราวของพี่สาวทั้งสองแล้วเศร้า กลอนบทนี้ทำเอาพี่ปราง ซึ่งเป็นไข้อยู่แล้ว ทรุดหนักไปเลย คือ อาจจะอินท์ไปกับบทบาท ของนางครวญมากไปหน่อย คือพี่ปราง พยายามถ่ายทอดความรู้สึกของคนที่เป็น แม่...เป็นเมียออกมาให้มากที่สุดน่ะ ขอบคุณสำหรับน้ำใจที่น้องอ้อยมีให้ พี่สาวทั้งสองนะคะ
15 พฤศจิกายน 2552 03:36 น. - comment id 1064845
นางครวญเพราะมีรัก ถูกหาญหักเพราะรักมี คนรักมาหลีกลี้ ปล่อยนางสู้เพียงผู้เดียว ก็ขอจบดีกว่า กลัวคำพาวิ่งไม่เลี้ยว ก่อนนี้เขียนแล้วเชียว ต้องลบทิ้งกลอนจริงจัง คือแวะมาทักทาย นานทีย้ายตูดมาครั้ง มาถึงแล้วลงนั่ง ไม่ตดปู้ดตูดสบาย คิดว่า "คุณปรางทิพย์" คงไม่หยิบทิ้งโดยง่าย ขวดเก่าแม้เมามาย เมามั่นนักรักนิรันดร์ --------------------------------------- ชีวิตยังต้องสู้อยู่ต่อไป กรรมของใครของใครใครลิขิต หลายครั้งเลือกไม่ได้หนอชีวิต ล้วนไม่ใช่นิมิตที่คิดเอา
15 พฤศจิกายน 2552 12:09 น. - comment id 1064931
** พระพายพัดคอยใครให้ใจเศร้า ใยรักเราวิโยคต้องโศกศัลย์ มองนางครวญหวนหาร้าวจาบัลย์ เพียงผูกพันวันเดือนกลับเลื่อนลอย....ฯ บทกลอนไพเราะมากค่ะ..แต่เศร้าจัง..มาให้กำลังใจ..คุณปรางทิพย์นะคะ...คิดถึงค่ะ..
15 พฤศจิกายน 2552 21:29 น. - comment id 1065028
มาแอบฟังนางครวญหวนละห้อย จนเดือนคล้อยมิคลายหายสะอื้น คงครวญคร่ำน้ำตาไหลไปทั้งคืน กว่าจะตื่นคงสายเข้าบ่ายโมง อิอิ เล่นครวญทั้งคืนนี่นา ครั้งแรกไม่รู้ว่าต้น เหตุเสียงครวญเกิดจากอะไรจะเจ็บปวดก็ไม่ใช่ ใช่ บางครั้งก็มีกระซิก ๆ ทำให้จินตนาการไปยืดยาวต่อเมื่ออ่านกลอนแล้วถึงรู้ว่า ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวนี่เอง อิอิ
15 พฤศจิกายน 2552 23:25 น. - comment id 1065048
ช่างไพเราะเพราะพริ้งเศร้าจริงหนอ ฟังนางครวญหวนไห้ได้แต่รอ ระทมท้อทุกข์ใจเมื่อได้ยิน
16 พฤศจิกายน 2552 09:03 น. - comment id 1065128
มาอ่านบทกลอนช้าไปหน่อย ยังคงความสวยงามไพเราะเหมือนเดิม แต่...เศร้าจังเลยค่ะพี่ปราง
16 พฤศจิกายน 2552 11:10 น. - comment id 1065191
มามาแล้ว ไม่แคล้วคงได้เจอกัน คอยมาตั้งนมนาม ขวัญใจก็ยังไม่มา ที่แรกก็คิดว่าหลอก ที่หลอกให้พี่รอคอย โอ้แม่เจ้าสาวน้อย ให้พี่รอคอยจนเจ็บอุรา
16 พฤศจิกายน 2552 11:02 น. - comment id 1065197
กลอนงดงามไพเราะ..และก็เข้าถึงอารมณ์ได้ชนิดที่ว่าซึ้งจนถึงก้นหัวใจเลยครับ
16 พฤศจิกายน 2552 11:17 น. - comment id 1065200
แง แง แง เหงาทั้งกาย เหงาทั้งใจ เลยซิเรา
16 พฤศจิกายน 2552 13:25 น. - comment id 1065275
เสียงนางครวญชวนให้ใจปวดร้าว อยากพุ่งหลาวเข้าไปคอยช่วยเหลือ หนุ่มไหนหนอหนีไปไร้จุนเจือ จับมาแล่แช่เกลือให้เสือกิน เสียงวิเวกวังเวงดังเพลงเศร้า ต้องคอยเฝ้าเย้าเรือนแลทรัพย์สิน สองมือไกวน้ำตาพาหลั่งริน ใจถวิลคิดถึงซึ่งรักกลาย ภาพความหลังครั้งเก่าเฝ้าหวนคืน สะอึกสะอื้นขื่นขมตรมเหลือหลาย จำต้องทนหม่นหมองตรองใจชาย เจ็บจนหน่ายนานนับจับหัวใจ สุขสันต์สดใสครับ สบายดีนะครับ
16 พฤศจิกายน 2552 15:03 น. - comment id 1065319
อ่านแล้วคิดถึงแม่จังเลยค่ะพี่ทิพย์
16 พฤศจิกายน 2552 17:13 น. - comment id 1065384
เศร้ามากๆ ครับ หวังว่า เหตุการณ์ ตามเนื้อกลอน จะเกิดขึ้นน้อยที่สุด ในสังคมไทย สงสารเด็ก น่ะสิ ครับ มาเยี่ยมเยียนช้า คงไม่ว่ากันนะครับ ไม่ว่าง และไม่ค่อยสบายด้วย ตอนนี้ ยังมึนๆ หัวอยู่เลย ไม่รู้จะแต่งกลอนใหม่ได้หรือเปล่า