Use this picture. ค่ำคืนนี้ฟ้าคล้ำใจเหงาเศร้า จันทร์งีบซุกซบเข้าเมฆฝนหม่น มองฟ้าหมองเหม่อร่ำเร่ารนค้น ร้องรียกคนในใจคล้ายหนาวร้าว คิดนึกลอยล่องจิตจ่อเหน็บเจ็บ ใจน้อมจ่อมเกินเก็บตรอมราวผ่าว ตรมรุกพอกพร้อมช้ำระนาวยาว รอนในยามก้าวไกลเกินเหม่อเพ้อ กับหมองพล่ามผ่านหน้าใช่คลายหาย ช้ำครวญไห้หวนกรายทุกเพ้อเผลอ ท้อพ้อพร่ำเพราะเหงามิเจอเธอ มักเจ็บทุกข์ทั้งเก้อคะนึงอึง ครวญในอกอาบโศกวุ่นวันหวั่น วนเวิ้งว้างเอื้อมฝันคิดดึงถึง ครวญด้วยทุกข์ถมรอนใช่ซึ้งตรึง ช้ำเศร้าตมตามพึ่งรุมนิ่งพิง...
4 กุมภาพันธ์ 2551 19:04 น. - comment id 819448
หนาวกายผิงไฟห่มผ้าหาย หนาวทรวงในรุ่มร้อนจิตสับสน หนาวจิตเมื่อคิดถึงใจร้อนรน หนาวเหมือนคนขาดใออุ่นหว้าวุ่นใจ......... ...................................................... http://srakaew.tht.i
4 กุมภาพันธ์ 2551 20:57 น. - comment id 819511
เก่งทั้งคู่ตูก็เก่งเก่งทั้งผอง ตามครรลองลองไล่ลามตามผสม ดูโดดเดี่ยวเดียวดายดอกตอก..อกตรม ถึงระทมถูกถมทับลับเร้นรอย ก.พ.ป...(กลอนพาเป็น)...อิ...อิ
4 กุมภาพันธ์ 2551 20:59 น. - comment id 819514
ดีเนาะ..นานๆ จะเจอคนเล่นกลอนปวดหัวกันสักครั้ง เยี่ยมจริงๆ ทั้งคนต้น..คนต่อ
4 กุมภาพันธ์ 2551 21:47 น. - comment id 819554
คุณคนข้างบน ไอคิวไม่ถึงมั้ง ถึงอ่านไม่ออก นิสัยเสียนะคุณ ไม่ชอบกลอนเขาก็ไม่ต้องมาป่วนก็ได้ กริยาส่อสกุล
4 กุมภาพันธ์ 2551 22:43 น. - comment id 819594
ดีจ้ามี่... แต่งให้อ่านเรื่อยๆนะจ้ะ.....
5 กุมภาพันธ์ 2551 04:04 น. - comment id 819665
เรียนทุกท่าน อันกลอนกลบทนั้น ครูกลมักบอกว่า กลบท คือ การประดิษฐ์ คิดแต่งคำประพันธ์ ให้มีลักษณะ แปลกไปจากเดิม โดยลักษณะ บังคับเดิม ของคำประพันธ์นั้น ยังคงใช้อยู่ครบถ้วน แต่แต่งเพิ่มเติมขึ้นให้ต้องตามลักษระของกล คำประพันธ์ ที่แต่งเป็น กลได้มีทั้ง โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน และร่าย ซึ่งสามารถแต่งได้เป็น ๒ แบบ คือ แบบกลอักษร และแบบ ซ่อนรูป (เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า กลแบบ) กลบทเป็น เครื่องแสดงสติปัญญา ของกวีในการที่ จะคิดค้น พลิกแพลง กวีนิพนธ์ แบบฉบับ ให้มีลักษณะ เด่นเป็นพิเศษขึ้น โดยการเพิ่ม ลักษณะบังคับต่างๆ และเป็นเครื่อง ลับสมอง ลองปัญญา ในหมู่กวี ด้วยกัน ในการที่จะ พยายาม ถอดรูปกลแบบ ที่ซ่อนไว้ให้สำเร็จ ผลพลอยได้ ก็คือความไพเราะ ของกวีนิพนธ์ แต่ก็มีกลบท อีกจำนวนไม่น้อย ที่ไพเราะสู้ คำประพันธ์ ธรรมดาไม่ได้ เนื่องจาก กวีเพิ่มลักษณะบังคับ ที่ไม่เอื้ออำนวย และครูที่เล่นกลอน เล่นคำมาตลอดนับสิบๆปีท่านหนึ่ง ก็ได้กล่าวว่า ผมเคยพูดหลายหนแล้วว่ากลบททำให้เดินความยาก แปลว่าจะทำให้รสความด้อยลง ผมจึงไม่ชอบกลบท แต่ยอมรับว่ามันเป็นแบบฝึกหัดที่ดี เพราะทำให้ต้องคิดคำมากกว่าปกติ โอเลี้ยงเพิ่งหัดเรียนแค่ไม่ถึง 3เดือน ยิ่งใช้คำด้อยมากกว่าครูทั่วๆไป การสื่อความยิ่งยาก มักเล่นเน้นคำ เพราะการจำคำได้มากเท่าไร ก็เป็น คุณประโยชน์กับ การเขียนกลอน ถ้า ผู้ใดรู้สึก "ระคาย" ในความรู้สึกต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
5 กุมภาพันธ์ 2551 07:57 น. - comment id 819705
จ้า คุณโอเลี้ยง ขอเป็นกำลังใจจ้า พยายามต่อไปเถิด ดอกไม้แม้จะมีกลิ่นหอมหรือไม่ก็ตาม แต่ก็แต่งแต้มโลกให้งดงามทั้งนั้น...
