-1- อัตคัดความสุขเสียแล้วหรือ? จึงปล่อยหาย ไปกับมือ(ที่)มองไม่เห็น คลับคล้าย โสมแสงจันทร์ในวันเพ็ญ เหนียมจะเร้นส่องกระจ่างสว่างนวล ฟ้าดูมืด จืดชืดกับความเศร้า สีหมองซีด ทึบเทาไปทั่วถ้วน อยู่ในโลก เสมือนโคล่ามโซ่ตรวน โขกขวิดข่วน ใจตัวเองอย่างเจ็บใจ อัปมงคลของชีวิต เป็นสสารมลพิษความสดใส สรรพางค์ทั้งมวลมโนมัย อิ่มตรมความอาลัยใจตรอมตรม -2- ความเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวรู้สึกแปลก ความอ้างว้างวนแยก เหยียบขย่ม เหยียบหัวใจมิลดละ จะระบม จะระทมระทวยไปทุกทิศ เบ้าลึกขอบตาอยากร้องไห้ กลั่นเป็นหยดน้ำใสให้เหือดสนิท ให้รู้รสรันทดของชีวิต ว่าเจ็บปวดทรพิษทรมาน จวบตะวันโผล่แสงส่งแรงเปล่ง แต่หัวใจเจ็บเส็งเคร็งยังสั่นซ่าน วูบสะทกใจวิ่นถึงวิญญาณ มันว้าเหว่อนธกาลกาลี รอบทิศผิดแผกดูแปลกตา น้ำตาเจิ่งไหล จนไหลปรี่ โศกสะอื้นอิ่มหนำเศร้าย่ำยี ไม่เหลือซากชิ้นดีความปรีดา --------------------- ได้แต่นอนชันเช่าเหงาครุ่นคิด มีชีวิตอยู่ไปก็ไร้ค่า--ฯ ใช่หรือไม่?
11 กรกฎาคม 2551 02:00 น. - comment id 871668
แด่คนอกหักยามเที่ยวคืน (นิดๆ) โอ้สวรรค์ใครเล่าสร้างสรรค์ ความคิดดุดัน เปลวฟ้าฟากรักร้าว กรอบกับดนตรีแกร้งกร้าว ราวกับอกหักมิคลายเศร้าหมอง มีความรักฉันใด ก็ย่อมอกหักฉันนั้น
11 กรกฎาคม 2551 02:43 น. - comment id 871671
ความเห็นแรก เป็นของ น. นิรัติศัยมไหสวรรย์ เลี้ยวขวาไปก็จะเป็นกรุงธนพลาซ่า แหล่งอัครสถานแห่งความบันเทิง ฮู้! อิอิ ขอบคุณคับสำหรับความเห็นแรก ในยามดึกดื่นแบบนี้ ดูสิ เมื่อข้าพเจ้าอกหัก ดูน้ำตาแห่งความเศร้าสร้อย ดูความเหงาที่ซึมง่อยอยู่กับที่ มีก็แต่คำกวี ที่ทำหน้าที่ปลอบหัวใจ ร้องไห้ออกมาทำไม ไอ้บ้า!
11 กรกฎาคม 2551 05:21 น. - comment id 871683
หวัดดีค่ะคุณโจ้ไปหักอกใครเขามานะคะได้ยินไม่ค่อยชัดเลย เอ้าดื่มกาแฟร้อนๆจะได้สบายใจค่ะ... ล้อเล่นนะคะ
11 กรกฎาคม 2551 07:23 น. - comment id 871710
ตื่นเช้าจัง อกหักก็ไวจัง อิอิ ปายนอนต่อดีก่า
11 กรกฎาคม 2551 08:01 น. - comment id 871728
เดือนลาฟ้าร่วง เป็นห่วงใจหาย อกหักไม่สบาย ผ่อนคลายเขียนกลอน อกหักบ่อเป็นหยังเดี๋ยวก้อหายน้อ
11 กรกฎาคม 2551 08:25 น. - comment id 871748
อัตคัดความสุขเสียแล้วหรือ คือแค่บ่นเพ้อไปเหมือนไร้ค่า วูบไหวในหักเหของเวลา หรือมองฟ้าสีจืดใจมืดมัว หรือว่าเหงาเข้าแทรกจนเสียศูนย์ อิ่มกับความอาดูรลืมยิ้มหัว จมจับเจ่าหมองขวัญใจหวั่นกลัว ตรวนติดตัวมัดฝันพันธนาการ แค่สลัดรันทดของชีวิต สลัดพิษอึดอัดประหัตประหาร วนร้าวไหวแหว่งวิ่นถึงวิญญาณ ความเจ็บซ่านเหลือซากฝากชอกช้ำ หรือวันหวานผ่านไวไม่ทันคิด!!
