๏ เหมือนม่านหมอกหลอกตาจนพาโศก คล้ายอับโชคเส้นทางรักห่างเหิน คราวที่ฟ้าเลือนลางหว่างดำเนิน หากหลงเพลินเดินดุ่มอาจกลุ้มใจ ม่านหมอกเมฆเฉกฉากหลากลดหลั่น เปรียบอุปสรรคพรากกั้นรักหวั่นไหว ยามฟ้าแจ้งย่อมกระจ่างหนทางไพร หมายสิ่งใดควรคว้ามาครอบครอง ผู้ยอมพ่ายหน่ายชะตาพารันทด ประหนึ่งหมดพลังใจไม่สนอง ปล่อยให้รักลับหายกลายทำนอง ฤๅ ควรฟ้องโทษชะตามาแกล้งกัน แม้นมิมุ่งมั่นหมายในความรัก คราเจ็บหนักจะหวังใครไปปลอบขวัญ เมื่อปราศร่องรอยใจให้ผูกพัน เพียงหมอกกั้นนิดหน่อยพลอยระทม อยู่ใต้ฟ้าเหมือนกันตะวันเดียว คราวยากเหนี่ยวรักไว้ให้สุขสม ดุจหมอกเคลื่อนเลื่อนไหลไปตามลม สมควรข่มเถิดหนาอย่าอาลัย ๚ะ๛
13 พฤศจิกายน 2552 23:04 น. - comment id 1064186
เมื่อเมฆหมอก หลอกลวง ชั่วร้ายนัก อาภัพรัก ไม่พอ อาภัยโชค ทำให้เจ็บ ทำให้เลิก ทำให้โศก โอ้หนอโลก มนุษย์เรา สุดบรรยาย
14 พฤศจิกายน 2552 00:18 น. - comment id 1064209
กำลังใจให้ทางพอสร่างโศก เหมือนเปิดโลกเปิดใจให้รับรู้ อุปสรรคมากล้นพ้นคำครู ก็จะสู้มุ่งมั่นพบฝันงาม หากหมอกเหมยเลยเลื่อนอาจเลือนเหงา ใจตรงกันหรือเปล่าเป็นคำถาม จันทร์ดวงนี้ดวงเดียวเที่ยวติดตาม มิครั่นคร้ามอุปสรรคที่ดักรอ... ให้กำลังใจใครกันแน่...
14 พฤศจิกายน 2552 09:31 น. - comment id 1064278
แม้มุ่งมั่นหมายมาดมาไม่หมด ขอแค่จดจำสิ่งดีที่มีอยู่ ถึงมิอาจจะได้อยู่ชิดเคียงคู่ แค่ได้รู้ว่าสุขอยู่ก็เพียงพอ
14 พฤศจิกายน 2552 11:55 น. - comment id 1064361
มาอ่านกลอนเพราะ มีคุณภาพค่ะ ปล.ถ้ามีตะวัน ๒ ดวง คงแยแน่ๆเลย เพราะตอนนี้อากาศร้อนอบอ้าวมากๆค่ะ อิอิ...ล้อเล่นนนนนนนนค่ะคุณอัล...
14 พฤศจิกายน 2552 12:03 น. - comment id 1064368
อยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน ก้อนเมฆก็มองเห็นก้อนเดียวกัน แต่ต่างกันที่ความคิด บางคนมองเมฆสวยงาม บางคนมองแล้วยิ่งเศร้า อืม น่าคิดๆค่ะ
14 พฤศจิกายน 2552 12:20 น. - comment id 1064382
ใต้ฟ้าตะวันเดียว แต่มากอารมณ์มากเหตุการยิ่งในแต่ละคนครับคุณอัลฯ บ้างเจ็บ บ้างสุข มาเยี่ยมในวันหยุดครับ
14 พฤศจิกายน 2552 14:21 น. - comment id 1064444
แวะมาอ่านกลอนเพราะๆค่ะ..คิดถึงเสมอ..
14 พฤศจิกายน 2552 14:25 น. - comment id 1064453
แวะมาอ่านยามทุเลา แหม๋ยอดหญิงเราทั้งสวย ทั้งน่ารักอย่างนี้ นิสัยร่าเริงยังครวญอีกหรือ ผมว่า ต่อไปคงจะมีตะวันเพิ่มอีกดวงนะ หัวผมไงล่ะผมร่วง บางมากๆสงสัยจะเป็นตะวันกระมัง รักยอดหญิงเสมอ แก้วประเสริฐ.
