แหงนมองท้องฟ้า อุราหม่นหมอง ถึงต้องหวั่นไหว ให้คิดถึงหน้า ขวัญหล้านิ่มน้อง ที่ปองต้องใจ เดือนจางนางไร้ เหลือแค่ฝันใฝ่ หวังได้คืนมา ท่ามดาวพราวพร่าง กระจ่างห้วงหาว ดวงดาวแลหา มิเห็นหน้าจันทร์ ไหวหวั่นเหลือที่ จะหนีไกลหน้า ลืมเพ็ญเด่นฟ้า สิ้นแล้วมนตรา ฟากฟ้าอาดูร หรือเดือนมั่นหมาย จะหายจากฟ้า นภาสิ้นสูญ ถึงหน้าวสันต์ ก็พลันมืดมิด ซ่อนปิดจำรูญ เหลือเงาอสูร เร่งเริ่มเพิ่มพูน จนสูญเสียขวัญ หากขวัญเสียแล้ว มิแคล้วต้องหาย แพ้พ่ายหลีกหนี ตกร่วงโปรยปราย ให้หายจากฟ้า สู่มหานที ฟากฟ้ายามนี้ ไม่เหลือสุนทรีย์ จากนี้...เท่านาน ..แบบว่า
29 ตุลาคม 2552 16:15 น. - comment id 1058236
บ้านนี้ต้องที่หนึ่ง
29 ตุลาคม 2552 17:34 น. - comment id 1058291
หนมเอ๋อ ไปไหนนะ งั้นขอที่สอง
29 ตุลาคม 2552 17:36 น. - comment id 1058293
ฮ่องเต้ยังไม่มา ขอที่สาม
29 ตุลาคม 2552 19:04 น. - comment id 1058337
นึกว่า กลอนลมแปร์ ซะอีกนะครับ อิอิ ช่วงนี้ ไม่ว่างแจมเลยครับ คงได้แต่อ่านๆ ไปก่อน อิอิ
29 ตุลาคม 2552 20:14 น. - comment id 1058355
คล้ายๆกาพย์ฉบัง๑๖ นะคะพี่เด็ด ไม่รู้เขียนถูกไหม? ไม่มีผังบอกนี่ เลยเดาเอา .................... เพียรถามหัวใจ กับไหววูบหวาม ที่ล่ามคะนึง คลึงเพ้อรำพัน ท่ามตะวันไล้ คล้ายไข้ตามตึง ดึงใจไปห่าง พลันคว้างโหยหา ดังคร่าฤดี มีไหวเวียนซ่อน ให้หลอนคิดถึง เกินอึ้งเก็บงำ
29 ตุลาคม 2552 23:15 น. - comment id 1058420
ขอโทษทุกๆคน นะ อ่านแล้ว อย่าหยุด กรุณาอ่านต่อ เพราะคุนได้โดนคำสาปนี้ไปแล้ว.... อ่านต่อเลย เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเด็กคนนึงในเทศบาล.ท่าเรือ เด็กคนนี้ชื่อนิ้งเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ สาม วันนั้นเป็นวันสอบซ่อม นิ้งได้มาที่ รร เพื่อที่จะสอบซ่อม ระหว่างที่รอเพื่อน ๆ อยู่นั้น นิ้ง ก้อเหลือบไปเห็นสิ่ง ๆ หนี่ง เขาเดินเข้ไปใกล้ ๆ กับสิ่ง ๆ นั้น มันคือกล่องใส่กระดาษกล่องหนึ่ง นิ้งนั้นไม่รู้ว่าในนั้นมีอะไร แต่เขาก้อได้เก็บกล่องนั้นไป หลังจากที่เขาสอบซ่อมเสร็จแล้ว นิ้งและเพื่อน ๆ ก้อกลับบ้านทันที พวกเขาอยากรู้ว่าในกล่องนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ ตกกลางคืนนิ้งและเพื่อน ๆ ก้อไปสนาม เดะเล่นและเปิดกล่อง ๆ นั้น ข้างในกล่องมีกระดาษสีดำเขียนอยู่หนึ่งแผ่น ในกระดาษแผ่นนั้นเขียนไว้ว่า * สวัสดี เราชื่อ"เปลวเทียน"เป็นเด็กนักเรียนคนนึง เราถูกฆาตกรโรคจิด ข่มขืนและค่าหมกอยู่ในป่าแห่งหนี่ง ที่นั่นหนาวเหน็บไม่มีแม้แต่เสียงหายใจของมนุษย์ เราพยายามร้องให้คนมาช่วยแต่ก้อไม่มีคายมา ตอนนี้เราเหงาเหลือเกิน จะมีใครมาอยู่เป็นเพื่อนเราบ้างไหม ถ้าเทอไม่อยากให้เราลากเทอมาอยู่เป็นเพื่อนกันเรา จากนี้ไปเป็นเวลา 7 ชั่วโมง ขอให้เทอก็อปข้อความข้างบนนี้ ส่งต่อให้สื่ออะไรก้อได้ เป็นจำนวน 10 coppy แต่ถ้าเธอไม่ทำตาม อีก 7 ชั่วโมงนี้ฉันจะไปตามเทอมอยู่เป็นเพื่อน * หลังจากที่นิ้งได้อ่านนั้น เอก้อไม่เชื่อ และคิดว่ามีคนมาแกล้งเป็นเพียงแค่เรื่องไร้สาระ และไม่ยอมทำตาม 7 ชั่วโมงให้หลัง นิ้งและเพื่อน ๆ ก้อตาย โดยที่ไม่มีสาเหตุ ***********************************- เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง จนถึงขณะนี้ หมอและตำรวจยังไม่สามารถรู้ได้ว่า เด็กเหล่านั้นตายได้เช่นไร __________ ตอนนี้พวกเทอได้อ่านกระทู้นี้ ก้อคงได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด นั่นคือ เทอจะต้อง copy ข้อความนี้เป็นจำนวน 10 copy แต่ถ้าเทอไม่ทำตามที่เด็กคนนั้นขอ เทอจะต้องไปอยู่เป็นเพื่อกับเด็กคนนั้น อีก 7 ชั่วโมงให้หลัง ขอให้พวกเทอทุกคนโชคดี (ปล ห้ามส่งมายังคนเดิมที่ส่งมาอีก ไม่งั้นจะรับโทษฐานคืน ตาย
30 ตุลาคม 2552 08:24 น. - comment id 1058459
มีเงาอสูรด้วยหรือคะคุณน้อง...ต้องการนางเอกป่าวจ๊ะ คริๆ
30 ตุลาคม 2552 12:32 น. - comment id 1058547
มาเหงาด้วยคนค่ะ อิอิอิ
31 ตุลาคม 2552 11:18 น. - comment id 1058756
คุณ ตั้งใจมาเยี่ยม.. ๐ มิอยากรับรู้ ว่าอยู่แสนไกล เกินใฝ่เอื้อมถึง เด่นดวงโชติชัด นวลมัดใจหลง พะวงคำนึง แอบฝันรำพึง อยากเป็นส่วนหนึ่ง ซ่อนซึ้งลำพัง ๐ รักคล้ายเขียนทราย มั่นหมายเคียงคู่ เกลียวกรูไกลฝั่ง ขอน้ำใจทิพย์ ดื่มจิบจอกจ้อย ฟื้นรอยความหลัง ก่อนคลื่นบ้าคลั่ง โถมเห่ประดัง อยากนั่งมองฟ้า... . . ๐ ฟ้าฝั่งยามนี้ ยังดีหรือไม่ จึงใฝ่เฝ้าถาม ห่างให้คิดถึง คะนึงเป็นนิจ ลิขิตข้อความ ดาวเด่นอร่าม จันทร์ไม่ผ่องตาม หรือห้ามเสียขวัญ ๐ อาจร่วงลาลับ ดาวดับสิ้นหวัง ลงฝั่งนทีฝัน เมื่อไม่มีแสง ล้าแรงลดถอย ก็พลอยสิ้นวัน ปล่อยเมฆเสกสรร ม่านมืดมัวควัน กระนั้น..