หอมใดเล่าเท่าผกามาลาร้อย กรุ่นกลิ่นลอยตามสายลมให้ชมชื่น เก็ตถวาค่อยๆร่ำ ยามค่ำคืน ยากจะฝืนด้วยนาสาข้าอาลัย กลีบขาวนวลชวนชิดสนิทแก้ม ยามเจ้าแย้มเย้ายวนชวนหวั่นไหว สิ้นกลิ่นเจ้า ก็ร้าวรานปานสิ้นใจ หรือเยื่อใยสายสวาทเจ้าขาดแล้ว ปล. ปาณาดี เป็นภาษาพม่า (ถามจากเด็กที่บ้าน... แปลว่าขนุนค่ะ)
9 พฤษภาคม 2552 11:56 น. - comment id 981857
Re: หอมใดเล่าเท่าผกามาลาร้อย กรุ่นกลิ่นลอยตามสายลมให้ชมชื่น เก็ตถวาค่อยๆร่ำ ยามค่ำคืน ยากจะฝืนด้วยนาสาข้าอาลัย กลีบขาวนวลชวนชิดสนิทแก้ม ยามเจ้าแย้มเย้ายวนชวนหวั่นไหว สิ้นกลิ่นเจ้า ก็ร้าวรานปานสิ้นใจ หรือเยื่อใยสายสวาทเจ้าขาดแล้ว -------------------------- ๐ น้องเกิดเป็นบุปผาผกามาส ที่มิอาจเลือกผู้ดอมหอมดวงแก้ว ได้แต่คอยภู่ผึ้งหอมตอมใจแพรว เมื่อชมแล้วเขาโผผินบินจากไป ๐ เมื่อกลิ่นจางหมางเมินเราเสาวรส ความช้อยชดเคยภิรมย์สมใจหมาย กลีบบางบางเหมือนอย่างห้วงดวงฤทัย ที่พี่ชายเคยพร่ำย้ำว่าหลง ๐ มายามที่กลิ่นหอมเรื่อเริ่มเจือจาง รักเริ่มลางเลือนหลีกเหมือนฉีกโค้ง โธ่พี่ขา ผกาวดีนั้น ยังมั่นคง มิลืมหลงปลงใจนี้เพื่อพี่ยา ๐ ถึงแม้นเมื่ออุษามาฟ้าสว่าง กลิ่นที่จางจากไปยังใฝ่หา สัมพันธ์รักสัมพันธ์สวาทมิคลาดคลา มอบพี่ยา "ปาณาดี" มิลืมเลือน มาร่วมต่อกลอนค่ะ กลอนของคุณปาณาดีไพเราะมากค่ะ อดใจไม่ไหว ขอร่วมรจนาต่อด้วยคนค่ะ ขอบคุณค่ะ
9 พฤษภาคม 2552 12:02 น. - comment id 981860
ทดสอบ ทำไมโพสต์ไม่ขึ้น
9 พฤษภาคม 2552 15:21 น. - comment id 981923
สวัสดีครับกลอนเพราะครับผม
10 พฤษภาคม 2552 14:34 น. - comment id 982261
12 พฤษภาคม 2552 22:31 น. - comment id 983423
ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่านค่ะ ช่วยเกลาให้ด้วยนะคะ เพิ่งเข้ามาค่ะ