ฉันเฝ้าเก็บ ดาวน้อย ร้อยด้วยรัก จะทอถัก รักหวาน สานสวยสม หยิบจันทร์เรียว เกี่ยวคลาย ที่เป็นปม แล้วบรรจงลงสลัก .รัก. ให้เธอ..... ดาวดวงหนึ่ง อยู่ปลายฟ้าแสงสุกใส สว่างสไวระยิบระยับ จับตาฉัน ในทุกคืน เจ้ารับฟัง คำรำพัน คำเพ้อฝัน ถึงคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ไกล ร่ำโหยหา หลั่งน้ำตา จันทราลับ ดั่งเดือนดับ ลับไปแล้ว สุดใจหาย เดือนเคียงดาว เมื่อถึงคราวดาวห่างกาย ใจแทบวาย คราลาลับ กับเดือนจร โอ้อกเอ๋ย ร้าวราญ เหลือจะกล่าว ด้วยดาวร้าว คราวเดือนลับ เหมือนจะหาย รินรินรด หยดน้ำตา ดาราราย ด้วยเดือนคลาย กลายเป็นอื่น สะอื้นตรม
11 สิงหาคม 2550 17:52 น. - comment id 737280
เค้ายังไม่เป็นอื่นนะตัวเอง.. เค้ายังรักตัวเองไม่เปลี่ยนนะ.. จันทร์ยังเคียงคู่ดาราไม่มีวันเปลี่ยนใจเจ้าค่ะ เหมือนกับมณีจันทร์ กับ อารีณา....คู่กั๊นคู่กัน ที่หนึ่งมะ..เพี้ยง
11 สิงหาคม 2550 17:57 น. - comment id 737282
ตอนเด็กๆจันทร์ต้องเป็น แชมเปี้ยน ของที่1 แน่ๆค่ะ กวาดเหรียญทองเก่งจังอิๆๆ น่านจิ มณีจันทร์ อารีณา คล้องกันน่าด ูคิๆๆ
11 สิงหาคม 2550 18:08 น. - comment id 737285
พักนี่พี่จันทร์เจ้าขาหน้าบาน มีคนแต่งกลอยตัวเองเพียบ อิอิ...ใช่ปะคะพี่อารีณา คนคงงงกันอะคะ หน้าฝนแต่งกลอนจันทณืกะดาว รับเทศกาล....ดาวตกไงคะ เพราะคะ...
11 สิงหาคม 2550 18:24 น. - comment id 737289
...มาถักเดือนร้อยดาวเป็นราวเด่น ชี้ให้เห็นว่าฟ้าไกลแผ่ไพศาล ยิ่งใหญ่กว่าดินหล้าสุธาธาร แต่มิพ้นลมปราณแห่งกวี อารีณามาเรียงร้อยสร้อยเสนาะ ฟังไพเราะแต่เหงาหนอเขานี่ ยามนภามีดาราในราตรี กี่คนที่อยากมีเพื่อนคอยเตือนใจ ฯ ไพเราะครับ
11 สิงหาคม 2550 20:55 น. - comment id 737313
อารีณา น้อยใจ ต่อกลอนเศร้า เอื้อนเอ่ยเร้า รึงจิต ให้หวามหวั่น สะอื้นลึก ในอก เธอรำพัน ใจสุดกลั้น น้ำตาใหล ตกอกกใน อันความเหงา ว้าเหว่ ในจิตกล่อม แม้มีเพื่อน ห้อมล้อม ยังหายไม่ แม้ท่ามกลาง ผู้คนมาก แต่จิตใจ ยังสั่นไหว หนาวสะท้าน ให้สั่นทรวง จิตรำพันมาเหงาใต้ดวงดาวเป็นเพื่อนนะคะ เรามาเหงากันสองคนดีกว่า
11 สิงหาคม 2550 22:39 น. - comment id 737339
มาแอบน้อยใจที่นี่เองค่ะ..เดียวหญิงรพี เขียนนางครวญภาคสามให้อ่านดีมั้ย... เอากลอนคุณนี่แหละไปครวญ..