หรือเดือน..อิอิ ...แบบว่า...คุณกชนันท์นี่ยังแต่งกลอนสี่แปรเพราะเหมือนเดิมนะครับ..ขนาดหายไปตั้งนานนะเนี่ย...อิอิ รินร้อยรสพจน์ถ้อยดั่งสร้อยสรวง ดอกดาวร่วงเดือนร้างจางเสน่ห์หา เกิดเก็จแก้วแวววาวพราวพร่างตา จึงคนจรอ่อนล้า.. มาพานพบ จากถิ่นรักเรือนนอนสัญจรเรื่อย ล้วนเหน็ดเหนื่อยเงียบเหงาเข้าบรรจบ ขอน้ำจิตมิตรกลอนวอนอยากคบ เพราะมิลบเลือนเพื่อนเหมือนดาวจาง. . . มาเถิดเดือนเพื่อนดาวมาพราวดึก ร่วมรำลึกนภาดลจนฟ้าสาง แลยามนี้ฟ้างามงดจดเมฆบาง ลืมลาร้างห่างจากนี้ลี้จรไกล จึงได้เห็นเพ็ญเดือนเยือนอีกหน ได้มายลหมู่ดาวสกาวใส นิมิตงามยามนี้ช้าอยู่ใย เหล้าสักไห..ดวลด้วยกันสำราญกานต์..555 ...อิอิ..แบบว่า..หลังๆ ไปไม่เป็นแล้วจ้า
31 ตุลาคม 2552 10:17 น. - comment id 1058778
พี่เพียงพลิ้ว ...อิอิ..สงสัยจะต้องเปลี่ยนชื่อกลอนเป็น...มนต์รักอสูรซะละมั้ง...เผื่อว่าจะได้เห็นนางเอกหน้าใหม่..อิอิ
31 ตุลาคม 2552 10:19 น. - comment id 1058779
คุณยาย..แม่มด ...มาช่วยกันเหงากันครับ...โลกนี้จะได้อึมครึม..เอ้ย..ไม่ใช่...หมายถึงว่า..ขอให้ผมเหงาคนเดียวก็พอครับ..เดียวจะพากันเศร้าไปใหญ่..อิอิ
30 ตุลาคม 2552 23:55 น. - comment id 1058793
๐ มิอยากรับรู้ ว่าอยู่แสนไกล เกินใฝ่เอื้อมถึง เด่นดวงโชติชัด นวลมัดใจหลง พะวงคำนึง แอบฝันรำพึง อยากเป็นส่วนหนึ่ง ซ่อนซึ้งลำพัง ๐ รักคล้ายเขียนทราย มั่นหมายเคียงคู่ เกลียวกรูไกลฝั่ง ขอน้ำใจทิพย์ ดื่มจิบจอกจ้อย ฟื้นรอยความหลัง ก่อนคลื่นบ้าคลั่ง โถมเห่ประดัง อยากนั่งมองฟ้า... . . รินร้อยรสพจน์ถ้อยดั่งสร้อยสรวง ดอกดาวร่วงเดือนร้างจางเสน่ห์หา เกิดเก็จแก้วแวววาวพราวพร่างตา จึงคนจรอ่อนล้า.. มาพานพบ จากถิ่นรักเรือนนอนสัญจรเรื่อย ล้วนเหน็ดเหนื่อยเงียบเหงาเข้าบรรจบ ขอน้ำจิตมิตรกลอนวอนอยากคบ เพราะมิลบเลือนเพื่อนเหมือนดาวจาง. หุหุ.. ไว้สมัครสมาชิกแล้วจะมาทักอย่างเป็นทางการค่ะ แบบว่า.. ชอบกลอนสี่แปรมากๆค่ะ เห็นแล้วอดแต่งไม่ได้...