11 กรกฎาคม 2551 08:38 น. - comment id 871758
แล้วน้ำตาลูกผู้ชายก็รินไหล ฟูมฟายใจเลอะเปรอะขี้มูก ผู้หญิงย่ำยีทอดทิ้งและดูถูก ว่าเป็นลูกขี้แยฟ้องแม่อยู่ร่ำไป
11 กรกฎาคม 2551 09:19 น. - comment id 871781
เพียงคืนแรมแจ่มจันทร์เธอพลันหาย ความเดียวดายจู่โจมโถมมาหา มองรอบข้างต่างเห็นเป็นน้ำตา โอ้ใจข้าฯวันนี้ไม่มีเธอ อืม..ขอแสดงความเสียใจใจด้วย..เข้มแข็งไว้
11 กรกฎาคม 2551 12:02 น. - comment id 871866
อัตคัดรักแท้แน่แล้วหรือ คนเขาลือชายชาญผู้หาญกล้า เห็ตไฉนใจเหงาเศร้าอุรา อ๋อแก้วตา..ไม่สน..คนชื่อโจ้..นี่เอง.. ล้อเล่นนะคะ...นอนดึกจังเลย.. ตื่นยังเนี่ย..
11 กรกฎาคม 2551 12:59 น. - comment id 871896
อื้อ.. เขียนเหมือนชาวบ้านเค้าก็เป็น แถมเขียนได้ดีเสียด้วยสิ.. ชอบค่ะ
11 กรกฎาคม 2551 13:00 น. - comment id 871897
ออกไปเดินเล่นข้างนอกเสียบ้าง ยังมีอะไรดีๆให้ดูตั้งเยอะครับ... เห็นฤทธิ์เดชของความรักละยัง... ใครๆก็เจอด้วยกันทั้งนั้น..เอาน่า..นะ.. เดี่ยวมันก็จะผ่านไป.....นะครับ ส่งกาแฟอร่อยๆมาปลอบใจ...
11 กรกฎาคม 2551 13:13 น. - comment id 871901
เพิ่งประกาศรักหมาดๆ ไม่ทันข้ามวันก็อกหัก อารมณ์แปรปรวนง่าย ใหม่ๆก็ว่าจชื่นชม พออ่านๆไปอารมณ์ไม่นิ่ง ชอบเรียกร้องความสนใจด้วยการใช้คำรุนแรง หยาบเพื่อให้คนมาสนใจ เพราะมีความสุข คนยิ่งด่าว่าก็ยิ่งมีความสุข เบี่ยงเบนทางเพศ มีอาการ Schizophrenia อาการผิดปกติทางจิต การใช้ถ้อยคำลวนลามแทะโลมร่างกายสาวๆเขาก็ถือว่าได้สำเร็จทางเพศไปแล้ว ไปดูการเม้นท์กระทู้ของเขาได้ที่ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem116887.html ความเห็นที่ยี่สิบ
11 กรกฎาคม 2551 13:27 น. - comment id 871906
