>ท่ามราตรีสีโศกโลกรันทด ดั่งมีดกดกรีดกลางหว่างใจใส นอนร่ำไห้ใจสลายเพราะบางใคร น้ำตาใสไหลย้อนสะท้อนทรวง >ทนกล้ำกลืนฝืนยิ้มกลบรอยร้าว คนชั่วคราวหนาวรักหมดสิทธิ์หวง แม้จะทวงหาจิตชิดคนลวง สุดแดนสรวงห่วงหาแค่รักจริง >อยากตะโกนร้องไปให้ก้องโลก ความทุกข์โศกโยกไหวใจล้ายิ่ง หวังเพียงแค่หัวใจให้พักพิง แต่ทุกสิ่งล้วนสลายในพริบตา >หยดน้ำตาอาบแก้มนัยน์ตาช้ำ เพียงบอกย้ำคำรักหักใจพ้อ ทุกคืนท้อพรอดพร่ำด้วยใจรอ จากนี้พอขอหยุดทำร้ายใจ
19 กรกฎาคม 2552 00:47 น. - comment id 990455
คุณโชคชัย ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ ปรางจะพยายามต่อไปค่ะ
5 กรกฎาคม 2552 17:40 น. - comment id 1010255
อยากบอกมาว่าหัวใจอย่าได้ท้อ ไม่ต้องรอดีแล้วนะแก้วขวัญ เก็บหัวใจให้ใสว่างดังเพ็ญจันทร์ เพื่อรอวันตะวันหวังมาพรั่งใจ
5 กรกฎาคม 2552 22:30 น. - comment id 1010356
คุณปรางทิพย์ครับ ผมอ่านกลอนแล้วเข้าใจว่าคุณมีความพยายามเขียนดีนะ แต่การเขียนกลอนของคุณมันซ้อนและชิงสัมพัสค่อนข้างเยอะนะ บางวรรบางทก็เขียนเร่หาสัมพัสจนขาดอรรถรสไปหน่อย คงไม่ว่ากันนะที่เขียนมาแนะนำ
5 กรกฎาคม 2552 23:08 น. - comment id 1010364
คุณ คนกุลา ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้นะคะ คุณเป็นคนแรกเปิดประเดิมรับ น้องใหม่ในบ้านกลอนหลังนี้ ยินดีค่ะ
5 กรกฎาคม 2552 23:13 น. - comment id 1010365
คุณ รำจวน ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ ปรางทิพย์ จะพยายามปรับปรุงการ เขียนให้ดีขึ้นนะคะ เพราะเป็นบท กลอนชุดแรกค่ะ และยินดีรับฟัง คำแนะนำเสมอค่ะ
5 กรกฎาคม 2552 23:48 น. - comment id 1010371
พี่ปรางทิพย์ ครับ พึ่งเข้ามาใหม่หรอครับ เอาใจช่วยนะครับ ถ้าพี่มีเวลา แต่งบ่อยๆ ผมก็จะอ่านบ่อยๆ ผมคงไม่กล้าแนะนำ อะไรนะครับ ก็น้องใหม่ ไม่ต่างจากพี่เท่าไร ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ
5 กรกฎาคม 2552 23:54 น. - comment id 1010374
ท่ามราตรีสีโศกโลกรันทด ดั่งมีดกดกรีดกลางหว่างใจใส นอนร่ำไห้ใจสลายเพราะบางใคร น้ำตาใสไหลย้อนสะท้อนทรวง >>>>>>>>> กลางราตรีสีโศกโลกรันทด ผู้กำสรดสุดกลั้นทรวงสั่นไหว ก้อนสะอื้นตื้นจนจะล้นใจ เพราะบางใครเขาคล้ายทำลายทรวง ================================= ขออนุญาตแปลงกลอนนะครับ หากถือว่าเป็นการละเมิด .... ก็ขออภัยด้วย
6 กรกฎาคม 2552 00:42 น. - comment id 1010377
คุณกวีน้อยเจ้าสำราญครับ สวัสดีค่ะน้องกวีฯ พี่ก็จะพยายามค่ะ มีอะไรแนะนำกันได้นะคะ อิอิ เรื่องแต่งมากแต่งน้อยเนี่ย อยู่ที่ เวลากับกำลังใจค่ะ ไง ๆ มาเป็น กำลังใจซึ่งกันและกันนะคะ
6 กรกฎาคม 2552 00:47 น. - comment id 1010378
