20 กรกฎาคม 2552 01:09 น. - comment id 1016578
เดือนครวญ หวนจิต ว่าคิดถึง แสงดาวซึ้ง ตรึงให้ ใจร่ำหา คืนฟ้าหม่น คนตรม ขมอุรา มองท้องฟ้า พาเหงา เศร้าอีกครา
20 กรกฎาคม 2552 05:44 น. - comment id 1016611
เป็นบทกลอนที่งดงามจริงๆค่ะ...
20 กรกฎาคม 2552 08:06 น. - comment id 1016642
หวัดดีคับ....คุณ วฤก ไพเราะมากกกกก......ขอรับ.....
20 กรกฎาคม 2552 10:19 น. - comment id 1016673
สมกับเป็นกลอนที่มาจากการดูดาว บนท้องฟ้าจริงๆ ครับ มาชื่นชมนิทานท้องฟ้าครับ
20 กรกฎาคม 2552 10:34 น. - comment id 1016675
ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ ที่ช่วยเข้าไปแนะนำ และยกตัวอย่างเพื่อมอบให้แก่ชาวกลอนที่สนใจใน การฝึกหัดเขียน โคลง ซึ่งคุณหมอเชี่ยวชาญชำนาญ มากถือได้ว่า เป็นยอดนักโคลง อิอิ ผมยกย่องมาก ให้เป็นยอดไปซะเลยคงไม่ว่ากันเพราะรักนะครับ และกระทั้งการเขียนกลอน ก็เล่นคำได้อย่างยอด เยี่ยมจริงๆ อ่อนไหวพลิ้ว กระชากใจจิตคนอ่านได้ อย่างเยี่ยมครับ คิดถึงเสมอ ฉะนั้นศิษย์เราหรือบุคคลใดก้ตามที่ สนใจเรื่อง โคลงก็จงสอบถามคุณ หมอวฤก ได้เสมอ หรือจะเขืาไปที่บ้านผมเพื่อหาเกล็ด ย่อยๆซึ่งคนหมอกรุณามอบไว้ให้เป็นตัวอย่าง แต่ไม่ให้เลียนแบบ เพียงเพื่อศึกษาไว้ประดับ ความรู้ หากสอบถามคุณหมอก็ยิ่งดีจะได้รับ สิ่งต่างๆไว้ด้วย ส่วนผมเองยังไม่เชียวชาญนัก เพราะนานๆจะขัดเกลาสักครั้ง ฉะนั้นจงเข้าหา โดยตรง ซึ่งคนหมอเป็นคนที่มีอัธยาสัยงดงาม สมกับเป็นนายแพทย์จริงๆครับ ประกอบด้วย ความเมตตา กรุณาเป็นที่ตั้งแต่จะถ่อมตัว เองเสมอมา ดังสุภาษิตกล่าวไว้ว่า หากไม่ เข้าถ่ำเสือฤาจะได้ลูกเสือ และต้องขอขอบคุณ ในความกรุณาที่คุณหมอมอบให้กับพวกเรา ไว้ประดับความรู้ครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 กรกฎาคม 2552 11:24 น. - comment id 1016700
อ้อมเอารูปน่ารักมาฝากไว้กับกลอนเพราะๆค่ะ
20 กรกฎาคม 2552 17:12 น. - comment id 1016748
อ่านงานนิทานฟ้าว่าแสนงาม เพียงอยากถามใยจันทร์พลันผ่ายผอม คิดถึงนางบางใครไห้ตรมตรอม มิยินยอมให้หอมรัดเพราะหวัดรุม บทกลอนงามมากครับ คุณหมอวฤก อย่าได้ถือสา กลอนแจมนะครับ ที่ว่าไปเรื่อยเปื่อย ครับ
20 กรกฎาคม 2552 15:07 น. - comment id 1016822
เคยนึกว่า ถ้าโลกนี้ไม่มีฟ้าไม่มีน้ำไม่มีป่าไม้ มนุษย์อย่างเราๆ จะเขียนกลอนถึงอะไรดีนะครับอาจารย์หมอ ธรรมชาติเป็นบ่อเกิด แห่งสุนทรียะแห่งชีวิตมนุษย์เนาะครับ
20 กรกฎาคม 2552 16:10 น. - comment id 1016854
เขียนได้ไพเราะมากๆๆ ทั้งภาษาและคำขอชื่นชม
20 กรกฎาคม 2552 18:32 น. - comment id 1016906