สวัสดีค้าบ ยกมือไหว้ คุณยายนรศิริ โห!มาเยี่ยมผมซะตีห้า แล้วยังจะมายื่นกาแฟให้อีก ผมนะเตรียมจะหลับแล้วค้าบยาย หลับไปพร้อมกับกลอนข้าพเจ้าอกหัก นี่!ก็เพิ่งตื่นมาพร้อมกับกลอนข้าพเจ้าอกหัก ยายยังจะมาให้เครดิตผมไปหักอกใครเขาอีก มิกล้า มิได้ ผมอกหักครับยาย ยายผมอกหัก ได้ยินไหม(เสียงดังนิดหนึ่ง) ผมอกหัก(แหะ ๆ) ----------------- หวัดดี๊พิมกานดา ไม่มีใครได้นอนหรอก ไม่ได้ตื่นเช้าด้วย เธอน่ะใจร้าย เคยเห็นผู้ชายร้องไห้ไหม ถ้าไม่เคย มานี่(จูงมือไปหลังโรงเรียน) จ้องหน้านัยน์ตาแดงก่ำ พิมกานดา(เสียงสะอื้นกระตุกๆ) หะหะฮือๆๆๆๆ(เอามือจับจมูกตัวเองปาดขี้มูก) แล้วก็นั่งร้องไห้ต่อไป ในใจก็เพ้อแต่ "เธอน่ะใจร้าย" เธอใจร้าย
11 กรกฎาคม 2551 13:39 น. - comment id 871911
เอาล่ะ!งานเข้าจนได้ กะว่าจะตอบเรียงตามความเห็น ที่เข้ามาแสดงไว้ ต้องลัดคิวมานั่งก้มหน้ายอมรับความผิด กะนักจิตวิทยาในความเห็นที่12ซะก่อน ทำให้ผมนึกไปถึงนายกรัฐมนตรี ที่ถูกอภิปรายวิเคราะห์กันกลางสภา --------- ผมไม่อยากตอบอะไรเลยอยากบอกแค่ว่า นี่คือคาแรกเตอร์ของกลอน"ผมชื่อโจ้" ถ้าเป็นตัวละครก็คงไม่ใช่พระเอกให้แฟนคลั กรี๊ดอะคับอาจารย์ เฮ้อ!ประหลาด อิอิ
11 กรกฎาคม 2551 13:41 น. - comment id 871914
ขอสนับสนุนความเห็นหมอนักจิตวิทาท่านั้นคะ นี่คืออีกหนึ่งหลักฐานที่ยโจ้ชอบพูดเรื่องใต้สะดือตลอดเวลา http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem116876.html ความเห็นที่ 1 ของนายโจ้ ดังนี้ มายืนยิ้มกุมมือไว้หว่างขา ยืนบิดเกร็งมิกล้าจะกระดิก เพราะเจ้าแม่คะน้าจะมาพลิก จะมาหยิกโลกเหงาหยอกเย้ากัน ....................................... ..................................
11 กรกฎาคม 2551 13:43 น. - comment id 871915
ทำไมคุณกานดาจึงยินดีจังไปเสวนากับคนพรรค์นั้น หรือว่าใจง่าย
11 กรกฎาคม 2551 13:59 น. - comment id 871919
อ๋อ!หวัดดีคับพยาบาลตัวน้อย ผู้ติดสอนห้อยตามมากะนัดจิดวิดยา สบายนะครับ ส่วนผมสบายดี กิ้ว ๆ
11 กรกฎาคม 2551 15:55 น. - comment id 871973
ไม่ต้องห่วง...คนอื่นๆๆก็อกหักกันเยอะแยะ... รับรองไม่เหงา..ฮ่าๆ ๆ ๆ กลอนยียวนสำบัดสำนวนดีนะ.. ฮ่าๆ ๆ ๆ
11 กรกฎาคม 2551 16:17 น. - comment id 871990
อ่านแล้วเพราะเหตุลุ่มหลงในอำนาจจึงเป็น ดังฉะนี้แล แก้วประเสริฐ.
