๑. ๏ บนท้องฟ้ายังคงมืดสนิท หากรอบทิศเรือนทางสว่างไสว ด้วยตะเกียงคบฟืนแลโคมไฟ จุดขับไขก่อนรุ่งอรุณทอ ๒. ๏ แว่วยินเสียงผ่านพร้องสู่ห้องหับ คือเสียงศัพท์สั่งงานของท่านพ่อ "เอ็งจงรีบเร็วทีอย่ารีรอ ให้ทันต่อทุกกิจมงคลกาล" ๓. ๏ ฝ่ายเรือนครัวจัดปรุงคอยหุงหา เร่งตระเตรียมข้าวปลาแลอาหาร อีกสำรับเพื่อหมายถวายทาน เทียบใส่พาน..รอพร้อมไว้ก่อนเพล ๔. ๏ ภายในห้องเรือนนอนแต่ก่อนสาง แสงสว่างจุดส่องให้มองเห็น เผยร่างหนึ่งปรากฏ..อย่างชัดเจน ลออเด่น..ด้วยถนิมพิมพาภรณ์ ๏ สไบพริ้วผืนบางที่พาดบ่า คือภูษา..ทอสอดประภัสสร สวมซิ่นยาวทอดชาย..ลายประอร เรียวปลายกร..คล้องผจงวงกำไล ๏ เรียวนิ้วนาง..ประดับลงด้วยวงแหวน ที่หวงแหน..หวงยิ่งกว่าสิ่งไหน เมื่อชายหนึ่งผู้เป็นยอดแห่งดวงใจ สวมฝากให้เมื่อครั้งสู่สงคราม ๏ ประหนึ่งขอจับจองเป็นของหมั้น จนถึงวันเสร็จศึก..สิ้นเสี้ยนหนาม สัญญามั่นก่อนจากได้ฝากความ "จักขอทรามสวาทพี่..เป็นศรีเรือน" ๏ มีมารดาห่วงใยอยู่ใกล้ชิด แลบ่าวสนิท..เสมอทีเป็นพี่เพื่อน ช่วยแต่งกายดูแลไม่แชเชือน จนแลเหมือนรูปนิมิตรวิจิตรา ๏ เสียงเอ่ยจากมารดาด้วยปรานี "วันนี้ลูกแม่งามนักหนา" พร้อมมือลูบศีรษะไล้อยู่ไปมา ดวงหน้า..โอนโยนยิ้มละไม ๏ "คุณแม่ท่าน..สุดกล่าวคำได้แม้นครึ่ง เป็นที่พึ่งแต่เล็กจนเติบใหญ่ นับแต่นี้..จำต้องพรากจากอกไป มิทันได้แทนบุญพระคุณเลย" ๏ เสียงตอบถ้อยมารดานั้นพร่าสั่น จึงมารดารู้ทัน..ก็พลันเอ่ย "อย่าไห้เชียว..ใช่จักอ้อนเหมือนก่อนเคย ลูกเอ๋ย..จะพลอยหม่น..มงคลตัว ๏ ด้วยแต่นี้..ต้องตระหนักในหน้าที่ เป็นแม่ศรีเรือนผูกทั้งลูกผัว การใดจำเริญชอบ..ต่อครอบครัว จงอย่ามัวนิ่งอยู่เหมือนดูดาย ๏ จงจดจำคำเถิด..ประเสริฐเจ้า ที่แม่เฝ้าสอนสั่งอยู่ทั้งหลาย ประพฤติหญิง..ควรงามกิจ..แลจิต-กาย จักเชิดชูวงศ์สาย..มิอายใคร" ๕. ๏ มโหรีขับขานประสานก้อง ท่วงทำนองรื่นรมย์..มงคลสมัย เสียงหัวเราะยิ้มหัวอยู่ทั่วไป บนเรือนใหญ่ล้วนสิ้นแต่ยินดี ๏ แลคับคั่งขณะนี้ที่หอกลาง ล้วนขุนนางสูงศักดิ์ในหน้าที่ ประดับยศงามสง่าในท่าที กำหนดคอย..ฤกษ์ศรีพิธีการ ๏ บุรุษหนึ่งแต่งกายเห็น..เต็มกำหนด ด้วยเครื่องยศสมชายชาติทหาร สวมเสื้อคาดเจียระบาดพระราชทาน ลายปักสาน..สอดสิ้นด้วยดิ้นทอง ๏ คือตำแหน่งประทาน..