14 พฤศจิกายน 2552 15:40 น. - comment id 1064525
คุณอิมจ๋า........................เศร้าจังเลย
14 พฤศจิกายน 2552 15:44 น. - comment id 1064528
มาแนวโศกเลยนะครับ ดูเศร้าๆ ไปตั้งแต่ภาพร่ะ แหะๆ ^ ^
14 พฤศจิกายน 2552 16:36 น. - comment id 1064571
ใต้ฟ้า ตะวันเดียวจริงๆด้วยซีคะ
14 พฤศจิกายน 2552 18:43 น. - comment id 1064642
ใต้ฟ้า ตะวันเดียว ถ้ารักเดียวใจเดียวด้วยก็น่าจะดีเนาะ
14 พฤศจิกายน 2552 19:10 น. - comment id 1064674
เจอแต่กลอนเศร้า กลอนพาไปแล้วกัน
14 พฤศจิกายน 2552 21:36 น. - comment id 1064754
วันนี้.. วันที่อยู่ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน แต่จู่ ๆ ตอนบ่ายฝนตก อัลมิตราเดินหิ้วของพะรุงพะรัง มีทั้งขนม นม ผลไม้ และอุปกรณ์วาดรูป ขณะที่ก้าวขึ้นบันไดจากชั้นใต้ดินเพื่อออกนอกอาคารห้างสรรพสินค้า ก็ให้รู้สึกแปลกใจ ฝนตกหรือนี่ ? ฝนตกแฮะ ! จริง ๆ ด้วยฝนตก แต่แทนที่จะกลับเข้าไปในห้างสรรพสินค้า อัลมิตราเลือกเดินออกมา แล้วก็นั่งตรงขั้นบันได มองฝนตกพลาง ทานขนมไปพลาง ด้วยอาการไม่รีบร้อน พิลึกจัง ! ฝนตก แต่ก็ดี ฝนตกทำให้อัลมิตราคิดถึงบางใคร และฝนตก็ทำให้อัลมิตราคิดถึงบทกลอนที่เคยเขียนไว้นานแล้ว เป็นกลอนที่ถอดความจากเพลง November ' Rain (Guns 'n Rose) Nevember Rain When I look into your eyes I can see a love restrained But darlin' when I hold you Don't you know I feel the same 'Cause nothin' lasts forever And we both know hearts can change And it's hard to hold a candle In the cold November rain We've been through this auch a long long time Just tryin' to kill the pain But lovers always come and lovers always go An no one's really sure who's lettin' go today Walking away If we could take the time to lay it on the line I could rest my head Just knowin' that you were mine All mine So if you want to love me then darlin' don't refrain Or I'll just end up walkin' In the cold November rain Do you need some time...on your own Do you need some time...all alone Everybody needs some time... on their own Don't you know you need some time...all alone I know it's hard to keep an open heart When even friends seem out to harm you But if you could heal a broken heart Wouldn't time be out to charm you Sometimes I need some time...on my own Sometimes