เฝ้ารอคอยรอยแสงทองแหงนมองฟ้า ยามแสงแรกแห่งนภากระจ่างหาว ทักตะวันฝันระยับวับแวววาว อรุณรุ่งจรัสพราวคล้ายยาวนาน ผ่องปภัสร์พราวรพีเฉดสีแสง เติมเรี่ยวแรงแห่งไฟฝันร้อยพันหวาน ฉาบเมฆคล้อยร้อยประกายคล้ายสายธาร ดังกิ่งกาญจน์งามระยับนับกัปกัลป์ ยอมฝังรากฝังฝากรอยรอคอยเฝ้า แหงนมองเศร้าใจสลัวมัวเมาฝัน ตราบแสงแรกจนลาลับนับนิรันดร์ ดวงตะวันมิเคยแล...แม้ครู่เดียว
30 เมษายน 2552 13:49 น. - comment id 979286
ที่มาของบทกลอน ตำนานดอกทานตะวัน มีตำนานเล่าว่า อพอลโล เทพแห่งสุริยา ที่ขับราชรถพาดผ่านท้องฟ้าทุกเมื่อเชื่อวัน ยังมีสาวน้อยนางหนึ่งชื่อว่า ไคลที(Clytie) เธอมักจะมองเทพ อพอลโล ยามที่พระองค์ขับราชรถพาดผ่านท้องฟ้าทุกวันด้วยความเสน่หา ทุกวันเธอจะเฝ้ามองเทพองค์นั้นตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะผ่านไปทางไหน เธอจะเฝ้ามองตามไปทุกที่และทุกแห่ง เธอเฝ้าหลงใหล และครุ่นคิดในใจ เขาจะลงมาหาเธอหรือไม่หนอ เขาเป็นถึงเทพเชียวนะ เขาจะมารักตอบเธอกระนั้นหรือ? เธอยังคงเฝ้ามองต่อไป และหวังในรักต่อไปเช่นกัน แต่เทพ อพอลโล มิเคยสนใจนางเลย มิได้เหลียวดูว่ายังมีใครคนหนึ่งเฝ้าคอยพระองค์อยู่ หลายวันเข้า ไคลที ผู้น่าสงสารก็เริ่มเหี่ยวเฉา ด้วยไม่ยอมทำอะไรนอกจากเฝ้ามองเทพอันเป็นที่รักแต่เพียงอย่างเดียว เหล่าเทพทั้งหลายสงสารนาง จึงเสกให้นางเป็นดอก ทานตะวัน ที่จะหันไปยังแสงอาทิตย์ ดุจดัง ไคลที ที่เฝ้ามองเทพ อพอลโล อยู่ชั่วกาลนิรันดร์ --------------------------------------------------------------------------------
30 เมษายน 2552 14:27 น. - comment id 979303
ขอบคุณที่เล่าตำนานดอกทานตะวันให้ทราบค่ะ
30 เมษายน 2552 14:51 น. - comment id 979322
สวัสดีค่ะ อ่านแล้วคิดถึงเพลง "ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน" จังค่ะ
30 เมษายน 2552 18:17 น. - comment id 979409
Spicecomments.com - Flowers Comments ชอบสีเหลืองครับ แต่อันนี้เป็นกุหลาบ ไม้ขีดไฟน่าจะแลบ้างนะ
2 พฤษภาคม 2552 22:09 น. - comment id 980005
อย่าให้รัก อย่าให้ฝัน เป็นดั่งดอกทานตะวันเลยนะคะ จะได้สมใจในสิ่งไขว่คว้าไง
2 พฤษภาคม 2552 22:10 น. - comment id 980007
แวะมามองตามทางทานตะวัน