ใบไม้หล่นบนม้านั่งหน้าบ้าน มองสะพานผุพังกับกังหัน ผ่านเวลาทุกข์สุขเหมือนทุกวัน เฝ้าปลอบขวัญตัวเองด้วยเพลงเดิม แลลานร้าวร้าวรานสงสารหญ้า ต้องลมหน้าเหมันต์ก็สั่นเทิ้ม ฤๅน้ำค้างจางหมดไม่หยดเติม ใบจึงเริ่มแห้งเหี่ยวทั้งเรียวใบ เปิดสมุดเก็บภาพเปื้อนคราบฝุ่น แล้วอิงหนุนหมอนปลอกรูปดอกไม้ โล้ชิงช้าล้าแรงจะแกว่งไกว เรียกดวงใจดวงดับให้กลับมา เขาเผลอหลงลืมชื่อเธอหรือไม่ เขามิได้ลืมชื่ออย่าถือสา ภาพปลายก้อยน้อยนิดยังติดตา ตราบเวลากำหนดความจดจำ สะพานข้ามลำน้ำเคยงามมาก เหลือเพียงซากแห้งกรอบและบอบช้ำ ภาพถ่ายเล่าเรื่องราวสีขาวดำ เหลืองเป็นจ้ำโดยรอบริมขอบจาง เธอเหินห่างจางหายเหมือนสายหมอก อยากจะบอกคำหนึ่ง..คิดถึงบ้าง เมื่อลาลับ..กลับเยือนคงเลือนลาง อาจอ้างว้าง..นานลงก็คงชิน วันที่เหลือเพื่อคอยนับถอยหลัง จากรวงรังอ้อมอก..เธอผกผิน จากตะวันโผผกจนตกดิน จนสูญสิ้นความฝันไม่หันดู เขาเรียนรู้เพื่อมีคู่ชีวิต เมื่อครั้งคิดจะมีชีวิตคู่ เมื่อเธอเมินเดินออกนอกประตู กลับเรียนรู้เพื่อทนอยู่คนเดียว ขอผ่อนพักสักวันเถิดฝันร้าย บนเส้นด้ายปลายขดที่คดเคี้ยว จบความจำน้อยนิดที่ผิดเกลียว จะโดดเดี่ยวก็ขอเดินต่อไป ปิดสมุดเก็บภาพเปื้อนคราบฝุ่น ใต้หมอนหนุนลายปลอกรูปดอกไม้ อาจไม่มีหลงเหลือแล้วเยื่อใย แต่อย่างน้อยหัวใจ..เคยได้รัก ๘ มกราคม ๒๕๕๒
8 มกราคม 2552 22:32 น. - comment id 933824
แค่ได้รัก เคยรัก คิดเท่านี้ก็มีสุขแล้วละคะ เก็บทุกอย่างระหว่างกัน เป็นความทรงจำที่งดงาม ราตรีสวัสดิ์เจ้าค่ะ
8 มกราคม 2552 22:35 น. - comment id 933825
แค่ครั้งหนึ่งเคยได้รู้จักรัก ก็สุขนักเพียงจิตได้คิดถึง อดีตกาลล้ำค่ายังตราตรึง คงคำนึงถึงอยู่มิรู้คลาย เคยรัก ก็ยังดีที่ครั้งหนึ่งเคยมีรัก แสดงว่ายังมีหัวใจอยู่ อิอิ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
9 มกราคม 2552 06:08 น. - comment id 933874
....แต่อย่างน้อยหัวใจได้เคยรัก.. ...แค่นี้.. ก็เป็นความรู้สึกที่ดีแล้วค่ะ.. ..เพราะรักยังอยู่ในใจ.... ..ไหนว่าแต่งกลอนรักไม่ได้ นี่ไงคะ.แต่งได้ซึ้งเชียวค่ะ.. ..................................
