น้ำตามากมายหลั่งไหลพลั่งพลู ไม่รู้ลืมหูไม่รู้ลืมตา อาบมาสองแก้มมือกำอุรา เจ็บปวดหนักหนามาจากในทรวง ไหลมาทุกคืนทนฝึนกอดหมอน หมอนเปียกปอนด้วยคราบน้ำตา ไร้คนปลอบใจหรือมาห่วงหา มาเช็ดน้ำตาได้แต่ทำใจ น้ำตาเริ่มลดเริ่มน้อยลงไป ภายในจิตใจเริ่มเย็นชินชา จนหยดสุดท้ายที่ไหลออกมา ความรักนั้นหนาแล้วแต่บุญกรรม
16 สิงหาคม 2552 18:35 น. - comment id 1027738
น่าเห็นใจครับ...ชีวิตนี้เศร้าจริง ๆ
16 สิงหาคม 2552 19:18 น. - comment id 1027742
ปล่อยให้ไหล ไปตาม ท่ามใจช้ำ ความระกำ ย้ำหม่น ที่หล้นหาย แล้วยืดอก พกมั่น พร้อมหันกาย หาจุดหมาย คลายเศร้า ลืมเขาไป อย่าปิดกั้นตัวเองนะคะ ไม่ใช่เค้าคน เดียวในโลกเสียที่ไหน ยังมีอะไรดี ๆ รอเราอยู่ข้างหน้าค่ะ
16 สิงหาคม 2552 20:06 น. - comment id 1027754
ขับดนตรีคีตกานต์ผ่านม่านฟ้า กลั่นออกมาจากใจให้เสียงหวาน เพียงจะกล่อมจอมขวัญเจ้าดวงมาน สู่วิกาลก่อนหลับรับฝันดี บรรเลงเพลงเพราะจิตนั้นคิดถึง สุดรำพึงจึงร่ายส่ายดีดสี ขยับร้องก้องรัวทั่วธานี ให้ราตรีนี้เจ้าเข้าหลับนอน ดนตรีโปรดโลดแล่นแทนห่วงหา พรรณนาว่าจินต์จิตประภัสสร อยู่เคียงข้างสร้างฝันให้งามงอน ดังออดอ้อนอุ่นรักเริงฤทัย บรรเลงเพลงเพราะพริ้งพลิ้วแผ่วแผ่ว กระซิบแว่วแก้วตาพาหลับใหล ใส่ทำนองร้องร่ำคำห่วงใย จริงจากใจให้เธอเพียงผู้เดียว
16 สิงหาคม 2552 21:49 น. - comment id 1027892
น้ำตาหยดสุดท้ายจากใจน้อง เธอคงร้องมานานหวั่นเหลือหลาย กลัวความรักที่ว่าจะกลับกลาย แสนเสียดายรักมากหนักใจจริง
17 สิงหาคม 2552 02:37 น. - comment id 1027944
มาเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
17 สิงหาคม 2552 10:02 น. - comment id 1028030
ขอขอบคุณทุกคนค่ะ ที่เข้ามาเป็นกำลังใจ และมีน้ำใจต่อดิฉันเสมอ ขอพรพระให้ทุก คนโชคดีมีโชคมีลาภนะค่ะ