เมื่อเธอเริ่มพูดจาประสารัก เธอฟูมฟักพลังแรงแห่งความฝัน ให้โลกหยัดยืนกล้าสู้ฝ่าฟัน เรียนรู้ขั้นตอนวิถีแห่งชีวา เธอแสดงความรักรู้จักให้ ก็ซาบซึ้งตรึงใจในคุณค่า นิยาม "รัก" สดใสในแววตา ถ่ายทอดเป็นภาษาจารึกไว้ ตื้นตันรักที่สื่อคือรอยยิ้ม ลูบมือนิ่มอย่างนั้นยิ่งหวั่นไหว เมื่อหวานหว่านสำเนียงเสียงหวานไป ทุกดวงใจก็สรรเสริญเพลินชื่นชม ความเป็นเธอสานเส้นทางสร้างคุณค่า ลบเหว่ว้าวันคืนอันขื่นขม ความเป็นเธอคือความรักผลักอารมณ์ ปลุกคนล้มให้ลุกสู้หยัดอยู่ยืน เมื่อเธอเริ่มพูดจาประสารัก ย่อมฟูมฟักความฝันอันสดชื่น ระบายสีจากสวรรค์ทุกวันคืน โลกทั้งผืนก็สดสวยด้วยความรัก
17 มกราคม 2552 00:17 น. - comment id 937029
...พูดจาประสารัก ..หลักสูตรนี้เปิดเมื่อไหร่..บอกด้วย ขอเรียนด้วยคน..นะๆๆ.. ..แวะมาอ่านกลอนเพราะๆก่อนนอนค่ะ..
17 มกราคม 2552 00:40 น. - comment id 937033
จะหวานไปไหนคะเนี่ย ปล.แปะกลอนเสร็จก็หายไปเลยเน้อ
17 มกราคม 2552 15:34 น. - comment id 937132
เค้าพูดกันแบบไหนน๊า พูดจาประสารักเนี่ย อยากรู้จัง อิอิ
17 มกราคม 2552 20:34 น. - comment id 937192
ยามพูดจาพาทีเมื่อมีรัก กับคนที่ใจปักลงแน่นหนา ช่างหวานซึ้งเหลือจะพรรณนา โอ้ชอบจริงพูดจาประสารัก อย่างที่โบราณท่านว่า... "ยามรักน้ำต้มผักขมชมว่าหวาน" เวลารักนี่พูดจากันแทบฟังไม่ได้ หว๊าน...หวาน...จนขนลุก อึ๋ย......
17 มกราคม 2552 21:03 น. - comment id 937199
หวานหวานแบบนี้ระวังเลี่ยนนะน้องจ๋า เหมือนที่อัลมิตราเปรียบไว้ มีหนุ่มหนึ่งติดตามเขียนความจีบ ข้อความหนีบ "รัก/คิดถึง" ซึ้งกระหน่ำ สิบปากว่า ตาเห็น ฤๅ เช่นคลำ คนอ่านขำหัวเราะบ้างมองต่างมุม น้องเชษฐภัทรกำลังเขียนจีบใครมั้ยนี่ ระวังนะจ๊ะจะเข้าข่าย เช่น อัลมิตราว่าไว้