9 มกราคม 2552 06:53 น. - comment id 933893
คุณฤทธิ์เขียนกลอนแนวนี้ ถ่ายทอดความรู้สึกได้ดีจริงๆ .....
9 มกราคม 2552 06:54 น. - comment id 933894
จำต้องจากเธอไปด้วยใจหมอง ใช่ว่าน้องจะสิ้นรักคิดผลักไส คงเป็นเพราะสองเราไม่เข้าใจ น้องจึงได้จำลาน้ำตานอง เป็นความหลังครั้งหนึ่งคิดถึงมาก เสียดายหากทิฐิกลางหว่างเราสอง นานวันที่หัวใจเฝ้าไตร่ตรอง ความหม่นหมองถมทับกับหัวใจ หรือเราทำกรรมใดไว้ชาติก่อน จึงบั่นทอนรักเราเศร้าหมองไหม้ โอ้อยากถามอยากย้ำความเป็นไป รักสุดรักแต่ทำไมต้องไกลกัน หวัดดีค่ะ ฤทธิ์ ศรีดวง กลอนบทนี้เพราะมากที่สุดในโลก ชอบจังเลย..สุดยอดค่ะ
9 มกราคม 2552 10:06 น. - comment id 933952
ปิดสมุดภาพเก่าเอาวางไว้ ลอดหน้าต่างออกไปใจสั่นเทิ้ม เคยบันทึกไร้สีหมึกคอยแต่งเติม ไม่เคยเริ่มเขียนถ้อยร้อยรักใคร ปกเปื้อนฝุ่นหม่นหมองสองตาช้ำ อ่านแล้วจำเงาอดีตกรีดใจไหว บันทึกน้อยที่เคยร่ำคำพิไล บัดนี้วางห่างไกลสายตามอง มันก็แค่กระดาษวาดความฝัน ฝ่านคืนวันสีจางไปไร้เจ้าของ เหมือนใบไม้ร่วงหล่นบนครรลอง ใครจะจองร่วงจากต้นคนร้าวราน
9 มกราคม 2552 10:14 น. - comment id 933960
คุณแบม สวัสดีครับ ขอบคุณมากที่แวะมาทักทายกัน เคยอ่านงานของ คุณปราณรวี หรือเปล่าครับ "อย่างน้อยหัวใจได้เคยรัก" เขียนได้ดีมาก แต่ตอนนี้คงไม่มีแล้ว เพราะเธอลบงานของเธอไปหมดแล้ว ขอให้มีความสุขครับ น้องเฌอมาลย์ หวัดดีน้องเฌอ หลับฝันดีนะครับ วันเสาร์ไปเที่ยววันเด็กให้สนุกนะครับ คุณวุ้นเส้น ไม่ไหวครับ เขียนกลอนรักแล้วมันจักกะจี้ พยายามแล้ว ทำได้แค่นี้ อาจจะเลิกกลอนแนวนี้แล้ว เขียนเรื่องมันๆ ดีกว่า ประเภท ถ่วงน้ำ อะไรทำนองนั้น ขอให้มีความสุขมากๆครับ ท่าน บนข. นมัสการพระคุณเจ้า ขอบพระคุณสำหรับคำชมขอรับ พิมพรรณ สวัสดีครับ ขอบคุณสำหรับบทกลอเพราะที่รวมแจมครับ ขออนุญาตไม่ตอบเป็นร้อยกรองครับ ขอให้มีความสุขในงานครับ
9 มกราคม 2552 10:46 น. - comment id 933978
เยี่ยมทีเดียวคับ
9 มกราคม 2552 10:50 น. - comment id 933979
พิมจัง หวัดดีน้อง สมุดชื้นขึ้นราที่หน้าแรก อีกภาพแตกลายงาที่หน้าสอง ภาพหน้าสามยืนยิ้มอยู่ริมคลอง หน้าสี่หมองไปนิดจำผิดคน ภาพหน้าห้า..ปีสามเล่นน้ำตก ส่วนหน้าหกร้องไห้กลางสายฝน หน้าเจ็ด ถ่างตาทำวิทยานิพนธ์ หน้าแปดถ่ายกลางถนนอวดผลงาน ภาพเก้าถ่ายบันทึกนักศึกษา ภาพสิบรับปริญญายิ้มหน้าหวาน ภาพสิบเอ็ดถ่ายบัณฑิตติดวิญญาณ (ออกรายการทีวีเมื่อปีกลาย)
