อันแสง สุรีย์ฉาย นภคลาย ละเมฆหมอง ยามแจ้ง มโนตรอง สติส่อง สะท้อนใจ เคยเปื้อน ณ อารมณ์ บ่มิสม ประดีหมาย มืดมน บ่มีคลาย สิก็ร้าย จะวายวาง แท้จริง บ่จริงนั้น สติมั่น สิคลายหมาง รู้แจ้ง ณ ท่ามกลาง มนพลาง มโนใน อันรัก ฤาลุ่มหลง อุระจง พินิจหมาย วางว่าง ณ อาลัย หฤทัย จะชัดเจน
16 มิถุนายน 2550 03:24 น. - comment id 710790
อิอิ..มีคนละเมอมาบ่นๆๆ กลางดึกด้วย หรือขโมยนะ..หุหุ
16 มิถุนายน 2550 05:15 น. - comment id 710798
ก้ววิ่งตามหลังพี่ ป เค้ามาให้ก่าลังจัยพี่ปายตะวันค๊า(แก้วมะเข้าจัยกลอนเท่ารัยค่ะ)แต่เตมจัยให้ก่าลังจัยพี่ปลายตาวันค่ะ
16 มิถุนายน 2550 07:50 น. - comment id 710809
ชัดเจนค่ะ...แล้วคนที่หลงจะชัดเจนไหมนี่...บ้านเมืองก็ระส่ำระสายเพราะ.........คิดเอาเองนะคะพูดไม่ได้..........
16 มิถุนายน 2550 07:50 น. - comment id 710810
อินทรวิเขียร์ฉันใช่ป่ะครับ ไพเราะมากเลย....
16 มิถุนายน 2550 08:00 น. - comment id 710812
หยุดรัก..หยุดหลง มีสติ...แล้วสตังค์ก็จะตามมา น่าสน..น่าสน กลอนไพเราะมากค่ะ
16 มิถุนายน 2550 08:32 น. - comment id 710814
หลุ่มหลง แล้วยังเห็นชัดเจน นับถือๆ
16 มิถุนายน 2550 09:00 น. - comment id 710823
สวัสดีครับ คุณ ป นี่ข้าพเจ้าเอง อย่ายิงนะ เดี๋ยวไส้หาย ขี้เกียจไปตามหา 5555
16 มิถุนายน 2550 09:16 น. - comment id 710826
หวัดดีครับ คุณแก้วตา* บทนี้ก็มีเนื้อหาประมาณว่า เมื่อยามที่พระอาทิตย์ส่องแสงอยู่นั้น เหล่าเมฆหมอก และความมืดมนทั้งหลายก็ย่อมจะเลือนหายไปจากท้องฟ้า เปรียบเสมือนกับจิตใจของคนเรา ถ้าอยู่ในสภาพที่กำลังลุ่มหลงในอารมณ์เชิงชู้สาวอยู่นั้นก็จะทำให้ไม่รู้ว่าที่แท้จริงแล้วเรารัก หรือหลงเขากันแน่ ดังนั้นจึงควรจะปล่อยวางความอาลัยห่วงหาลง และมีสติอยู่กับใจของเราเองเท่านั้น จึงจะทำให้เรามองความรู้สึกของเราได้ชัดเจนขึ้น ทำให้สามารถรู้ได้ว่าแท้ที่จริงนั้น เรารักหรือหลงครับ
16 มิถุนายน 2550 09:25 น. - comment id 710828
สวัสดีครับ คุณ Salukphin ที่วุ่นวายอยู่ก็คงเพราะหลงกันน่ะแหล่ะครับ แต่หลงไปตามอำนาจกิเลสของจิตใจฝ่ายต่ำ ทำให้พฤติกรรมที่แสดงออกมา จึงแลดูน่ารังเกียจ แต่เมื่อใดความลุ่มหลงจางคลายลงไปบ้าง มโนธรรมในจิตใจของเขา จะคอยย้ำเตือนใจของเค้าเอง ทำให้หลับก็เป็นทุกข์ ตื่นก็เป็นทุกข์ และที่สำคัญจิตเมื่อใกล้จะตายก็เป็นทุกข์ ดังนั้นเมื่อไม่อยากมีทุกข์จึงจะต้องมีสติรู้เท่าทันอารมณ์ ของตนเอง อย่าทำอะไรที่คนดีเค้าจะประนาม พอตายลงไปลูกหลานก็จะสาปแช่ง ตายเป็นผียังจะต้องนอนสะดุ้งอีก