คุณ วฤก กลางราตรีสีโศกโลกรันทด ผู้กำสรดสุดกลั้นทรวงสั่นไหว ก้อนสะอื้นตื้นจนจะล้นใจ เพราะบางใครเขาคล้ายทำลายทรวง ================================= ขออนุญาตแปลงกลอนนะครับ หากถือว่าเป็นการละเมิด .... ก็ขออภัยด้วย ..................................................... ไม่เลยค่ะ ปรางทิพย์ กลับยินดีเสียด้วย ซ้ำไป ความเจ็บช้ำของคนเรา ก็เป็น แบบนี้แหละค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยม กันนะคะ
6 กรกฎาคม 2552 02:05 น. - comment id 1010391
คุณคนกุลา แหะ ๆ รูปใหญ่มาก จนไม่ เห็นกลอนที่เมนท์ให้น่ะ ขอโทษค่ะ อยากบอกมาว่าหัวใจอย่าได้ท้อ ไม่ต้องรอดีแล้วนะแก้วขวัญ เก็บหัวใจให้ใสว่างดังเพ็ญจันทร์ เพื่อรอวันตะวันหวังมาพรั่งใจ ........................................... หากดวงใจ มีรัก และภักดิ์มั่น ดุจดวงจันทร์ มั่นรัก และมอบให้ เก็บหัวใจที่ร้างว่างลงพลัน เป็นกำนัลแด่ชายมั่นรักจริง
6 กรกฎาคม 2552 06:46 น. - comment id 1010404
เอางี้ ดีกว่านะครับ ผมว่า พี่อาจยังไม่ค่อยเข้าใจโครงสร้าง กลอนแปดเท่าไร จริงๆ ผมว่าเข้าใจล่ะครับ แต่ว่า อาจยังผิดพลาดอยู่ กลอน 8 ประการแรกเอาแค่ สูตรไว้ก่อน ประการ สอง เอาเสียง ประการที่สาม ความหมาย และประการที่ สี่ เนื้อหา ส่วนประการที่ 5 มีเปล่าไม่แน่ใจ ผมก็ว่า คล้ายๆ เรียงความเรื่องสั้นน่ะครับ แต่ถ้าระดับเซียน จะเน้นหัวข้อ และนึกเรื่องราวไปเลย อันนี้ ผมก็ทำไม่ได้ครับ แบบว่า...คิดยังไงเอายังงั้นไว้ก่อน เพราะยังเป็นแค่มือสมัครเล่นๆ อิอิ อีกอย่าง ถ้ายังไม่จบจริงๆ ก็อาจจะมีภาคต่อ อะไรประมาณนี้ ที่ผมขอเสนอแนะนิดหน่อย ซึ่งจริงๆ คนอย่างผม ไม่ควรเสนอแนะ เพราะระดับเซียน....ท่านเหล่านั้น จะอดขำผมไม่ได้ เพราะจริงๆ ผมก็ศึกษา จากต้นแบบ บรมครู แล้วมาหัดแต่งดู แล้วพยายามแต่งมากๆๆ เช่น อันอ้อยตาลหวานลิ้นมิสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูมิรู้หาย อันเจ็บอื่นหมื่นแสนมิแคลนคลาย เจ็บเจียนตายก็ไม่เหน็บเท่าเจ็บทรวง ที่ผมเสนอเพราะว่า บทแปลงกลอนของคุณพี่ ปรางทิพย์ผิดระบบ น่ะครับ ที่ว่า อยากบอกมาว่าหัวใจอย่าได้ท้อ ไม่ต้องรอดีแล้วนะแก้วขวัญ เก็บหัวใจให้ใสว่างดังเพ็ญจันทร์ เพื่อรอวันตะวันหวังมาพรั่งใจ ........................................... หากดวงใจ มีรัก และภักดิ์มั่น ดุจดวงจันทร์ มั่นรัก และมอบให้ เก็บหัวใจที่ร้างว่างลงพลัน เป็นกำนัลแด่ชายมั่นรักจริง ............................................ หากดวงใจ มีรัก และภักด์มั่น ดุจดวงจันทร์ มั่นรัก และมอบให้ ดั่งร่างร้าง ว่างลง คงเหลือใจ ตอบแทนไป เป็นกำนัล มั่นรักจริง อะไรประมาณนี้ หรือถ้าจะต่อ แบบจริงๆ เช่นคำของ คุณน้าคนกุลา ลงจริง พี่ก็หาเสียง ที่ออก อิง หรือไม่ได้เลย ก็ อ้อยอิ่ง ยิ่ง ยิงทิ้ง ขำกลิ้ง...