5 กุมภาพันธ์ 2551 08:31 น. - comment id 819730
อยากแต่งได้บ้างนะครับ ดูยากมากเลย จะแต่งได้ไหมน้า โหยยยยยยยย ไม่เอาดีกว่า
5 กุมภาพันธ์ 2551 12:31 น. - comment id 819910
ปล. โอเลี้ยงเขียนกลบทสดๆเป็นครั้งแรก แทบทุกบท(ช่วงหลังๆ)ดังนั้น ถ้าทำผู้ใด "ระคาย" จะเขียนบอกทุกครั้งให้เข้าใจ กับคนที่เพิ่ง "บังเอิญ"มาอ่านนะคะ ................................... ทุกครั้งที่มีการเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นตอนแรกที่เราหัดเดิน หัดพูด หัดวิ่ง หัดไปโรงเรียน หัดไปเข้าสังคมคนหมู่มาก อาการหนึ่งที่เรามักมีคือ...ตื่นเต้น กระตือรือร้น อยากทำกริยาซ้ำๆไม่เหน็ดไม่เหนื่อย แม้แต่การเขียนสารพัดอย่าง ไม่ว่าจะเป็น กาพย์ กลอน โคลง ไดอารี่ ฯลฯ เราต่างคงลืมวันแรกกันไปแล้วก็เป็นได้ อาการจดจ่อ อยากเขียน อยากเรียนรู้ผลงานตลอดเวลา แต่ก็อาจมีบางคนมีอาการเบื่อและกลัวการเขียน หลังจากผ่านการท้อมาหลายหน หรืออาจจะมีนับสิบ ที่เขียนแล้ว มักถูกคนดูถูก เหยียบย่ำ แต่ก็มีหลายสิบ หลายร้อยบ้ามานะเขียน ทั้งๆที่ถูกคนดูแคลน เป็นงาน ขยะ แต่เขาก็ยังบ้าเขียน เขียนอย่างหามรุ่งหามค่ำ เพื่อท้าทายความสามารถตนเอง เพื่อขุดค้นพลังลึกและลับที่สุดของสมองตัวเอง เหมือนเด็กเพิ่งหัดเดิน ที่มักล้มไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้ง หรือการเล่นเกมต่างๆ กว่าเราจะเข้าใจ กว่าเราจะเป็นนักเรียนคนเก่งได้สำเร็จ ต่างต้องใช้เวลา ความอดทน และมานะที่จะเรียน เคยคิดไหม....วันแรกที่ยังไม่เป็นอะไรในทุกสิ่ง ไม่ว่า จะเป็นการเขียน ที่บางคนมองว่าง่ายกว่าปอกกล้วยเข้าปาก แต่ถ้าเขามองไปถึงวันแรก ที่หัดอย่างยุติธรรม เขาจะเห็นว่า เขาเองก็วนเวียนกับสิ่งนั้นๆ อย่างหมกมุ่นไม่หยุดหย่อน ยังเขียนงานได้ไม่ดีในสายตาคนทั่วไปอยู่หลายครั้งเช่นกัน สิ่งหนึ่งที่ทุกท่านอาจลืมคิด ไม่เคยมีคนไม่ทำอะไรแล้วประสบความสำเร็จทันที แม้แต่คนที่มีพรสวรรค์มากที่สุด การเรียนและผิดหวังต่างหากที่สอนเราเป็น...คนชำนาญจนเรียกได้ว่ าเก่ง อย่าท้อ อย่าเบื่อ ถ้าวันนี้เรายังไม่เป็นไม่เก่ง ทุกอย่างต้องมีการนับหนึ่งกันทั้งสิ้น....... โปรดจำไว้...อดทนต่อไป เพื่อ..เป็นคนชำนาญการในวันหน้า ณ หนึ่งความรู้สึกยามท้อ ของตัวเอง...
5 กุมภาพันธ์ 2551 14:29 น. - comment id 819965
วันนี้เข้ามาช้าไปนิดแต่ก็ขอแวะชม ช้ำยามไกล..จากกลบทช้างประสานงาบวก ด้วยกลทบทก้านต่อดอก..ขนาดเพิ่งหัด ยังจัดเรียงคำเอมาต่อเป็ความได้...นี่เห็น อนาคตจะไกลแน่..หละครับ..โอเลี้ยง มีความตั้งใจอย่างนี้..อีกไม่นานคงจะเทิร์น โปร..อย่างพี่ๆท่านที่ชำนาญการได้ไม่ยาก อย่างไรก็ขอให้กำลังใจกับความพยายามและ ความตั้งใจของโอเลี้ยงเป็นอย่างยิ่งครับ.. และระลึกไว้เสมอนะครับว่า นานาประเทศล้วน นับถือ คนที่รู้หนังสือ แต่งได้ ใครเกลียดอักษรคือ คนป่า ใครเยาะกวีไซร้ แน่แท้ คนดง
5 กุมภาพันธ์ 2551 15:38 น. - comment id 819997
ค่ำคืนนี้ ฟ้ามืด ครึ้มสลัว ผืนฟ้ามัว หมองหม่น เหมือนคนเศร้า มองฟากฟ้า ไกลไกล โอ้ใจเรา คิดถึงเขา จริงจัง ยังหนาวใจ
15 กุมภาพันธ์ 2551 20:26 น. - comment id 824283
ขอขอบคุณ คุณต้นกล้า คุณบ้านหมอ[banmoh] ลืมล็อคอิน คุณ คูแอบดน คุณแอบดู พี่แจ็ค หลวงพี่บนข. คุณอัสสุ คุณอรุณสุข คุณก่องกิก ที่แวะมาอ่าน และเม้นต์ติชมนะคะ