11 กรกฎาคม 2551 19:31 น. - comment id 872093
งั้นผมต้องขอแสดงความขอบพระคุณ ต่อไป หลังหยุดชะงักให้หมอมาวินิจฉัยโรค ตอนบ่าย ๆ ผมก็เลยเว้นวรรค ไปหลับต่อนะคับ พึ่งเข้ามา ------------- เอ่อ!อาจารย์กันนาเทวี ยอมือไหว้ขอบพระคุณครับ ใช่อย่างอาจารย์ว่า การเขียนกลอนคือการพักผ่อนชนิดหนึ่ง ------------ เอาล่ะ!มาถึงร้อยแปดพันเก้าบ้างคับ สู้ลงทุนแต่งกลอนมาร่วมอนุโมทนาการอกหัก ก็ดีครับ อกหักบ้างก็ดี หมายถึงใครก็ได้น่ะ ลองอกหักดูความเจ็บปวดมันก็คือโรคชนิดหนึ่ง ถ้าไม่งอแงฟูมฟายมาก ใช่ไหมคับ
11 กรกฎาคม 2551 19:37 น. - comment id 872095
พี่อินสวน หวัดดีพี่ ขอบพระคุณครับ ที่พี่ร่วมสบทบกลอนอกหัก โดยเขียนให้เป็นลูกแหง่ฟ้องแม่ ร้องไห้ขี้มูกกระจองอแง เปรอะซะขนาดนั้น เหมือนพี่จะบอกว่าการอกหัก การร้องไห้ก็คือการอ่อนแอ เอาสิพี่!ถ้าความอกหักเนี๊ยะ มันมีวางขายยังกะมวนบุหรี่ อยากให้พี่ลองจุดสูบสักมวน สูดเข้าเต็มๆเลยพี่ เอาเลยพี่ แหะๆ ------------- และแล้วพี่ฝากฝัน ก็มาปลอบใจ เข้มแข็งไว้ เอ่อ!พี่มีคำอื่นอีกไหม ประมาณว่า เอาน่าอ่อนแอได้อ่อนแอไป อกหักก็ไปกินยาพารานอนพักเดี๋ยวก็หาย อะไรเงี้ยะ (ขำๆนะคับ) ขอบคุณค้าบๆๆ
11 กรกฎาคม 2551 19:45 น. - comment id 872096
ยกมือไหว้คุณครูพิมอีกคน ผมนอนดึกเป็นบางคืน ไม่ใช่ทุกคืน เช่นวันนี้วันศุกร์ ก็คงนอนดึก การนอนดึกทำให้เราได้อยู่กับโลกมืดนานๆ (อิอิ) โอว!เรื่องสาวๆแน่นอนครับ "ผมรู้ตัวดีเสมอ รู้ตัวดีว่าเป็นใคร รู้ตัวดีว่าไม่มีสิทธิ์อะไร"(คุ้นๆไหมคับ) เป็นประโยคทีอยู่ในเรื่องสั้น สาว(บางคน)เขาก็คงมองผมเลวบัดซบละคับ จึงได้คอยเป็นกบว.เซ็นเซอร์อยู่ไม่ขาด ถ้าผมจะตอบแทนพวกเขาได้นะครับครู ผมชื่อโจ้"รักทุกคนเล้ย"(ยู้ฮู้!อิอิ) ขอบคุณคับผม
11 กรกฎาคม 2551 19:51 น. - comment id 872097
ท่านผู้หญิงช่างฝันค้าบ ผมมีความรู้สึกว่า ท่านเป็นผู้หญิงอารมณ์ดีตลอดปีตลอดอายุขัยเล้ย แหม!ไม่เขียนเป็นได้ไง คนทั้งคนนะค้าบ ก็ขอบพระคุณอย่างรุนแรงที่ชอบ อ่ะมอบดอกไม้(กล้องพร้อม) สองดอกนะค้าบ -------------- พี่แมวคราว ฤทธิ์ความรักมันคลื่นเหียนอาเจียน อยากกินแต่ของเปรี้ยวอะคับ (ไม่ใช่ดิ) เอ่อน่ะพี่ไม่มีอะไรหรอกคับ อารมณ์เขียนกลอนก็งี้ ต้องให้ถึกึ๋นสิน่ะ ขอบพระคุณคับ
11 กรกฎาคม 2551 19:58 น. - comment id 872100
ยิ้มต้อนรับ"ชินจังฟูฯ" ไม่คุ้นชื่อนี้เอาซะเลย แต่ที่ต้องขอบพระคุณ ก็คือแวะเข้ามาอ่าน แล้วแสดงความเห็น แค่นี้ก็ล้ำค่า พอจะทำให้น้ำตา แห่งความเศร้าสร้อยหยุดไหลได้แล้ว -------------- เอ่อ!คุณลุงแก้วประเสริฐ ยอมือไหว้คับผม เหมือนกับเขาทะเลาะกันมาตลอดทาง พอลุงมา ทุกอย่างจบเลย ลุงพิพากษาทันที "เพราะเหตุลุ่มหลงในอำนาจจึงเป็น ดังฉะนี้แล"(สาธุ) อิอิ ขอบพระคุณครับ ผมไม่พูดอะไรต่อ
