วาจาหว่านล้อมมาอ้อมโอบ เล้าโลมโปรดความงามเจ้าศรีเกตุ ปากหวานล่ำคำสัญญาว่าชัดเจน ทำบรรเลงรักจริงหวังแต่งนาง เมื่อดมดอมสุขสมอารมณ์หมาย ก็กลับกลายเป็นความหยาบต่ำช้า ละทิ้งนางศรีเกตุไปช้ำอุรา คำสัญญาแค่ลมปากจากคนเลว นางศรีเกตุเสียใจด้วยช้ำรัก มาสลัดประหัตประหารสลายสิ้น ยังถูกเหยียบย่ำซ้ำเติมเกินกลืนกิน ว่าเจ้าหญิงต่ำศักดิ์จากต่างแดน ช่างใจร้ายเหลือแสนชายที่รัก จะแต่งกับหญิงอื่นยื่นสวมแหวน นำผ้ามาให้นางปักจนเจ็บแค้น ทนนั่งแทงเข็มปักผ้าทุกข์ระทม นางศรีเกตุสุดจะทนอดไม่ไหว ว่าทำไมชีวิตข้าเป็นเช่นนี้ จึงหยดเลือดลงคำสาปในทันที ผู้ใดมีผ้าผืนนี้ต้องบรรลัย
10 มีนาคม 2552 13:17 น. - comment id 960968
ว่าทำไมชีวิตข้าเป็นเช่นนี้ ประโยคนี้นึกถึงสาปภูษาจริงๆ ดูเหมือนกัน ชอบอ่ะ
10 มีนาคม 2552 18:12 น. - comment id 961119
อ่านแล้วมองเห็นภาพเลยเนาะเจ้า น่าสงสารจัง
10 มีนาคม 2552 19:38 น. - comment id 961169
เห็นภาพเลย...คล้ายได้อ่านเรื่องย่อ...
11 มีนาคม 2552 08:13 น. - comment id 961377
แต่งได้ดีมากเลยครับ.....เข้าถึงอารมณ์เลยหละ...สงสารนางศรีเกตุนะ..
11 มีนาคม 2552 11:32 น. - comment id 961477
ขอบคุณทุกคนค่ะ ที่ให้การตอบรับเป็นอย่าง ดี ฉันดีใจมากค่ะ และรู้สึกมีกำลังใจในการ เขียนกลอนมากขึ้น จะพยายามพัฒนาฝีมือ ต่อไปค่ะ
11 มีนาคม 2552 13:44 น. - comment id 961530
แวะมาเยี่ยมชมนะ-ขอรับ ดูละครแล้วย้อนคิดพินิจนึก รู้จักตรึกตรองเป็นเห็นแก่นสาร สาปภูษา..สาปชีวิต..จิตวิญญาณ ฤๅเล่าขานเพื่อสนอง...ต้องอารมณ์ หากเรายัง โทสา แค้นอาฆาต พยาบาท นำจิต ให้ติดหล่ม โลภ โกรธ หลง มัวเมา เขลาโง่งม ก็ควรก้ม กายใจ...ไว้รับกรรม