I need some time...all alone Everybody needs some time... on their own Don't you know you need some time...all alone And when your fears subside And shadows still remain I know that you can love me When there's no one left to blame So never mind the darkness We still can find a way 'Cause nothin' lasts forever Even cold November rain Don't ya think that you need somebody Don't ya think that you need someone Everybody needs somebody You're not the only one You're not the only one ประโยคนี้ But lovers always come and lovers always go บาดใจนัก เพราะทำให้อัลมิตรานึกถึงบางประโยคที่เคยอ่านผ่านตาและยังอยู่ในความทรงจำ ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไร หรือคิดอย่างไร หากเขาคือคนที่คุณรู้จักและดีด้วย ทำไมไม่คิดที่จะรักษาเขาไว้ด้วยความจริงใจและสัมพันธ์ที่ดี การรักษาคนที่ดีของคุณไว้ ต้องรักษาด้วยจิตใจที่ดีและสุภาพอ่อนโยน เท่านั้น ในขณะเดียวกัน ต้องเอาใจเขามาใส่ใจของคุณด้วย วันนี้.. วันที่ฝนตก หลายคนอาจติดภาระกิจ หลายคนอาจง่วนกับงานตรงหน้า หลายคนอาจพักผ่อนหย่อนใจกับงานอดิเรกที่ตนเองชอบ ต่าง ๆ นา ๆ ส่วนอัลมิตรา โดยเริ่มต้นเช้าก็วางแผนไว้ว่า จะอ่านหนังสือและหลับต่ออีกสักหน่อย แต่จนแล้วจนรอด งานก็มาตามตัวจนได้ ซึ่งกว่าจะปลีกตัวได้ก็เกือบเที่ยงวัน ยังโชคดีที่มีเวลาว่างพอให้นั่งนับเม็ดฝนในช่วงบ่าย และก็หลับในช่วงหัวค่ำแทน แล้วกันสิ ว่าจะบอกเล่าเรื่องของฝนเดือนพฤศจิกา ดันพาเรือออกนอกทะเลไปไกลเสียแล้ว คงเบนหัวเรือกลับมาไม่ได้ ถ้างั้น ก็วางกลอนซะดื้อ ๆ เลยเสียแล้วกันค่ะ ๏ ฝนเดือนพฤศจิกา ๏ ครั้นคราใดได้มองสองตาเจ้า เห็นรักเราโดนผูกถูกกักขัง ติดโซ่ตรวนพันธนาการอันรุงรัง แล้วถูกฝังในจิตติดวังวน โอ้คนงามยามข้า ฯ มาอยู่ใกล้ ครั้งคราใดครุ่นคิดจิตสับสน เจ้าตระหนักหรือไม่ในใจตน ข้า ฯ คือคนที่รู้สึกนึกเช่นกัน ? เพราะไม่มีสิ่งใดในโลกหล้า พ้นอาญาไตรลักษณ์มักแปรผัน มิดำรงคงสภาพตราบนิรันดร์ ต่างรู้กันว่าใจไม่ต่างนี้ ย่อมพลิกแพลงแสร้งสร้างบ้างบุบสลาย โศกสุขคล้ายย่ำขย่มพลางข่มขี่ ล้วนเปลี่ยนแปลงแห่งนิยามความชั่วดี ล่วงคืนวันผ่านเดือนปีมีโรยรา ดั่งคอยป้องประคองแสงแห่งเทียนน้อย ลมพัดคอยปกปักษ์เฝ้ารักษา ในท่ามกลางฝนกระหน่ำ ยามพฤศจิกา ยากยิ่งพาหนาวเหน็บเจ็บปวดใจ เพียงต้องการสมานแผลดูแลจิต ดึงศรพิษแห่งรักที่ปักใส่ ลบล้างความเจ็บปวดรวดร้าวไป แต่เข้าใจในสมการด้านสัจจ์จริง