12 กรกฎาคม 2551 00:44 น. - comment id 872181
นี่ ว่างมากนะนายโจ้ ชั้นอ่ลนคอมเม้นท์แล้วปวดหัวโต้กันไปก็โต้กันมา อยู่นั่น ไงล่ะเนี่ยอกหักไปกี่รอบกันแล้วจ๊ะถึงล้านเจ็ดรอบรึยัง มาแข่งกันเอาป่ะ
12 กรกฎาคม 2551 06:01 น. - comment id 872206
มีสาวไหนนะ สามารถทำให้พี่โจ้อกหักได้ นับถือ นับถือ
12 กรกฎาคม 2551 13:17 น. - comment id 872261
น้ำบัวบกแก้ฟกช้ำนำมาฝาก ดื่มไม่ยากรสดีมีสีสัน ดื่มยามเช้ายามเย็นไม่เว้นวัน อกของท่านก็จะแข็งแกร่งกว่าเดิม สวัสดีค่ะ
12 กรกฎาคม 2551 13:51 น. - comment id 872268
อกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน เกย์ห่างเหิน ทอมส่ายหน้า ดี้จากลา ค้นบ้ายังไม่แล ฮิ้วๆๆ
12 กรกฎาคม 2551 18:47 น. - comment id 872352
สวัสดีเจ้าแม่คะน้าที่เคารพ ด้วยความสัตย์จริงเจ้าแม่ครับ ผมมิกล้าแข่งวาสนา ความอับโชคกับเจ้าแม่ได้เลย โดยเฉพาะเรื่องอกหัก ถ้าอยากชนะผมยกให้บัดนั้น เอาไหม? (แหะๆ) ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันครับคะน้า -----------------------
12 กรกฎาคม 2551 19:00 น. - comment id 872364
แม้นอกหักอย่างไรอย่าไปคิด ให้ชีวิตระทมข่มเศร้าหมอง เพราะพรุ่งนี้ยังมีหวังอันเรืองรอง ที่จะมองหารักมาทักทาย อกหักเป็นเรื่องธรรมชาติค่ะ อย่าคิดมาก ใครเค้าก็เป็นกัน
12 กรกฎาคม 2551 19:05 น. - comment id 872367
หวัดดี๊ผีเสื้อปีกบางฯ ชีวิตเจ้ายังคงบินวนอยู่รอบตัวพี่มิได้ขาด ไม่ว่าจะเป็นเมื่อวาน4ปีหลัง ร่นมาถึงปัจจุบัน ส่วนที่ถามเปรยๆว่าผู้หญิงคนไหน ทำให้พี่อกหัก ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร นั่นสิ!พี่ก็อยากรู้เหมือนกัน เธอมาจากไหน เธอเป็นนางฟ้า เธอเป็นนางยักขิณี ขโมดผี หรือเป็นเทพีแห่งสวรรค์ เธอเป็นใคร ไม่รู้เลย (แล้วอกหักทำไม)
12 กรกฎาคม 2551 19:22 น. - comment id 872371
สวัสดีคุณครูกระดาษทราย เป็นเกียรติผมนะคับ ที่แวะเอาน้ำใบบัวบกมาให้ มาแสดงสันถวไมตรี ผมน้อมรับกระดกดื่ม เพื่ออายุยืนเป็นหมื่นๆปี(เกี่ยวไม๊เนี๊ยะ-อิอิ) ขอบคุณคับผม ---------------- จีด้า จีจ้า ญานิน กิ้วๆ สบายดี ยิ้มให้ด้วยไมตรี แหะๆ
12 กรกฎาคม 2551 19:25 น. - comment id 872373
ดีใจนะคับที่"ผู้หญิงไร้น้ำยา"() ยังมาเยี่ยมเยียน พร้อมๆกับมอบกลอนสบทบทุน มาให้กำลังใจหนึ่งบท น้อมรับครับ
12 กรกฎาคม 2551 19:42 น. - comment id 872380
