๏โลมเอยโลมลัด... เจ้าลมพัดโบกเบาเข้าพ้นผ่าน สายลมโชยโปรยเรื่อยค่อยเฉื่อยนาน เจ้าพัดพานความเหงาบรรเทาใจ กลางค่ำคืนชื่นจิตสนิทมั่น ที่เหน็บหนาวคาดคั้นจนหวั่นไหว บรรยากาศปราศสิ้นชีวินใด นภาลัยหม่นมืดจนจืดจาง โอ้โลมเอยลมเบาเจ้าเป็นเพื่อน จากชีวิตบิดเบือนที่หมองหมาง กี่ความเหงาเฝ้าคอยต้องปล่อยวาง ดวงชะตาบอบบางจวบร้างไป เอยชีวิตกี่คืนได้ชื่นฝัน ปานตะวันส่องหล้าเคยสดใส ต้องตกอับอาภัพสดับใจ จนเหลือไว้เพียงว่าหมดราตรี อากาศหนาวเย็นไปทั้งใจข้า กาลเวลายากเกินจะเดินหนี ความอบอุ่นจิตใจคงไม่มี ตราบตัวตนคนนี้จะกล่าวลา โอ้คืนเอ๋ยเพียงเราเท่าที่อยู่ ไม่มีใครเคียงคู่ให้มองหา ไร้ดวงเดือนดาชื่นอื่นนานา เกินจะกล่าววาจาสดับใด ใจที่ช้ำค่ำคืนยังมืดหม่น ฟ้าสับสนสิ้นฝันอันสดใส อากาศหนาวตอกย้ำถึงน้ำใจ ความสุขใดตัวฉันมิมั่นมี ยังร่ำร้องฟ้องฟ้าว่าใจดำ ปล่อยความมืดครอบงำจนถึงที่ เพียงความเหงาเท่าเทียบเปรียบราตรี จะราวีตามไปถึงไหนกัน กว่าอรุณอุ่นหล้าจะกล้าแสง คงหมดแรงเหนี่ยวรั้งจะยั้งหยัน กว่าถึงวารพานพบสบตะวัน คงเพียงความเงียบงันกว่าวันตาย กว่าค่ำคืนเนิ่นนานจะผ่านพ้น ทั้งตัวตนล้นลับดับสลาย ที่โรมรันคั้นบีบจนชีพวาย จนบั้นปลายสุดล้ำแห่งค่ำคืน...
4 กรกฎาคม 2550 10:06 น. - comment id 719541
กลางคืนพื้นฟ้ากว้างอ้างว้างยิ่ง ทุกทุกสิ่งรอบกายเหมือนหายหนี สุดอาธรร้อนใจเพิ่มทวี ยามที่มีน้ำตาว่าเหงาครอง มองบนฟ้าฟื้นนั้นฉันโหยหา ดวงดาราหมู่เมฆาสายตาจ้อง อยากโอบกอดฉุดมาแนบแอบครอบครอง ใจสี่ห้องอาจหายเหงาเศร้าเจอจาง แวะมาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ
4 กรกฎาคม 2550 16:59 น. - comment id 719805
อ่านแล้วเหงาตามไปด้วยเลย...เอากำลังใจมาฝากค่ะ
5 กรกฎาคม 2550 01:48 น. - comment id 720013
ฟ้า...ยังมีตะวัน พระจันทร์...ยังมีดวงดาว ... ส่วนตัวฉันสุดเศร้า...เหมือนไม่มีใคร
7 กรกฎาคม 2550 22:22 น. - comment id 721206
อย่างงี้มานเป็นกลอนอะไรหรอคับบอกที เพราะจับใจ