31 ตุลาคม 2552 01:29 น. - comment id 1058805
แวะมาดูกลอนสี่แปรค่ะ อิอิ....แบบว่ายุ่งมาก ๆ อ่านกลอน แล้วอินฯ ตามไปเลยค่ะ
31 ตุลาคม 2552 10:02 น. - comment id 1058812
คุณโอเลี้ยง..ญามี่ เพียรถามหัวใจ กับไหววูบหวาม ที่ล่ามคะนึง คลึงเพ้อรำพัน ท่ามตะวันไล้ คล้ายไข้ตามตึง ดึงใจไปห่าง พลันคว้างโหยหา ดังคร่าฤดี มีไหวเวียนซ่อน ให้หลอนคิดถึง เกินอึ้งเก็บงำ . . ทำใจไม่ได้ ต้องหายจากหน้า อุราหม่นหมอง จองรักแต่เนิน มัวเพลินหรือไร จึงไม่ปรองดอง ใจลอยละล่อง หากไม่ใช่สอง คงหมองระทม ...อิอิ..สงสัยจะคล้ายกาพย์ฉบัง 16 จริง ๆ นะเนี่ย..คุณโอเลี้ยงนี่ช่างสังเกตุจริง ๆ
31 ตุลาคม 2552 09:42 น. - comment id 1058817
คุณ อนงค์นาง ..ดีใจครับที่ยังที่ 1 เหนียวแน่น..อิอิ
31 ตุลาคม 2552 09:44 น. - comment id 1058818
สนมฮุ่ย ..สนมเอ๋อ...ยังไม่ตื่นพะยะค่ะ..สงสัยจะสาย ๆ นะ..อิอิ
31 ตุลาคม 2552 09:45 น. - comment id 1058819
แฟนคลับตัวจริง ...ฮ่องเต้ก็ยังสร่างเมาอีกหละ...สงสัยจะเย็น ๆ นะ..อิอิ
31 ตุลาคม 2552 09:46 น. - comment id 1058820
น้องกวีน้อย ฯ ...พี่ก็ชอบนะกลอนลมแปร...แต่ตอนนี้ลมหนาวมาพี่ก็เลยแปรไม่ออก..อิอิ
31 ตุลาคม 2552 09:48 น. - comment id 1058821
คุณ มณีจันทร์ ...อ่านกลอนใครครับ..เครียดเชียว...กลอนสี่แปรไม่น่าจะเครียดขนาดนั้นนะ..อิอิ
31 ตุลาคม 2552 14:21 น. - comment id 1058847
คุณ ปรางทิพย์ ...ดีใจครับที่คุณชอบครับ
31 ตุลาคม 2552 16:19 น. - comment id 1058872
๐ ฟ้าฝั่งยามนี้ ยังดีหรือไม่ จึงใฝ่เฝ้าถาม ห่างให้คิดถึง คะนึงเป็นนิจ ลิขิตข้อความ ดาวเด่นอร่าม จันทร์ไม่ผ่องตาม หรือห้ามเสียขวัญ ๐ อาจร่วงลาลับ ดาวดับสิ้นหวัง ลงฝั่งนทีฝัน เมื่อไม่มีแสง ล้าแรงลดถอย ก็พลอยสิ้นวัน ปล่อยเมฆเสกสรร ม่านมืดมัวควัน กระนั้น..หรือเดือน..อิอิ . . ๐ แรงดาวส่องทิศ ใจมิตรส่องฝัน แจ่มจันทร์ใดเหมือน แคล้วคลาดอาจหม่น ร้อนรนสุดหัก หวั่นรักร้างเลือน ฝากคำย้ำเตือน คิดถึงหนึ่งเพื่อน ยิ้มเยือนหยอกฟ้า ๐ ทุ่งกว้างทางไกล เร่ในคืนเปลี่ยว เหลียวมองเวหา งามแจ่มเพียงนิด น้าวปิดมืดมน ของคนใต้หล้า หัวเราะ,สบตา ให้กันอีกครา ย้ำว่ามิลืม... หุหุ ชื่อคุณ..