9 มกราคม 2552 11:06 น. - comment id 933985
คือร่องรอยคอยสานการย้อนกลับ หรือลาลับแรมไกลไม่คืนหวน เพื่อปล่อยวางเศร้าสุขทุกกระบวน ทุกสิ่งล้วนเป็นกิจอนิจจัง มีพบ มีพราก มีจากแล้ว ไกลเพื่อนแก้วห่างกันมิทันสั่ง แต่ไมตรีเสกสรรมั่นจีรัง จะยืนยังคงอยู่คู่ใจเรา ขอเพื่อนจงสุขสันต์กับวันคืน ครอบครัวชื่นความรักสลักเสลา รอบชีวิตสุขสราญอยู่นานเนาว์ และมีเราเป็นมิ่งมิตรสนิทนาน
9 มกราคม 2552 11:06 น. - comment id 933986
สมุดชื้นขึ้นราที่หน้าแรก อีกภาพแตกลายงาที่หน้าสอง ภาพหน้าสามยืนยิ้มอยู่ริมคลอง หน้าสี่หมองไปนิดจำผิดคน ภาพหน้าห้า..ปีสามเล่นน้ำตก ส่วนหน้าหกร้องไห้กลางสายฝน หน้าเจ็ด ถ่างตาทำวิทยานิพนธ์ หน้าแปดถ่ายกลางถนนอวดผลงาน ภาพเก้าถ่ายบันทึกนักศึกษา ภาพสิบรับปริญญายิ้มหน้าหวาน ภาพสิบเอ็ดถ่ายบัณฑิตติดวิญญาณ (ออกรายการทีวีเมื่อปีกลาย) ************************************ ภาพสิบสองน้ำตานองสองแก้มอาบ วิ่งป่าราบนึกขยาดเงาวาบหาย เห็นลางๆว่านั่นผีหรือพี่ชาย(พี่ฤทธิ์) คืนเดือนหงายนั่งเหม่อลอยเหมือนคอยใคร โหหหหหหหเล่นมุกนี้อีกแย้วอะ อยู่ไหนคะ..ใต้หรือกทม.. รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
9 มกราคม 2552 11:10 น. - comment id 933987
คือร่องรอยคอยสานการย้อนกลับ หรือลาลับแรมไกลไม่คืนหวน เพื่อปล่อยวางเศร้าสุขทุกกระบวน ทุกสิ่งล้วนเป็นกิจอนิจจัง มีพบ มีพราก มีจากแล้ว ไกลเพื่อนแก้วห่างกันมิทันสั่ง แต่ไมตรีเสกสรรมั่นจีรัง จะยืนยังคงอยู่คู่ใจเรา ขอเพื่อนจงสุขสันต์กับวันคืน ครอบครัวชื่นความรักสลักเสลา รอบชีวิตสุขสราญอยู่นานเนาว์ และมีเราเป็นมิ่งมิตรสนิทนาน
9 มกราคม 2552 12:05 น. - comment id 933994
แค่ได้รักก็สุขมากเพียงพอแล้ว ใจแน่แน่วมุ่งทำให้สดใส แม้ไม่ได้ครอบครองไม่เป็นไร อย่างน้อยใจเรียนรู้รักให้เป็น รักเขาแล้วอยากให้เขามีสุข ไร้ซึ่งทุกข์หม่นไหม้มาให้เห็น ขอเธอยิ้มตลอดเช้าสายบ่ายเย็น ทุกข์หลีกเร้นห่างหายไปจากเธอ ก็เคยรักจึงทำให้ได้รู้ รักคงอยุ่ตลอดกาลนั้นเสมอ แม้ผ่านไปเพียงใดไม่พบเจอ ก็ยังเพ้อมีเธออยู่เคียงใจ ยังห่วงหาห่วงใยไม่เคยห่าง ไม่เคยต่างจากเก่าสักแค่ไหน แค่ว่าเพียงวันนี้เราจากไกล ไม่เป็นไรอย่างน้อยใจก็ได้รัก .......................
