จากกันไกลยังใฝ่คะนึงนิจ จำจรจิตหัวใจยังใฝ่หา ฉันรู้ซึ้งแสนไกลในอุรา จึงได้มายืนร่ำพร่ำรำพัน จะฝากลมก็กลัวจะหวนกลับ ดาวประดับฉันยิ่งไม่อาจฝัน เพราะกลัวแสงน้อยนิดไม่ถึงกัน จึงฝากจันทร์ช่วยบอกถึงความใน หวังว่าแสงนวลจันทร์คงส่งถึง ไม่ตกครึ่งหนึ่งคำหายไปไหน เพราะทุกคำจะพูดออกจากใจ แม้ห่างไกลแสนไกลยังรำพัน ฉันอยากบอกว่ารักเธอเสมอ หัวใจเธออาจจะไม่คิดถึงฉัน เพราะว่าเราได้พบเพียงหนึ่งวัน ฉันอาจฝันพร่ำเพ้ออยู่คนเดียว จะกล่าวมากกลัวจันทร์จำไม่หมด อยากจะจดใส่ฟ้าทะเลเขียว อยากให้น้ำต่อกันเป็นผืนเดียว อยากจะเกี่ยวผืนดินร้นเข้ามา หากชาตินี้ดวงเราไม่เคียงคู่ รั้งสุดกู่ก็ไม่กลับมาหา ฉันจะเฝ้านับวันและเวลา จนสายตาพร่าเลือนก็จะรอ แม้หมดแรงจะกล่าวเป็นคำได้ ถึงมือไม้ไม่อาจเขียนคำขอ จะส่งใจฝากจันทร์จงเฝ้ารอ ฉันแค่ขอทุกคืนมีดวงจันทร์ หากลมไหลออกหายจนไม่เหลือ จันทร์เกิดเบื่อจดจำคำของฉัน ตัวฉันขอได้เกิดเป็นตะวัน ขึ้นแทนจันทร์เฝ้าพิศพินิจเธอ
5 เมษายน 2552 20:46 น. - comment id 970698
** งามคืนเพ็ญ เด่นเดือน ดาวเกลื่อนฟ้า ดวงดารา รายเรียงดั่ง.. เคียงโสม .. ส่องประกาย วับแวว แพรวโพยม ดุจดั่งโคม ส่องหล้า นภาลัย..... ...,มาฝากจันทร์ช่วยบอก...เช่นกันค่ะ...
6 เมษายน 2552 14:38 น. - comment id 970960
จะคอยย้ำจันทร์ให้ว่าอย่าได้ลืม.ค่ะ.
6 เมษายน 2552 21:10 น. - comment id 971178
ขอบคุณค่ะที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น แม้จะเป็นจะเป็นคนที่เขียนกลอนได้ไม่นาน และไม่เก่งเท่าไร เพียงแค่แสดงความคิกเห็นก็เป็นกำลังได้มากแล้ว....
6 เมษายน 2552 22:37 น. - comment id 971234
ขอบคุณ คุณ ราชิกา ที่ต่อกลอนให้น่ะค่ะ และขอบคุณครูกิตติกานต์อีกครั้ง