ว่าคู่ครองต้องประจักษ์รักเหือดแห้ง อาจเปลี่ยนแปลงแหนงหน่ายทั้งชายหญิง มีครองคู่คลาดแคล้วแล้วทอดทิ้ง นี้คือสิ่งสิงสู่คู่ใจคน แลไม่มีผู้ใดใครกำหนด ค้นหาบทสรุปความตามเหตุผล ว่าใครกันพลันแพ้แลอับจน ใครคือคนตีจากพรากคนรัก หากแม้นเราเข้าใจในเรื่องนี้ หาวิธีคลี่คลายในอุปสรรค ลดอัตตานุทิฏฐิที่พร้อมพรัก ข้า ฯ คงจักเบาใจในทันที เพราะหากรู้อยู่ว่าขวัญตาเจ้า เป็นของเราตลอดไปไม่หน่ายหนี ฉะนั้นหากอยากรักข้า ฯ อย่ารอรี โอ้คนดีอย่าเก็บงำความรักเลย ด้วยตัวข้า ฯ ขณะนี้มีทุกข์แท้ อาจยอมแพ้เพราะเจ้า ฯ เฝ้านิ่งเฉย จำพลัดพรากจากผู้คู่ชิดเชย แล้วลงเอยเสมือนว่าผู้ปราชัย ฝนกระหน่ำย้ำเตือน เดือนพฤศจิกา จนเหน็บหนาวร้าวอุรากว่าครั้งไหน ฤๅตัวเจ้าเฝ้าปรารถนาทุกคราไป ว่าหัวใจอยากอ้างว้างอย่างลำพัง ? บางครั้งเจ้าเฝ้าปรารถนาทุกคราหรือ อวสานคือความรักถูกกักขัง ? แท้ที่สุดมนุษยชนคนเรายัง- ต่างมุ่งหวังประสบสุขทุกผู้คน ย่อมมีบ้างต่างประสงค์จำนงหมาย อยู่เปล่าเปลี่ยวเดียวดายคลายสับสน ในบางคราปรารถนาเป็นเช่นอิสรชน ใคร่หลุดพ้นพันธนาการด้านสังคม ข้า ฯ รู้แน่แก่ใจไม่ผิดนัก อันอุปสรรคกักกุมจิตดังติดหล่ม แสนยากเย็นจำต้องนั่งหมองตรม ทั้งขื่นขมเกินกว่าเข้าหากัน ในเมื่อมวลมิตรสหายคล้ายเสียสัตย์ มีเคืองขัดขุ่นใจใคร่ห้ำหั่น อยากเอ่ยเอื้อนเตือนใจใคร่ครวญพลัน ว่าจอมขวัญเหตุไฉนไม่ไยดี ? คืนวันผ่านกาลพ้นฝนร้อนหนาว ลืมปวดร้าวทุกข์ใจหรือไม่นี่ ? ไยต้องตรมระทมทุกข์สุขไม่มี ชั่วชีวี ฤๅ ประสงค์คงอัตตา ? ในบางคราข้า ฯ ประสงค์ดำรงกิจ ทำพูดคิดล้วนตามความปรารถนา นั่นอาจเป็นชั่วครั้งบางเพลา อยากเก่งกล้าสู้เสี่ยงเพียงลำพัง เพียงชั่วครั้งบางคราวก็เท่านั้น ที่ดื้อรั้นดันทุรังดังคาดหวัง ทุกผู้คนย่อมติดบ่วงในห้วงภวังค์ บางคราวยังปรารถนาพึ่งซึ่งตนเอง แล้วตัวเจ้าเข้าใจในสิ่งนี้ หรือยังมีบาดทะจิตคิดข่มเหง ? เฝ้ากักขังใจตัวให้กลัวเกรง จนวังเวงว้าเหว่โลเลแล้ว จงขจัดสลัดทิ้งสิ่งลวงหลอน ที่ซุกซ่อนสิงสู่อยู่แน่แน่ว ให้หวาดหวั่นอันตรธานไปไร้วี่แวว ความเพริศแพร้วจักปรากฏปลดความกลัว ครั้นไร้ผู้ครหามากล่าวโทษ ขอจงโปรดลดกลัดกลุ้มที่สุมหัว จักแจ้งใจในปริศนาครามืดมัว มองให้ทั่วแล้วพิจารณาหาทางพลัน เพราะไม่มีสิ่งใดในโลกหล้า พ้นอาญาไตรลักษณ์มักแปรผัน มิดำรงคงสภาพตราบนิรันดร์ ทุกสิ่งสรรพ์เป็นประเภทเหตุปัจจัย แม้สายฝนบนมหรรณพ์อันเหน็บหนาว แค่ชั่วคราวที่กระหน่ำคำรามใส่ แล้วคืนวันฤดูเวียนจักเปลี่ยนไป บ่เว้นวสันต์อันหนาวใจใน เดือนพฤศจิกา ๚ะ๛