16 มิถุนายน 2550 09:31 น. - comment id 710832
สวัสดีครับคุณธนา ถูกต้องครับอินทรวิเชียรฉันท์ 11 ครับ ที่อ่านแล้วดูดีอาจเป็นเพราะฉันท์เค้าบังคับให้วางครุลหุ ให้ตรงตำแหน่งน่ะครับ ไม่ใช่เพราะเก่งกาจอะไรหรอกครับ
16 มิถุนายน 2550 09:34 น. - comment id 710834
สวัสดีครับ คุณbananaleaf คำพูดนี้ "ถ้ามีสติ แล้วสตังค์จะตามมา" ชอบครับ ....สตังค์น่ะ 55555
16 มิถุนายน 2550 09:37 น. - comment id 710835
ตอบคุณดิออร่า สวัสดีครับ พี่สาว ก็เพราะส่วนหนึ่งได้กำลังใจที่ดีจากพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ในบ้านกลอนน่ะแหล่ะครับ จึงทำให้ฟื้นคืนสติได้รวดเร็วขนาดนี้ วันนี้พี่สาวทำงานรึเปล่าครับ ขอให้รวยๆ นะครับ
16 มิถุนายน 2550 10:05 น. - comment id 710842
เพราะคะ...ชัดเจนสำหรีบพวกเรา..อีกหลายๆๆคนที่กำลังไม่ชัดเจนกับตัวเองละคะ...ทำไงดี...ผู้คนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า......
16 มิถุนายน 2550 10:10 น. - comment id 710845
ตอบคุณพิมญดา ก็คงต้องทำให้ดีที่สุดแหล่ะครับ แต่ผลจะเป็นอย่างไร ก็คงต้องวางอุเบกขานะครับ อย่าไปประหวั่นพรั่นพรึงกับมันให้มาก ถ้าทำดีแล้ว และมีปัจจัยของความสำเร็จถึงพร้อม ผลของมันก็จะออกมาดีเองแหล่ะครับ
16 มิถุนายน 2550 10:26 น. - comment id 710848
กลอนเพราะจัง ^_^
16 มิถุนายน 2550 12:42 น. - comment id 710868
********************* ทุกสรรพสิ่งที่พึงมี ********************* http://www.thaiall.ne
16 มิถุนายน 2550 22:53 น. - comment id 710939
หวัดดีครับ อาฮุย รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
16 มิถุนายน 2550 22:54 น. - comment id 710940
ตอบคุณเทพระวี หวัดดีครับ
17 มิถุนายน 2550 03:05 น. - comment id 710971
ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้ ก็โลดและเล่นไปบ่ยอมอยู่ณ ที่ขังจะ คิกๆๆ
17 มิถุนายน 2550 10:28 น. - comment id 711009
ตอบคุณฝน ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน ไม่ยินและไมยล อุปสรรคะใดใด พักนี้ไม่ค่อยได้เจอคุณฝนเลย
17 มิถุนายน 2550 19:44 น. - comment id 711161
ดีนะครับเขียนฉันท์บ้าง..เปลี่ยนบรรยากาศ นิดนึงนะ ณ. อ่านว่า นอ... ถ้า ณ จึงจะอ่านว่า นะ
17 มิถุนายน 2550 20:44 น. - comment id 711182
ตอบคุณฤทธิ์ ศรีดวง ขอบคุณครับ