9 มกราคม 2552 13:56 น. - comment id 934040
น้องพี่สาวตัวเล็ก ยังติดตามถามดาวถึงข่าวเพื่อน ไปเยี่ยมเยือนแม้หลีกไปอีกบ้าน ยังจดจำสัมพันธ์ของวันวาน และผลงานของเกลอเสมอมา จะทายทักสักทีจะดีไหม เห็นชื่อเสียงเรียงใหม่จึงไม่กล้า เพราะเข้าใจในเหตุเจตนา แต่รู้ว่าอยู่นี่ก็ดีใจ ยังไปอ่านอักษรแม้กลอนเก่า อาจขัดเกลาเรียงร้อยเป็นถ้อยใหม่ แต่สำนวนของเพื่อนไม่เหมือนใคร จึงจำได้ชัดเจนเหมือนเช่นเคย ก็เคยนึกอำลาหลายคราก่อน เมื่อมองย้อนหลายอย่างจึงวางเฉย ถ้าทิ้งเพื่อนนี่จะเหมือนละเลย ที่เอื้อนเอ่ยใช่อื่นขอยืนยัน เห็นเพื่อนมารู้ไหมดีใจมาก แม้จะอยากชวนคืนคงฝืนฝัน อาจไม่เคยเห็นหน้าพูดจากัน แต่ผูกพันจากอักษรไม่คลอนคลาย จงก้าวอย่างมุ่งมาดเพื่อวาดหวัง มีฟากฝั่งไกลสุดเป็นจุดหมาย จะมิเหงาเปล่าเปลี่ยวเดินเดียวดาย มีหนึ่งกายเพื่อนเผชิญร่วมเดินทาง
9 มกราคม 2552 14:10 น. - comment id 934048
แต่งกลอนเก่งจังเลยค่ะ
9 มกราคม 2552 14:13 น. - comment id 934051
มิรู้จะกล่าวสิ่งใด (ยื้มวลีของ ป. มาใช้หน่อยนะคะ)
9 มกราคม 2552 14:20 น. - comment id 934054
ก่อนอาจเคยรักเธอแต่วันนี้ ความคิดถึงล้นปรี่แลห่วงหา เพิ่งเข้าใจเมื่อผ่านกาลเวลา ยังรักเธอเสมอมาทุกนาที เธออาจอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง เคยคิดถึงกันบ้างหรือเปล่านี่ อยากให้รู้มิตรภาพที่แสนดี ยังจดจำแม้ปีจะผ่านเลย
9 มกราคม 2552 14:26 น. - comment id 934064
พิมจัง ตอนนี้อยู่กรุงเทพครับ พักผ่อนอยู่บ้าน ขอเล่นหน่อยเถอะวันนี้ ................................................................ ภาพสิบสองน้ำตานองสองแก้มอาบ วิ่งป่าราบนึกขยาดเงาวาบหาย เห็นลางๆว่านั่นผีหรือพี่ชาย(พี่ฤทธิ์) คืนเดือนหงายนั่งเหม่อลอยเหมือนคอยใคร ................................................................ เป็นเรื่องเล่าจากปึกบันทึกนั้น ในคืนจันทร์ทรงกลดดวงสดใส มีร่างหนึ่งเดินอยู่ไม่รู้ใคร ทั้งที่ไม่มีหัวแต่ตัวมา คือบันทึกอาถรรพ์ของบัณฑิต ปลิดชีวิตตัวตายเพราะขายหน้า วันที่เธอฉลองรับปริญญา เมาสุราผ้าขาดอุจาดจัง พอฟ้าสางสร่างเมากระเป๋าหาย ทั้งสะพายผูกชิดไว้ติดหลัง มีผลส้มนมเน่ากระเป๋าตังค์ กับสมเด็จวัดระฆังองค์ตั้งล้าน นั่งร้องไห้บนฟูกขี้มูกโป่ง เมื่อถูกโกงจึงต้องไปฟ้องศาล แต่ว่าหลักฐานมันอันตรธาน จึงกลับบ้านร้องไห้อยู่ดายเดียว บนสะพาน..คืนที่ไร้ที่พึ่ง นั่งรำพึงชันเข่าอย่างเปล่าเปลี่ยว แสงเดือนเพ็ญเด่นรูปดูซูบเซียว น้ำไหลเชี่ยวกระเซ็นจนเห็นตอ ปีนสะพานพุ่งหลาวคืนดาวดับ กระแทกกับตอไม้ที่ปลายบ่อ จนหัวขาดกระเด็นถึงเอ็นคอ จึงมาขอหัวคืนทุกคืนเพ็ญ.