ทหารกล้า เป็นออกญาขุนศึกนามกึกก้อง เนื่องนำทัพมีชัยสมใจปอง อริต้องแก่ตระหนักถึงศักดา ๏ ที่ข้างกายบุรุษเคียงอยู่เพียงใกล้ คือหนึ่งนางดวงใจผู้ใฝ่หา ถึงวันนี้ดั่งคำ..เคยสัญญา คืนกลับมาร่วมหอที่รอคอย ๏ ตาสบตารู้สิ้นแต่เพียงสอง แม้มิต้องเอ่ยนำสักคำถ้อย ความปีติเปี่ยมเห็นเต็มร่องรอย สองปลายก้อยเกี่ยววางไม่ห่างกัน ๖. ๏ ครั้นหนึ่งผู้เชิญหีบหมาก..แลจั่นเพชร จากสมเด็จฯ มาประทานเป็นของขวัญ แด่ข้าหลวงเก่าครั้งอยู่วังจันทร์ฯ จนถึงวันทูลลาเพื่อออกเรือน ๏ แต่เล็กนั้นรับใช้อยู่ใกล้ชิด ตระหนักจิต...น้ำพระทัยหาใดเหมือน เปรียบมารดาฟูมฟักคอยตักเตือน ผ่านปีเดือนจวบสาว..เป็นชาววัง ๗. ๏ ครั้นพระสงฆ์สวดธรรมจำเริญจบ เพลาครบกำหนด..รดน้ำสังข์ ประโคมชั่ยลั่นฆ้องจึงก้องดัง ตลอดทั้งเรือนใหญ่เป็นสัญญาณ ๏ พร้อมบรรเลงด้วยเสียง..ดุริยางค์สรรพ เป็นฤกษ์ชัยลำดับ..ขึ้นรับขาน อีกสำเนียงเสียงสังข์ก้องกังวาน พราหมณ์อาจารย์เบิกเจิม..เริ่มพิธี ๏ คู่บ่าวสาวหมอบเคียงบนเตียงตั่ง รับน้ำสังข์..เพื่อสุขสวัสดิศรี มงคลแฝดสวมคล้อง..สองขีวี ด้วยแต่นี้...จักมิพรากไปจากกัน ๏ ทั้งบิดามารดา..บรรดาญาติ กล่าวโอวาทมงคลสู่..แก่คู่ขวัญ อำนวยพร..จนสองชื่นแลตื้นตัน ปีตินั้น..ฉายแพร้วในแววตา ๘. ๏ บนเรือนนอนเหลือเคียงแต่เพียงสอง หากหนึ่งต้องอายข่ม..จึงก้มหน้า จึงมือหนึ่งเชยคางนั้น..ให้หันมา แนบอุรากระซิบพร่ำเพียงคำเบา ๏ "พี่รอคอยวันนี้..มานานนัก วันที่จักเคียงอยู่..เป็นคู่เจ้า มิต้องพรากไกลห่าง..แม้ร่างเงา ให้สมเฝ้ารอรับอยู่นับวัน ๏ ฟังคำเถิดน้องหญิง..แม่มิ่งศรี ดวงใจพี่..จักซื่อตรงและคงมั่น จักถนอมเจ้าเทียมยอดชีวัน มิให้ใครได้หยัน..พี่สัญญา ๏ ยศตำแหน่งได้มาก็หมายเจ้า จะได้เอาชื่นชมให้สมหน้า ดั่งเช่นวันได้เคยเอ่ยวาจา เมื่อกลับมาจักควรคู่..มิอายใคร" ๏ ตื้นตันนักใจนี้..แก้วพี่เอ๋ย จนสุดเอ่ยตอบนำด้วยคำไหน อันความรักค่าล้ำของน้ำใจ หมื่นคำใดหรือจักเรียงออกเพียงพอ ๏ ขอตอบแทนน้ำใจ..ด้วยใจรัก แลคอยภักดิ์ร่วมเรียงอยู่เคียงหอ ให้สมกับสองเราที่เฝ้ารอ แต่นี้ต่อเบื้องหน้า..จนกว่าวาย ๏ อันตำแหน่งยศถาบรรดาศักดิ์ ก็ตระหนักใจนวลที่ขวนขวาย หากว่าแท้คือองอาจ..แห่งชาติชาย ที่มั่นหมายจักสนองป้องแผ่นดิน" ๙. ๏ สองวิญญาณร่วมเรียง..เคียงถนอม รวมหล่อหลอมครรลองสองถวิล บรรเลงหนึ่งราตรีแห่งชีวิน ที่จักยินเพียงห้วง..สองดวงใจ..