14 พฤศจิกายน 2552 22:04 น. - comment id 1064768
แถวบ้านมีแต่ลม และฝนก็ทำท่าจะตก วิ่งออกไปลาก ราวตากผ้าเข้ามาในที่ร่มจนหัวเหอกระเซิงหมดเลย แต่ดั๊นไม่มีหยดสักแหมะ ฟ้าแกล้งชัดๆ...หัวโนเลยอ่า แปลกดีนะ บางครั้งสิ่งที่เราเห็น และคิด มันก็ไม่ตรงกับความเป้นจริงเสมอไป ธรรมชาติของมนุษย์มักจะกังวลเกี่ยวกับอนาคต ทั้งๆที่อนาคตไม่เคยมาถึง
15 พฤศจิกายน 2552 01:20 น. - comment id 1064821
ฟ้าก็แค่ฟ้าเดียว ตะวันก็แค่ตะวันเดียว หัวใจคนเราก็มีแค่คนละดวงเท่านั้น และถึงแม้จะเป็นดวงเล็กๆเท่ากำปั้น แต่ กลับเก็บเรื่องราวได้มากมายโดยไร้ขอบเขต นี่กระมังที่เขาว่า "หัวใจไร้ซึ่งพรมแดน" เฮ้อ...อยากจะนอนก็นอนไม่หลับ
15 พฤศจิกายน 2552 02:13 น. - comment id 1064830
เก็บเดือนดาววางฉายที่ปลายฟ้า เก็บต้นหญ้าคืนถิ่นแผ่นดินนี้ เก็บมัจฉาแหวกว่ายสายวารี เก็บชั่วดีเก็บไว้ในใจเรา เก็บวิหคบินท้าห้วงอากาศ เก็บกระดาษทิ้งไปต้นไม้เฉา เก็บเท็จจริงแอบไว้ไม่บางเบา เก็บสุขเศร้าเท่านั้นนั่นแหละคน เก็บสายน้ำชื่นใสไหลเย็นฉ่ำ เก็บชอกช้ำพลิกกู้สู้อีกหน เก็บความถูกและผิดติดตรึงตน เก็บเม็ดฝนหลั่งลงตรงวนา เก็บก้อนดินไทยดอมช่างหอมหวาน เก็บดินบ้านเมืองอื่นเหม็นหืนกว่า เก็บน้ำใจมั่นไว้ศรัทธา เก็บรักมาเก็บไว้ที่ในรัก
15 พฤศจิกายน 2552 08:35 น. - comment id 1064886
งามละเอียดละเมียดละไมในคำตอบ อยู่ในกรอบกุลสตรีมิผิดเพี้ยน ทุกถ้อยความกระจ่างแจ้งดั่งแสงเทียน เหลือแต่เพียงความเพียรเต็มอัตรา คล้ายหมดทุกข์สุขใจเมื่อได้เห็น เราคงเป็นคนดีควรรักษา จึงพบความจริงใจมอบให้มา ภาระหนักเต็มบ่าทำยังไง? มิเคยทำต้องทำกรรมคงหนัก ต้นเหตุคือไตรลักษณ์หรือมิใช่ เมื่อเกิดแล้วรู้ว่าต้องดับไป ตกลงใจรับกรรมให้ย้ำตรึง จะคงมั่นมิผันแปรชั่วชีวิต กรรมลิขิตอย่างไรไม่คิดถึง อุปสรรคกักขังฉุดรั้งดึง มุ่งตะบึงสู่เส้นชัยด้วยใจรัก ค่อยแต้ไขเหตุการณ์เอาภายหน้า ใช้ความกล้าทำลายอุปสรรค ฟ้ากระจ่างใสสดงดงามนัก พยานรักคงได้ในเร็ววัน.... ฝนเดือนพฤศจิกายน นี่หนาวยิ่งนัก
15 พฤศจิกายน 2552 21:55 น. - comment id 1065037