สะกดตาสะดุดใจ แต่งกานท์ทักทายไปพอได้ปลื้ม แถมอีกจอกดวลกันมันนะ..อืม หยาดทิพย์ดื่มอิ่มอาบกำซาบทรวง ไปแรมเร่วเนจรนอนต่างถิ่น จึงกวินรินกวีที่ร้างล่วง เปิดเวปไทยโพเอมเห็นเด่นดวง ซึ่งโชติช่วงฉาบฉายระบายฟ้า. (หุหุ)... ขอบคุณนะที่ทักทายสหายเก่า มาเยือนเหย้าเยี่ยมชมคมภาษา สมาชิกไทยโพเอ็มพรรณนา งามสง่ายิ่งนัก.. ชักติดใจ. ... สวัสดีอีก.รอบค่ะ.. แบบว่า.. ชอบกลอนสี่แปรมากค่ะ "บัว"
1 พฤศจิกายน 2552 13:25 น. - comment id 1059157
คุณ กชนันท์ ๐ แรงดาวส่องทิศ ใจมิตรส่องฝัน แจ่มจันทร์ใดเหมือน แคล้วคลาดอาจหม่น ร้อนรนสุดหัก หวั่นรักร้างเลือน ฝากคำย้ำเตือน คิดถึงหนึ่งเพื่อน ยิ้มเยือนหยอกฟ้า ๐ ทุ่งกว้างทางไกล เร่ในคืนเปลี่ยว เหลียวมองเวหา งามแจ่มเพียงนิด น้าวปิดมืดมน ของคนใต้หล้า หัวเราะ,สบตา ให้กันอีกครา ย้ำว่ามิลืม... หุหุ . . หัวเราะเริงร่า ศรัทธาแน่วแน่ มิแปรจากปลื้ม พะวงยิ่งว่า ห่างฟ้าคราใด อาจไม่ดูดดื่ม ห่วงว่าจะลืม ความหลังครั้งปลื้ม เดือนลืมความหลัง จนแล้วจนลับ เดือนกลับคืนฟ้า ดังว่าใจหวัง เพ็ญงามยามนี้ นทีเสกสรร ก็พลันไหลหลั่ง เกินฉุดหยุดรั้ง ให้หลงลงภวังค์ ยากยั้ง...หลงเดือน..อิอิ ...แบบว่าใกล้วันเพ็ญแล้วนะ...อิอิ ชื่อคุณ..สะกดตาสะดุดใจ แต่งกานท์ทักทายไปพอได้ปลื้ม แถมอีกจอกดวลกันมันนะ..อืม หยาดทิพย์ดื่มอิ่มอาบกำซาบทรวง ไปแรมเร่วเนจรนอนต่างถิ่น จึงกวินรินกวีที่ร้างล่วง เปิดเวปไทยโพเอมเห็นเด่นดวง ซึ่งโชติช่วงฉาบฉายระบายฟ้า. (หุหุ)... ขอบคุณนะที่ทักทายสหายเก่า มาเยือนเหย้าเยี่ยมชมคมภาษา สมาชิกไทยโพเอ็มพรรณนา งามสง่ายิ่งนัก.. ชักติดใจ. . . อันตัวเราก็ไม่คล่องเรื่องภาษา จะเจรจาให้รู้ความตามเงื่อนไข ก้ลำบากยากเย็นจนเข็ญใจ จักขอบใจที่แม่นาง..ว่างมาเยี่ยม ยกอีกจอกตอกย้ำสัมพันธ์เพื่อน มิอาจเลือนมิตรไมตรีนี้เต็มเปี่ยม ท่ามจันทร์งามอร่ามฟ้าหาใดเทียม ช่างยอดเยี่ยมยิ่งยามนี้..นทีงาม ...มาวววแล้วหละ..อิอิ
4 พฤศจิกายน 2552 16:54 น. - comment id 1060382
แถวนี้ไม่มีบวกหนึ่งเหรอคะ.. เอาดอกไม้ไปก่อนละกัน หุหุ... "บัว"