7 มกราคม 2552 06:17 น. - comment id 932687
แฮ่กๆๆ อ่านซะเหนื่อย เพลินจริงๆ ไพเราะมากค่ะ
7 มกราคม 2552 08:27 น. - comment id 932720
สวัสดีค่ะ ปีใหม่ค่ะ พี่นาง ทุกคำงดงามค่ะ ดอกบัวขอให้พี่นางมีแต่ความสุขนะค่ะ
7 มกราคม 2552 10:13 น. - comment id 932779
อิ่มอก อิ่มใจ ไปตามๆ กัน :) คิดถึงมากเลยน่ะ...คำอย่างนี้ เพื่อนอย่างนี้..
7 มกราคม 2552 10:14 น. - comment id 932780
นานๆมาทีอ่านกันคุ้มเลยนะคะ
7 มกราคม 2552 15:21 น. - comment id 933010
เหมือนดูละคะย้อนยุคเลยค่ะ งดงามมากๆเลยค่ะ
7 มกราคม 2552 17:12 น. - comment id 933080
งามงดถ้อยร้อยตามความสมหวัง สร้างฐานะเรือนรังเป็นคู่สอง ถูกต้องตามประเพณีศรีครรลอง คู้จับจองงดงามความดำเนิน เสียงขิมเคล้าคลอเรือนเหมือนกล่อมหอ นวลละออเอียงอายคล้ายขัดเขิน บุรุษย้ำคำหวานพนอเพลิน รักจำเริญจวบสมัยไม่คลาดคลา สวัสดีปีใหม่ค่ะน้องนาง ขอให้มีความสุข สมปรารถนา และเดินทางด้วยความปลอดภัยทุกเส้นทางนะคะ
7 มกราคม 2552 22:51 น. - comment id 933245
ดีจ้า...คุณเพรง.พเยีย... ดีใจจังเลยจ้า.......วันนี้เจนคิดไว้ว่าจะได้เจอ อะไรดีดีเลยเข้าเนตแล้วก้อเข้ามาบ้านกลอน ได้อ่านกลอนคุณนางอีกแล้ว...ไพเราะไม่เคย เปลี่ยนแปลง...ความเรียบง่ายที่คงไว้และ อ่านทีไรก้อเห็นภาพได้ไม่ยากเย็น.... ปล.คุณนางได้ลิงค์อัลบัมรูปที่เจนไปเที่ยวเมืองโบราณยังจ๊ะ...เป็นการไปถ่ายรูป แบบจริงๆจังๆครั้งแรก เลยอยากเอามาอวด อ่ะจ้า หุหุ...ครั้งแรกกะ DSLR +Sigma10-20 ไว้เจนไปเก็บบรรยากาศฮ่องกงแล้วจา ส่งให้ดูอีกน๊ะ...ถ้างัยก้อมาแลกเปลี่ยนมุมมอง นะจ๊ะ.....
8 มกราคม 2552 16:27 น. - comment id 933573
ทั้งไพเราะงดงามและซาบซึ้ง เหนือคำบรรยายจริงๆค่ะ