ปรางทิพย์ >>> ขอบคุณมากครับ ที่มาร่วมเหงาเฝ้าท้องฟ้าอยู่ด้วยกัน white rose >>> ขอบคุณมากครับ kirati >>> ขอบคุณครับ ไร้อันดับ >>> เวลามองท้องฟ้าที่เวิ้งว้าง มันให้ความรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ ครับ แก้วประเสริฐ >>> เขินเลยครับ ที่ยกย่องกันปานนั้น ที่จริงแล้ว ผมก็ยังเป็นแค่นักโคลงฝึกหัดอยู่เลยครับ ครูกระดาษทราย >>> ขอบคุณมากครับที่นำรูปสวย ๆ มาฝาก ใจปลายบาง >>> รูปน่ารักครับ .... อยากขึ้นไปบรรเลงเพลงบนดวงจันทร์อย่างนั้นได้ด้วยจัง ลำน้ำน่าน >>> จริงครับ ถ้าโลกนี้ไม่มีฟ้ามีดาว กลอนของวฤกมากกว่าครึ่งคงเขียนออกมาไม่ได้ tata >>> ขอบคุณมากครับ คนกุลา >>> บทกลอนของคุณก็งดงามเช่นกันครับ
20 กรกฎาคม 2552 22:07 น. - comment id 1017039
แวะมาอ่านนิทานครับหมอ
20 กรกฎาคม 2552 22:18 น. - comment id 1017047
มาฟังนิทานก่อนนอนครับ สวัสดีครับอาจารย์
20 กรกฎาคม 2552 23:14 น. - comment id 1017086
แวะมาทักทาย และอ่านกลอนเพราะ ๆ ครับ
21 กรกฎาคม 2552 00:13 น. - comment id 1017099
เพราะจังเลยนะคะ
21 กรกฎาคม 2552 07:03 น. - comment id 1017150
อรุโณทัย >>> ขอบคุณมากครับ ที่แวะมา ธันวันตรี >>> เป็นนิทานเขียนเล่น ๆ สั้น ๆ ครับ เขียนยาว ๆ อาจไม่มีคนอ่าน รัมณีย์ >>> ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับ เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ >>> ขอบคุณมากครับ
21 กรกฎาคม 2552 12:09 น. - comment id 1017247
สวัสดีครับ รำเพยเคยกล่าวไว้ว่าท้องฟ้าตราบ ใดที่ปกคลุมไปด้วยม่านเมฆหมอกซึ่งอบอวลด้วย หยาดน้ำที่คอยพร่างพรมให้แก่พฤกษานานาพันธุ์ ย่อมต้องผ่านความยากลำบากยิ่งนัก อุปมาดั่ง นักปราชญ์เมธีที่รจนาให้ขจรขจายได้ย่อมผ่าน อุปสรรคนานัปการจนเกิดเป็นดุจดังท้องฟ้า ย่อม มิยอมล่วงหล่นสู่ผืนดิน ล่วงรู้สภาวะการณ์แล้ว เจิด แล้ว พร้อมแล้ว มักจะลดทิษฐิมานะลงได้ด้วยตนเอง ย่อมจะมิยอมเกลือกกลั้วกับอาจม ฉันท์ใด นักปราชญ์ราชครูก็ฉันท์นั้นซึ่งหมายถึงการลด ทิษฐิมานะลงด้วยการถ่อมตนเองเป็นปัจจัยลุล่วง ผ่านอุปสรรคจนเปรียบดังท้องฟ้าที่สว่างไสวเลอ เลิศสวยสดงดงามฉะนี้แล รักเสมอครับ แก้วประเสริฐ.
21 กรกฎาคม 2552 17:21 น. - comment id 1017295
โอ้....อ่านแล้วเหงาตามเสียด้วยครับ ไพเราะจริงๆ ครับคุณหมอ *---*
21 กรกฎาคม 2552 20:14 น. - comment id 1017393
ท้องฟ้า แสงดาว นวลจันทร์ แสงอาทิตย์ ธรรรมชาติแสนสวยงาม สวัสดีค่ะ พี่วฤก
21 กรกฎาคม 2552 22:35 น. - comment id 1017485
คุณวฤก ชื่นชมในบทกลอนทุกบทค่ะมีความไพเราะและมีความหมายมากค่ะ จะติดตามงานกลอนน่ะค่ะ
22 กรกฎาคม 2552 08:57 น. - comment id 1017585
สงสัยว่าพระจันทร์จะเป็นหวัดสายพันธุ์ใหม่เดี๋ยวพอหายก็เต็มดวงเองนะครับ