คุณพงษ์ศักดิ์ .. ม่านหมอกเบือนบังตาจนพร่าภาพ ความซึมซาบจืดจางรักห่างเหิน คราวแสงทองส่องกระจ่างหว่างดำเนิน คิดก้าวเดินอาจสายไป.. รักไกลแล้ว คุณฤกษ์ .. กำลังใจมอบให้ใครคนหนึ่ง เห็นรำพึงว่าเหน็บหนาวคราวรักหาย เราเพียรเขียนกลอนมอบปลอบแทนกาย หวังผ่อนคลายความรู้สึกที่ลึกร้าว คุณสบันงา .. แม้มิได้ครองคู่เป็นชู้ชื่น ยังหยิบยื่นดีให้ใจเสนอ แม้มิได้เห็นกันทุกวันเจอ ฝากถ้อยเพ้อเพียงนิด .. มิผิดใด คุณครูกระดาษทราย .. กอบรักเก็บไว้ในอ้อมแขน หนักแน่นแม้ใจไกลต่างถิ่น คำรักฝากไปอาจไม่ได้ยิน แต่ห้วงจินต์รู้สึกได้ไม่ลืมเลือน คุณกิตติกานท์ .. อย่าเชียว เดี๋ยวบรรดาเกจิมาอ๊วกแถว ๆ นี้ ที่บ้านกลอนไทยนี่ มีคนพาดหัวข่าวเอาไว้ว่า มีแต่พวกกระจอกเขียน ดังนั้น คำว่าคุณภาพ อัลมิตราไม่กล้าเอื้อมจริง ๆ ขี้เกียจไปซื้อซีม่าทาขี้กลากอ่ะ แหะ แหะ คุณแก้วประภัสสร .. คุณท่องเมฆาก็ชอบมองก้อนเมฆเหมือนกัน บางที จอดรถเฉยเลย แล้วชี้ให้ดูก้อนเมฆ เด็ก ๆ ก็สนุกสนานกันใหญ่ เห็นเป็นนั่น เป็นนี่ อัลมิตราก็พลอยแหงนคอไปแลด้วยเหมือนกัน บางทีก็เห็นเหมือนพวกเขา บางทีก็แตกต่างบ้าง แต่พอพยายามมองให้เหมือนเขา มันก็เข้าท่าแฮะ เห็นแบบที่เขาเห็นจริง ๆ คุณกิ่งโศก .. เป็นธรรมดาค่ะ คละเคล้ากันไป สุข ทุกข์ ไหน ๆ เกิดมาแล้วนี่ ขืนมีอารมณ์เดียว ก็หมดสนุกกันพอดี คุณกุหลาบขาว .. ไม่เชื่อ ถ้าจะให้เชื่อต้องหอมก่อน คุณแก้วประเสริฐ .. รักซะขนาดนั้น รีบ ๆ มาขอจิ เอาตะวันอีกดวงมาเป็นของหมั้นนะ .. อย่าลืมล่ะ ล้านเดียวเอง ถูก ๆ ฮา คุณทักทาย .. บ้าตาย ! สงสัยเศร้าเป็นอาชีพ ศิษย์น้อง .. ภาพซึ้งนะ ไม่เศร้า ดูให้ดีจิ hug คุณเฌอมาลย์ .. แต่คุณแก้วประเสริฐบอกว่า มีสองดวงอ่ะ เชื่อใครดีนะ คุณโคลอน .. ถูกต้ม เอ๊ย ถูกต้องคร๊าบ คุณวิทย์ .. กลอนพาไป หรือ อารมณ์พากลอนไปก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ คุณโคลอน .. วันนี้อบอ้าวมาก ๆ อยากให้มีฝนกระหน่ำจัง จะยอมเหน็บหนาวท่ามฝนพฤศจิกาอีกสักหน คุณเทียนหยด .. ตีหนึ่งกว่าแล้ว นอนไม่หลับ ต้องตีแล้วล่ะ แต่เชื่อมั๊ย บางทีอัลมิตราก็เป็นนะ คุณsuper ก็เลยต้องมาบอกให้ฝันดีบ่อย ๆน่ะ คุณขวดเก่า .. สมมุติว่า คุณมีขวดใส อยู่ 1 ใบ สามารถบรรจุของสำคัญได้ 1 อย่าง คุณคิดจะเก็บรักษาอะไรไว้ในนั้นคะ คุณฤกษ์ .. ตกลงว่า จะมีปาฏิหาริย์ มั๊ย ?
16 พฤศจิกายน 2552 12:54 น. - comment id 1065257
ภาพมายาเย้ายวนชวนลุ่มหลง จิตจึงส่งเสริมให้ใจถวิล รักหลุดลอยเลือนลางเหินปีกบิน ดั่งหมดสิ้นกลิ่นหอมต้องยอมตรม สุขสันต์สดใสครับ
16 พฤศจิกายน 2552 14:28 น. - comment id 1065303
คุณแสงเพชร .. สวัสดียามบ่ายที่แสนง่วงค่ะ หมอกมายาพาใจให้หลงทิศ ตัดสินผิดติดกับอกยับหมอง เมื่อหมอกจางบางอย่างกระจ่างมอง ซึ่งอาจต้องรอหน่อยค่อยค่อยทน
4 มิถุนายน 2553 17:56 น. - comment id 1132642
อยู่ใต้ฟ้าเหมือนกันตะวันเดียว เพราะจังค่ะ