12 สิงหาคม 2550 00:10 น. - comment id 737359
พิมญดา น้องพิมคนสวยขอบคุณนะคะมาหา พี่รีณา ก็แค่น้อยใจจันทร์ค่ะ อิๆๆใจตรงกัหมดเลยค่ะ แต่งกลอนเกี่ยวกับ จันทร์ร้องไห้กันใหญ่เลยค่ะ สงสัยเค้าร้องไห้ตาบวมแร้ว
12 สิงหาคม 2550 00:17 น. - comment id 737361
คุณ"เพชรสังคีต" ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาชมกลอนของรีณา แต่กลอนของคุณ ที่แต่งเป็นโคลง และ ฉันท์ เพราะมาก ค่ะ เสียดายจังที่ไม่มีโอกาศได้เรียนด้านนี้ รีณาจบ พยาบาลค่ะ ความจริงอยากเป็นครูมาก
12 สิงหาคม 2550 00:28 น. - comment id 737364
จิตรำพัน จ๋า ขอบคุณค่ะ ที่มานั่งเหงาเป็นเพื่อน อยู่ว่างๆ ไม่กล้าต่อว่าใครค่ะ เลยต่อว่า จันทร ต่อว่่าดาว ขอบคุณสำหรับความ เป็นเพื่อนที่อบอุ่นค่ะ
12 สิงหาคม 2550 00:36 น. - comment id 737366
bananaleaf หวัดดีค่ะ หญิงรพี เขียนมาเร็วๆเลยค่ะหญิงรพี รีณาคอยใจจด ใจจ่อนะ เอากลอนรีณาไปแต่งเหรอ ได้เลย หยั่งงี้ เราก้อได้เป็นนางเอกจิ.. กลอนหญิงรพีแต่ง รีณาก็ชอบ ความจริงชอบกลอน ของหลายๆคน ในบ้านกลอนหลังนี้เลยแระ ติดตามอ่านหลายคนด้วย แต่ไม่ค่อยกล้าเม้นท์นะ มีชอบๆเยอะเลยแระค่ะ
12 สิงหาคม 2550 10:31 น. - comment id 737423
โอ้อกเอ๋ย อกสาว อารีณา กินน้ำตา เหตุเพราะว่า ดาวเดือนหาย ไม่ไปไหน หรอกน้อง ดาราราย คืนเดือนหงาย แสงเดือนบัง อย่ากังวน
12 สิงหาคม 2550 19:21 น. - comment id 737467
ก่อนนี้ผมเองเป็นคนนิยมชมชอบมองท้องฟ้า ในยามค่ำคืนเสมอ บัดนี้เกือบทุกฤดูกาลท้องฟ้าแถว บ้านผมปิด ไม่เหมือนก่อนที่หากคืนเดือนมืดดาว จะสะพรั่งเต็มเห็นดาวหางล่วงหล่นเสมอ ผมชอบ นอนแค่หน้าบ้านมองท้องฟ้า หากคืนไหนเดือน จ้าสวยสด จะมีเพียงดาวน้อยๆเคียงข้างเสมอ ปลาย ขอบฟ้าถึงจะมองเห็นดาวจ้า มาบัดนี้เป็นได้แค่ เพียงความฝันเท่านั้นเอง แก้วประเสริฐ.
12 สิงหาคม 2550 19:58 น. - comment id 737483
คุณพี่ก่องกิก น้ำตาหยดรดรินด้วยรวดร้าว เพราะว่าดาวพาเดือนเลือนลับหาย อิกทั้งพี่ก่องกิก ยอดพี่ชาย ก็มาหาย พาเหล่ากิ๊ก ไปร่าเริง อิๆๆ แค่แซวนะเจ้าคะ...ตะเอง
12 สิงหาคม 2550 20:06 น. - comment id 737487
คุณแก้วประเสริฐ จริงของคุณพี่แก้วประเสริฐ เจ้าค่ะ รีณาจำได้ เมื่อสิบกว่าปีก่อนโน้น ที่เมืองไทย บนท้องฟ้า มีดาวสวยๆมากมายให้นอนดูทั้งดวงเล็กดวงใหญ่ แสงสุกใส ระยิบระยับ รีณาจะชอบมองมาก และนอนดูนานๆ แม่ชอบว่า รีณาเพ้อเจ้อ แม้จนเดี่ยวนี้ ก้ชอบแหงนดูฟ้า เวลาที่สบายๆ อารมณ์ดีๆชอบจริงๆ