ปราการรัก

แมงกุ๊ดจี่

8-20070312082645.jpgสายลมเงียบเรียบเฉยล่วงเลยผ่าน
ก้องกังวานความรู้สึกส่วนลึกน้อง
สบสองเนตร...เฉยชาน้ำตานอง
ยากประคองขื่นข่ม...ระทมขวัญ...
มอบสัมผัสแห่งใจไปแนบเคียง
หวังใจเพียง...รับรู้...พธูหวั่น
เสียงหัวใจร่ำร้องดั่งกลองลั่น
หัวอกสั่น...มิพูด...พิสูจน์ใด...
ป้อมปราการความรักทิฐิกั้น
เกินบุกบั่น...ก้าวล่วงสู่ห้วงใจ
ได้แต่เงียบ...เก็บงำถ้อยคำไว้
หากเผยความในกลัวไม่รับฟัง...
เนิ่นนานวันความเงียบยังเรียบเฉย
ถูกละเลยน้ำตารินเหมือนสิ้นหวัง
เหตุใดจึงปล่อยคว้างกลางภวังค์
คล้ายถูกขัง...ในคุก...ทุกข์เข้าครอง...
หากแม้นมิเชื่อใจในซื่อสัตย์
น้องขอวัด!...ค่ารัก...จักสนอง
ปลิดชีพนี้...บูชารักค่าดั่งทอง
ปลดปล่อยล่องอีกภพ "จบนิรันดร์"
Forward :ปราการแห่งทิฐิ   จากน้องเอม   ทะเลใจ				
comments powered by Disqus
  • แมงกุ๊ดจี่