กรุ๊งกริ๊ง อะไรประมาณนี้ หวังว่า คนพี่ปรางทิพย์ ไม่ถือสา ที่ผมเสนอแนะนะครับ เพราะผมเห็นว่า เป็นมิตรรัก นักกลอน อีกคน ผมก็ไม่ได้เก่งหรอกครับ เพียงแต่ว่า พอเข้าใจในโครงสร้าง แล้วก็พยายามไม่ให้ทำเสียง แปร่งๆ มาก ผมเอง ถ้าให้ออกเสียง 5 เสียง ผมไล่ไม่ถูกเลยครับ ยอมรับว่านี่คือ เรื่องจริง ผมจึงพยายามลงเสียงที่ว่าไม่ไกลกันมากที่สุด คำก็เลยซ้ำๆ ข้อเสีย ของนักกลอน คือ อย่าให้มีคำซ้ำๆ บ่อยๆ ในเรื่องทีเราประพันธ์ขึ้นมา คำซ้ำบ่อยๆ อาจเสียอรรถรส ผมไม่ขอ อธิบายกว่านี้แล้ว ผมก็อดขำตัวเอง ไม่ได้เหมือนกัน ไม่ค่อยรู้เรื่อง ยังกล้าเสนอแนวคิดอีก หวังว่าคุณพี่ คงจะมองผมในแง่ดี กว่า คำว่า อวดตัวนะครับ เพราะผมเองบอกตรงๆ บางอย่างเราก็แลกเปลี่ยนความรู้ ด้วยฉันท์มิตรภาพได้ ขอบคุณนะครับ ที่ให้โอกาสผมแสดงคิดเห็น
6 กรกฎาคม 2552 11:11 น. - comment id 1010474
คร้าบผม พี่ปรางยินดีค่ะ เพราะพี่เองก็อ่านบทกลอนมามาก ขอบอกว่ามาก อิอิ เพราะตามอายุน่ะ แต่พอเขียนเข้าจริง ๆ ข้อผิดพลาดจะแยะมาก แบบพี่ปรางเองยังไปไม่ถึงดวงดาวน่ะ เพราะเพิ่งคิดจะเริ่มก้าวค่ะ ขอบคุณอีกครั้ง สำหรับคำแนะนำนะคะ แล้วพี่จะเก็บเอาไว้ ปรับปรุงนะคะ น้องกวีน้อยเจ้าสำราญครับ
6 กรกฎาคม 2552 17:19 น. - comment id 1010683
""" ยามรันทดหดหู่อย่างผู้แพ้ ดั่งมีดแล่แผลสดเเลือดหยดไหล แม้แผลกายหายผ่านนานเท่าใด แต่แผลใจไหนเลยเคยลบเลือน เอาใจช่วยนะครับคุณปรางทิพย์ พยายามต่อไปครับ
6 กรกฎาคม 2552 19:46 น. - comment id 1010728
ทุกอย่างย่อมมีการเริ่มต้น ต้องหัดทุกคนคับ ส่วนมากเป็นพรแสวง มากกว่า ไม่มีใครเกิดมาก็เป็นได้เลย ผมก็หัดอยู่ ไม่อายที่จะบอกว่า หลายๆสิ่งหรือทุกสิ่งต้องใช้ความเพียรทุกครั้ง และพัฒนาขึ้นไปเรื่อย เหมือนการเรียนรู้ทั่วๆไป คงต้องเรียนจนวันท้ายสุดหรือ สุดท้ายนั่นแหละ เรามาที่นี่เพื่อหัดและฝึกพร้อมกันดีกว่าคับ
6 กรกฎาคม 2552 22:49 น. - comment id 1010818
หยดน้ำตาอาบแก้มนัยน์ตาช้ำ เพียงบอกย้ำคำรักหักใจพ้อ ทุกคืนท้อพรอดพร่ำด้วยใจรอ จากนี้พอขอหยุดทำร้ายใจ หยาดน้ำตาของน้องนองสองแก้ม แม่จันทร์แรมเศร้าโศกสิ้นสดใส สงสารจริงน้องจ๋าแฟนลาไกล จากนี้ไปจงสมหวังนะปรางเอย
6 กรกฎาคม 2552 23:27 น. - comment id 1010848
คุณฝากฝัน ยามรันทดหดหู่อย่างผู้แพ้ ดั่งมีดแล่แผลสดเเลือดหยดไหล แม้แผลกายหายผ่านนานเท่าใด แต่แผลใจไหนเลยเคยลบเลือน ............................................. รอยแผลเป็นเห็นอยู่กับความช้ำ เก็บความจำย้ำใจอย่าให้เหมือน จะกี่ปีกี่วันและกี่เดือน ยังมีเพื่อนตรงนี้ที่ปลอบใจ โอยกว่าจะหาที่ลงได้ คุณฝากฝัน ปรางขอขอบคุณนะคะที่ให้เกียรติมา เยี่ยมบ้าน และกำลังใจที่ให้มาค่ะ