เสียใจด้วยนะโจ้ จะร้องไห้หรือหัวเราะเราก็เลือกเองนะ แต่ก็รู้ไว้ หนทางชีวิตอีกยาวไกล เราทุกคนสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ (มิบังอาจบอกมากไปกว่านี้เพราะผมเองก็ไม่แน่ว่าจะรอด)
12 กรกฎาคม 2551 22:10 น. - comment id 872474
พี่ยิปซีfour หวัดดีพี่ ----------- ถ้าผมจัดงานศพให้กับกลอนบทนี้ได้ ทั้งหมดทั้งมวลที่อุดหนุนความเห็นเข้ามา ก็คงเป็นพวงหรีดจำนวนหนึ่ง ที่ตั้งเรียงแถวแสดงรายชื่อไว้อาลัย อยู่ตรงหน้ากลอนที่มีชื่อเต็ม ๆว่า "เมื่อข้าพเจ้าอกหัก:ความเหงาช่างเศร้าสร้อย" หลับตานึกภาพสิพี่ มันคงเป็นบรรยากาศอวลไปด้วยกลิ่นธูป จุดแสดงความเคารพต่อความเศร้า ปักธูปลงหนึ่งดอก เหมือนกับปักหมุดแห่งความเจ็บปวด ฝังเข้าไปในกระถางที่เต็มพูนไปด้วยทราย พี่เคยไปงานศพไหมล่ะ แน่นอนพี่ไป พี่ย่อมเห็นเสมอ ไม่มีงานศพไหนไม่ร้องไห้ ไม่มีงานศพไหนที่รวมญาติเพื่อเลี้ยงฉลอง พ้องกันกลอนบทนี้คือผลพวงแห่งความเศร้า ความเห็นทั้งสิ้นคือพวงหรีดที่นำมาวางรวม เป็นอนุสสติไว้อาลัยต่อการอกหัก "เป็นอัปมงคลของชีวิต เป็นสสารมลพิษความสดใส สรรพางค์ทั้งมวลมโนมัย อิ่มตรมความอาลัยใจตรอมตรม" การอกหักก็คือโหมดๆหนึ่งในหลายเรื่อง ของชีวิต เข้าใจว่าจะสำมะหาเอามาเป็นอารมณ์ทำไม ตั้งคำถามปล่อยไปอย่างนี้ ทั้งๆที่รู้ดีเวลาโดนไม่มีใครนั่งอมยิ้มแก้มตุ่ย แสดงอาการลิงโลดต่อการอกหักหรอก พี่ว่าไหม? แต่ทั้งนั้น ทั้งสิ้น ทั้งเพ ทั้งหลาย กลอนอกหักข้างต้น มิได้เกิดจาก ผมเป็นคนอกหัก แต่เกิดจากอารมณ์กลอน ที่ต้องการเขียนเรื่องอกหักต่างหาก ซึ่งเหมือนจะไม่ต่างกัน กับความจริงมากนักหรอก เพราะเวลาหลับตา เราก็นึกถึงอารมณ์นี้ได้ ไม่ว่ามันจะผ่านมานานแค่ไหนแล้วก็ตาม โอย!ยาวเลยพี่ ประมาณว่าปิดฉากในกลอนบทนี้ ก่อนที่มันจะถูกผลักมาอยู่หน้าหลัง ปล่อยให้มันไปสมทบกับอีกหลายๆกลอนของผม ในหน้า"บทกลอนที่เขียน" ---ขอบพระคุณพี่ยิปซี4ที่เข้ามาอุดหนุมมิได้ขาด รวมไปถึงขอบพระคุณทุกท่านที่แวะเข้ามา ร่วมลงชื่อไว้อาลัย หรือแม้กระทั่งคนที่เข้ามา แล้วผ่านไป ขอบคุณทั้งหมดเลย ยกมือไหว้ สวัสดีค้าบ
13 กรกฎาคม 2551 11:12 น. - comment id 872680
แวะมาเยี่ยมชมครับ เผื่อได้ซึมซับอารมณ์คนอกหัก เผื่อว่าจะช่วยเข้าใจเรื่องความรัก ก่อนประจักษ์แก่กมลของตนเอง
13 กรกฎาคม 2551 18:19 น. - comment id 872932
โอ้โห! คุณพี่รมณีย์คับ กลอนบทนี้ถูกผลักมาหน้าหลังแล้ว พี่ยังอุตสาห์มาแสดงความเห็นไว้ให้ ดีใจมากนะคับพี่ อย่างน้อยพี่ก็ยังมา มาร่วมรับรู้อารมณ์การอกหัก อย่างที่พี่บอก "เผื่อว่าจะช่วยเข้าใจเรื่องความรัก ก่อนประจักษ์แก่กมลของตนเอง" ขอบคุณค้าบพี่