9 มกราคม 2552 14:46 น. - comment id 934074
krajokngao ขอบคุณบทกลอนเพราะๆครับ อยากเขียนกลอนตอบเหมือนกัน แต่นึกมุกไม่ออก ขอให้มีความสุขมากๆครับ ประทีปดาว สวัสดีครับ ดีใจครับที่มาทักทายกัน
9 มกราคม 2552 14:48 น. - comment id 934075
โคลอน เธออาจอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง เคยคิดถึงกันบ้างหรือเปล่านี่ อยากให้รู้มิตรภาพที่แสนดี ยังจดจำแม้ปีจะผ่านเลย ............................................... แด่สหายหลายปีที่รู้จัก คำ..เพื่อนรักจึงเกิดอย่างเปิดเผย ยิ่งพาบพบอบอุ่นเหมือนคุ้นเคย แค่เพียงเอ่ยพูดจาภาษากลอน ขอความดีที่เธอเสมอสร้าง ช่วยดลทางสดใสดับไฟร้อน ขอองค์พระพิชิตมารประทานพร ให้โคลอนพบสุขทุกทุกวัน สวัสดีปีใหม่ครับ
9 มกราคม 2552 15:07 น. - comment id 934083
ก่อนเคยรักอย่างไรไม่แปรเปลี่ยน แม้คืนวันผันเวียนเรียนรู้อยู่ แต่มิตรภาพซาบซึ้งจึงชื่นชู ไม่คิดตู่เปลี่ยนใจไปจากกัน แต่เหตุผลมากมายต้องกลายจาก คิดถึงมากทำใจไม่โศกศัลย์ ก็แอบเข้ามาบ้างเป็นบางวัน เห็นเพื่อนนั้นอยู่ดีก็ปรีดา แม้ยินคำพร่ำบ่นถึงคนหาย เพียงแต่กายมันดื้ออย่าถือสา แต่หัวใจให้เพื่อนไม่เลือนลา จึงแอบมาอ่านกลอนบางตอนนี้ ขอจงรู้ว่าคิดถึงซึ่งผองเพื่อน แม้ร้างเรือนห่างไกลไปจากที่ แต่หัวใจไม่ลาทุกนาที ขอเพื่อนมีความสุขทุกวันเอย ฝากคอมเม้นนี้ให้กับโคลอนด้วยนะจ๊ะ มิรู้จะกล่าวสิ่งใด อิอิ
9 มกราคม 2552 15:31 น. - comment id 934099
^ ^ ^ ที่เดิมแห่งนี้ โคลอน เธอ.... อาจพบเจอสิ่งใหม่ ณ ที่หนึ่ง และไม่มีชื่อใครให้คะนึง วันนี้จึงห่างหายไม่กลับมา ฉัน.... คอยนับวันและวาดหวังเพียงว่า ใครคนหนึ่งที่อยู่ไกลสายตา บางเศษเสี้ยวเวลาคิดถึงกัน เรา.... เหลือแค่เงาเลือนลางคล้ายความฝัน แต่ฉันยังคงอยู่เพื่อรอวัน แม้ตีบตันกับการเฝ้ารอใคร คง.... เดินทางตรงเหมือนวันที่อ่อนไหว ช่องว่างระหว่างที่เราห่างไกล จะต่อเติมใจลงไปเช่นเดิม http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem110787.html ฝากคอมเม้นนี้ให้ คนข้างบนนะคะ...