7 กรกฎาคม 2552 00:09 น. - comment id 1010859
คุณ วิทย์ ศิริ ทุกอย่างย่อมมีการเริ่มต้น ต้องหัดทุกคนคับ ส่วนมากเป็นพรแสวง มากกว่า ไม่มีใครเกิดมาก็เป็นได้เลย ผมก็หัดอยู่ ไม่อายที่จะบอกว่า หลายๆสิ่งหรือทุกสิ่งต้องใช้ความเพียรทุกครั้ง และพัฒนาขึ้นไปเรื่อย เหมือนการเรียนรู้ทั่วๆไป คงต้องเรียนจนวันท้ายสุดหรือ สุดท้ายนั่นแหละ เรามาที่นี่เพื่อหัดและฝึกพร้อมกันดีกว่าคับ ....................................................... ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจ ปรางเองก็หวังไว้เช่นนั้นนะคะ ว่าจะพัฒนาไปได้ดีกว่าที่เป็นนี้ มาค่ะ มาฝึกหัดพร้อม ๆ กัน ดีค่ะ จะได้มีเพื่อนร่วมด้วยช่วยกัน
7 กรกฎาคม 2552 00:42 น. - comment id 1010860
คุณ ก่องกิก หยดน้ำตาอาบแก้มนัยน์ตาช้ำ เพียงบอกย้ำคำรักหักใจพ้อ ทุกคืนท้อพรอดพร่ำด้วยใจรอ จากนี้พอขอหยุดทำร้ายใจ หยาดน้ำตาของน้องนองสองแก้ม แม่จันทร์แรมเศร้าโศกสิ้นสดใส สงสารจริงน้องจ๋าแฟนลาไกล จากนี้ไปจงสมหวังนะปรางเอย ........................................... ได้ยินคำพรวอนนะพี่เอ๋ย รักน้องเคยเฉยชาลาไกลช้ำ แต่นี้คงไม่รักเตือนตัวย้ำ จะจดจำคำลวงห่วงตัวเอง ขอบคุณสำหรับเมนท์งาม ๆ และคำพร นะคะ
7 กรกฎาคม 2552 09:08 น. - comment id 1010893
ขอบคุณสำหรับเม้นท์นะคะ เป็นเด็กใหม่สำหรับที่นี่เหมือนกัน ผู้น้อยขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
10 กรกฎาคม 2552 22:24 น. - comment id 1012623
น้อง พล่ามรำพัน ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ พี่ปรางเองก็ใหม่สำหรับบ้านนี้ค่ะ เรามาเป็นกำลังใจให้กันและกันนะคะ
14 กรกฎาคม 2552 21:00 น. - comment id 1014419
ผมเป็นใครมาแต่ไหนมิไคร่รู้ ผมเป็นผู้รู้กลอนนอนสตอป อย่าโกรธขึ้งแต่งมั่วใจมันชอบ ไม่ชอบอ๊อฟไซค์ใครใจสุขพอ. คงไม่ว่าพี่ป๋องปุ๋ยนะ
15 กรกฎาคม 2552 22:16 น. - comment id 1015022
เมื่อความทุกข์บุกเข้าถึงตัวฉัน คงสักวันบาปที่ก่อกรรมมาถึง ยอมรับเจ็บในใจเข็มจิกดึง ล้มลงตึงแทบขาดใจใกล้ตาย คือความรู้สึกกดดันวันนี้ พี่ป๋องมีเวลาให้สุขน้อยใจหาย คงแค่สงสารปล่อยให้อยู่อย่างเดียวดาย จะอับอายถ้ารู้ไม่มีใคร(รัก).
15 กรกฎาคม 2552 22:57 น. - comment id 1015039
คุณกษิณ ขอบคุณสำหรับการเข้ามาเยี่ยมนะคะ และกับบทกลอนที่ส่งเข้ามาแจม เขียนแบบนี้ น่าสมัครเข้าเป็นสมาชิก และเขียนกลอนเป็นของตัวเองนะคะ
18 กรกฎาคม 2552 19:40 น. - comment id 1016160
เติมร้อยเลยขอรับ
3 สิงหาคม 2552 21:34 น. - comment id 1022931
พี่จ้านำ้ตาทอ้มจอแล้วจ้า
6 สิงหาคม 2552 00:33 น. - comment id 1023696
กลอนดี แต่ว่าสัมผัส....กับเนื้อหา ยังไม่สอดคล้องกันสักเท่าไร ยังไ พี่ปราง ก็อย่าท้อนะคะ