9 มกราคม 2552 15:34 น. - comment id 934102
เพียงสายลม โคลอน ฉันเห็นเธอเคลื่อนไหวในความเงียบ เหมือนสายลมเย็นเยียบเมื่อสัมผัส แม้มิอาจมองเห็นภาพแจ่มชัด เพียงใบไม้ไกวกวัดก็รับรู้ อาจดูคล้ายเย็นชาทว่าอุ่น เมื่อเริ่มคุ้นกับสิ่งที่เป็นอยู่ ความว่างเปล่าที่คอยหน้าประตู แท้จริงมีเธออยู่ ณ ตรงนั้น ยามใดความเงียบเหงาฤาหม่นหมอง เข้ามาจองจับใจคนไหวหวั่น คล้ายสายลมพัดผ่านคืนและวัน ที่แสนเศร้าเหล่านั้นให้ห่างไกล ฉันมิอาจเอื้อมมือไปไขว่คว้า สายลมที่พัดมาอีกคราได้ คงจะดีแล้วล่ะบอกกับใจ แค่รู้ว่ามีใครก็เพียงพอ
9 มกราคม 2552 15:42 น. - comment id 934104
คุณฤทธิ์ ฝากดวงดาวพราวตาบนฟ้ากว้าง อย่าแรมร้างส่งข่าวก้าวไปหา ฝากสารสร้อยร้อยฝันกับจันทรา ให้เพื่อนยารู้ข่าวจากด้าวไกล แม้ห่างเรือนเพื่อนอยู่จงรู้เถิด ไม่เตลิดห่างกายหายไปไหน ยังเฝ้ามองผองมิตรด้วยจิตใจ อยากมาใกล้สังสรรค์จำนรรจา ถึงย้ายบ้านผ่านไปให้แวะทัก เมื่อเพื่อนรักของเราเข้าไปหา คงชื่นใจไมตรีมิร้างลา อย่ามัวช้าลังเลเตร็ดเตร่ดู ด้วยคิดถึงจึงย้อนฝากกลอนไว้ จะข้ามผ่านเมินไปกระไรอยู่ มิตรภาพเหนี่ยวรังยังชื่นชู แต่คงรู้เหตุผลที่วนเวียน อยู่ที่ใดใจสบายก็คลายทุกข์ ความสนุกมีอวดไม่ปวดเศียร ได้ฝึกหัดกลอนกานท์ผ่านบทเรียน ถ้าแวะเวียนผ่านไปคงได้เห็น ยังไม่เคยลืมเลือนเพื่อนหรอกหนา วันเวลาร่วมสุขร่วมทุกข์เข็ญ แต่เรามีฝันฝากที่อยากเป็น จึงซ่อนเร้นนามเก่าเป็นเงาบัง
9 มกราคม 2552 15:57 น. - comment id 934112
แด่เพื่อนนักกลอนที่รักทั้งสอง... .หรือสาม หรือ สี่ หรือ ห้า...แฮ่.... แทนความรู้สึก โคลอน แปลกไหม... ที่เราได้พบกัน ณ ที่นี่ แหล่งรวมซึ่งความรู้สึกดีดี มิตรมากมีไมตรีอักษรา รู้ไหม... ทุกถ้อยถักตราตรึงซึ้งคุณค่า แม้จากไปไกลเพียงย้อนกลับมา ก็ชดเชยเวลาที่หายไป แปลกไหม... แม้เหลือเพียงร่องรอยความอ่อนไหว ก็พร้อมเสมอรออย่างห่วงใย ฝากความในใจให้เธอคนดี รู้ไหม... วันใดท้อใจโปรดฟังคำนี้ ฉันรักเธอเช่นรักบทกวี และไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลง
9 มกราคม 2552 17:35 น. - comment id 934178
นายฤทธิ์ เก็บรายละเอียดได้ดีมากๆ น่ะ :) ขอจดจำไว้เป็นตัวอย่างในงานเขียน.. >>> ใต้หมอนหนุนลายปลอกรูปดอกไม้..
9 มกราคม 2552 18:12 น. - comment id 934221
แด่เพื่อนนักกลอนที่รักทั้งสอง... แทนความรู้สึก คนนั้นแระ ไม่แปลกเลย ก่อนเราเคยเฮฮาประสาเพื่อน มิตรภาพที่ดีไม่มีเลือน คอยย้ำเตือนผูกพันดังสัญญา รู้หรอก จึงพร่ำบอกมวลมิตรสนิทว่า แม้จะห่างหายบ้างบางเวลา ก็กลับมาชะเง้อชะแง้แลตามอง ไม่แปลกนะ เมื่อเราละขุ่นเคืองเรื่องทั้งผอง ก็ก้าวย่างทางใดตามใจปอง ตอบสนองต้องการผ่านอักษรา ก็รู้หรอก หากช้ำชอกปวดร้าวเศร้าถามหา เขียนระบายคล้ายเช่นเคยเป็นมา บทกลอนพาเศร้าคลาย..เลือนหายไป ^ ^ ^ ตอบคนข้างบนปู๊นนนนนนนนนนน
9 มกราคม 2552 18:27 น. - comment id 934245
สมุดบันทึกเล่มนั้นฉันจำได้ มีเรื่องราวมากมายหลายอย่าง มีเรื่องราวต่างๆน่าสนใจ วันเวลาเลยผ่านนานล่วงลีบ แม้ตัวดับแต่เรื่องราวยังคงอยู่ เป็นอนุสร์บทกลอนให้อ่านดู เหมือนว่าตัวยังคงอยู่คู่เสมอไป ..... กลอนเปล่า ไม่ผสมโซดา อิอิ.... ..จากสมุดบันทึกเล่มนั้นแระ..
9 มกราคม 2552 18:30 น. - comment id 934248
28..... .. อ้าว เขียนชื่อตัวเองก็ผิด 55555 ปล. แก้ไขคำผิดจาก คำว่า อนุสร์ เป็น อนุสรณ์ ด้วยคร๊าบบบบบผ๊ม จาก... แมวซุ่มซ่ามเองแระ อิอิ
9 มกราคม 2552 22:11 น. - comment id 934342
มาเยี่ยมเยียนขอรับ.......ว่าจะตอบด้วยกลอน แต่มุขแป๊กขอรับ.....เมื่อวาน บิ๊กวัน กันทรลักษ์ โทรมาเล่นด้วย จะเขียนเพลงให้น้องเขา อารมย์ไม่ไปไหนเลย.....ตอนได้แค่ชื่อเพลงครับ เหตุผลที่หล่นหาย
12 มกราคม 2552 18:58 น. - comment id 934825
คุณวิทย์ เผลอลืมคุณวิทย์ไปได้อย่างไรกัน ขอบคุณครับที่มาทักทาย มีความสุขมากๆนะครับ โคลอน และ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ไม่มีอะไรจะบอก นอกจากว่าประทับในมิตรภาพของทั้งสองท่านเสมอมา สำหรับคุณคนนั้น ช่วยบอก ป. ให้หน่อยว่าเอากลอนที่ลบไปกลับมาได้ไหม เพราะนั่นคือตัวแทนของเพื่อน ที่ทำให้รู้ว่าเพื่อนยังอยุ่เคียงข้างเราเสมอ แมวซุ่มซ่าม หวัดดี ว่าไง สบายดีไหม ยังซุ่มซ่ามเหมือนเดิมหรือเปล่า ถึงเขียนชื่อตัวเองผิด ขอให้มีความสุขนะน้องแมว มนต์กวี ขอบคุณนะครับ ที่มาปรากฏตัว งานเขียนเพลงเป็นไงบ้าง มีเพลงที่ได้อัดแผ่นหรือยัง แจ้งหน่อยซิ อยากทราบจริงๆ จะได้ไปหามาฟัง เพลงเหตุผลที่ทนเจ็บ ใครแต่งครับ ขอให้ประสบความสำเร็จนะครับ พิมจัง เที่ยววันเด็กให้สนุกนะครับ
12 มกราคม 2552 22:16 น. - comment id 934996
ถึง คุณคนนั้นแหละ เอาต้นฉบับมาให้อ่านกัน รู้แล้วว่า ป. ไม่ได้ลบกลอน เพียงแต่เปลี่ยน font เป็นสีขาวเท่านั้น เฮ้อ ...โล่งใจหน่อย อย่างน้อยหัวใจ...ได้เคยรัก โดย ปราณรวี คงไกลเกินกว่าจะคว้าถึง คนหนึ่งพึงพิศเคยชิดใกล้ ฟากฟ้ากั้นกลางหว่างห้องใจ สิ้นไร้อาวรณ์ดังก่อนมา กลายเป็นคนอื่นไปเสียแล้ว เพียงแผ่วลมพลิ้วลิ่วลอยหา บทเพลงลำนำคล้ายคำลา ศรัทธาแห่งใครไม่เหลือเลย ดวงใจแห้งแล้งเรี่ยวแรงสิ้น โบยบินไม่ไหวแล้วใจเอ๋ย ขวัญเจ้าจากกันแล้วขวัญเอย เอื้อนเอ่ยใดใดก็ไร้ความ มองฟ้ามองฝนดั่งคนผิด ความคิดกลัดหนองด้วยมองข้าม ไม่อาจยื้อยุดฉุดรั้งตาม งอกงามสัมพันธ์ฉันและเธอ หรือเป็นเพียงเราที่เขลานัก จมปลักคลั่งไคล้ใจเพ้อเจ้อ คิดไปฝ่ายเดียวเที่ยวละเมอ พร่ำเพ้อทุกข์ตรมขมอุรา เถอะ..อย่างไรใจจำถึงช้ำชอก พร่ำบอกออกไปแม้ไร้ค่า ช่วงหนึ่งชีวิตติดตรึงตรา ปวดปร่าล้าหนักรักเลื่อนลอย ด้วยลมหายใจยังไม่สิ้น จึ่งดิ้นต่อไปไม่อาจถอย ระกำซ้ำซากจากรอคอย อย่างน้อยก็หัวใจ..ได้เคยรัก
31 สิงหาคม 2553 22:58 น. - comment id 1153958
แม้เป็นเพียงฝันสมมุติ..แต่ฉุดรั้ง แฝงภวังค์ครวญใคร่อย่างใหญ่หลวง มิอาจยั้งชั่วยาม..อยากถามทวง พิสูจน์หวงห่วงหาแอบหน้าเธอ ด้วยไม่อาจฝากฝันเหมือนวันก่อน คนใจบอน..ซ่อนช้ำจนพร่ำเพ้อ อยู่ก็ฝืนตื่นก็ฟ้องร้องละเมอ อยากเจอะเจอจุ้นจ้าน...เล่นงานใจ