    12 มีนาคม 2550 08:46 น. - comment id 669021

    >>>>>> >> ปราการแห่งทิฐิ 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >> อ่านแล้วกินใจจริงจริ๊ง......นะจะบอกไฮ่ยยยยย 
    >>>>>> >> เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เวียดนาม 
    >>>>>> >> เป็นโศกนาฏกรรมแห่งความรักที่บันทึกไว้ในข้อเขียน 
    >>>>>> >> เรื่อง "เมตตาภาวนา: คำสอนว่าด้วยรัก" ของท่าน "ติชนัท ฮันท์ " 
    >>>>>> >> อ่านจบหลายครั้งก็ยังประทับใจ จึงอยากนำมาเล่าต่อ 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >> ชายหนุ่มกับหญิงสาวคู่หนึ่งเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นาน 
    >>>>>> >> ฝ่ายชายก็ถูกเกณฑ์ไปราชการสงคราม 
    >>>>>> >> หญิงสาวไปส่งสามีจนสุดสายตา 
    >>>>>> >> เขาหายไปในสงครามเป็นเวลากว่า 3 ปี 
    >>>>>> >> จึงส่งข่าวคราวกลับมา 
    >>>>>> >> เธอดีใจมากจูงมืออ้ายตัวเล็กไปรับผู้เป็นพ่อแต่เช้าตรู่ 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >> ทันทีที่พบกันทั้งสองโผเข้าหากัน 
    >>>>>> >> สัมผัสไออุ่นจากกันและกัน นิ่งนาน 
    >>>>>> >> จนเกือบลืมไปว่ามีลูกชายตัวเล็กยืนจ้องตาแป๋วอยู่ 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >> ผู้เป็นพ่อดีใจมาก ยื่นมือไปหมายกอดลูกชาย 
    >>>>>> >>แต่เจ้าหนูถอยกรูด แม่ปลอบว่า "อย่าตกใจ 
    >>>>>> >> เจ้าหนูไม่เคยเห็นหน้าพ่อมาก่อนก็เป็นเช่นนี้แหละ" 
    >>>>>> >> ทั้งสามเดินกลับมาตามทางจนถึงตลาด 
    >>>>>> >> หญิงสาวขอตัวเข้าไปซื้อข้าวของสำหรับ 
    >>>>>> >> ทำกับข้าวมื้อพิเศษ 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >> ชายหนุ่มมีโอกาสอยู่กับลูกชาย 
    >>>>>> >> จึงขออุ้มเจ้าตัวน้อยอีกครั้งหนึ่งแต่ไม่สำเร็จ 
    >>>>>> >> เท่านั้นยังไม่กระไร 
    >>>>>> >> พอเจ้าลูกชายเริ่มพูดบางสิ่งบางอย่าง 
    >>>>>> >> เขาจึงรู้สึกได้ถึงที่มาแห่งปฏิกิริยาอันผิดปกติ 
    >>>>>> >> "น้าไม่ใช่พ่อของหนู พ่อหนูมาหาแม่ทุกคืน 
    >>>>>> >> พอแม่นั่งพ่อก็นั่ง พอแม่ยืนพ่อก็ยืน..." 
    >>>>>> >> เพียงไม่กี่คำเท่านี้เอง 
    >>>>>> >> หัวใจของชายหนุ่มผู้เหนื่อยหนักมาจากสงคราม 
    >>>>>> >> อันแสนหฤโหดยาวนาน ก็พลันกระด้างยังกับแผ่นศิลา 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >> สักพักหนึ่งพอหญิงสาวเดินกลับมาจากตลาด 
    >>>>>> >> เธอก็พบว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว 
    >>>>>> >> เขาไม่เพียงแต่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน 
    >>>>>> >> หากหน้าเธอเข้าก็ไม่ปรายตามองอีกต่อไป 
    >>>>>> >> เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น 
    >>>>>> >> 
    >>>>>> >> เย็นวันนั้น อาหารที่เธอบรรจงทำอย่างสุดฝีมือ 
    >>>>>> >> เพื่อต้อนรับการกลับมาของเขาจืดสนิท 
    >>>>>> >> ทั้งคู่เข้านอนแต่หัวค่ำ 
    >>>>>> >> ต่างนอนลืมตาโพลงอยู่ในความมืด 
    >>>>>> >> เธอถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นขณะที่เธอแวะไปซื้อของ 
    >>>>>> >> เขาถามว่าเธอยังเป็นผู้หญิงคนที่เขาสุดรัก 
    >>>>>> >> อย่างจับใจคนเดิมอยู่หรือเปล่า 
    >>>>>> >> ต่างคนต่างถามกันและกันในความมืด 
    >>>>>> >> ทว่าเป็นการถามที่เงียบงำจนวังเวง 
    >>>>>> >> เขาเย็นชากับเธอจากวันแรกจนถึงวันที่สาม 
    >>>>>> >> ไม่มีการถามไถ่ ไม่มีการโอบกอดอันอบอุ่น 
    >>>>>> >> ไม่มีการรับประทานอาหารร่วมกันอย่างเอร็ดอร่อย 
    >>>>>> >> ไม่มีแม้แต่การปรายตามองกันและกัน 
    >>>>>> >> อย่างเต็มสองตาฉันสามีหนุ่มภรรยาสาว 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >> การณ์เป็นไปดังนั้นอยู่จนถึงเย็นวันที่สาม 
    >>>>>> >> แล้วความอดทนของเธอก็สิ้นสุดลง 
    >>>>>> >> เธอตัดสินใจลาจากความระทมทุกข์ที่แม่น้ำสายหนึ่ง 
    >>>>>> >> ทิ้งปมปัญหาทุกอย่างไว้ข้างหลังอย่างไม่ไยดี 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >> เย็นวันนั้นเขารู้ข่าวการจากไปของเธอด้วยน้ำตานองทั้งสองแก้ม 
    >>>>>> >> เขาไปรับศพเธอมาบำเพ็ญกุศลอย่างเงียบๆ ในบ้านของตัวเอง 
    >>>>>> >> 
    >>>>>> >> มีเพียงเจ้าหนูเท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อนเขาจนดึกดื่น 
    >>>>>> >> และคืนนี้ความลึกลับทั้งปวงก็ได้รับการคลี่คลาย 
    >>>>>> >> ตะเกียงน้ำมันก๊าดที่จุดไว้บนโลงค่อยๆ 
    >>>>>> >> หรี่ลงจวนเจียนจะดับ 
    >>>>>> >> เขาเติมน้ำมันแล้วจุดใหม่ เปลวไฟโชนแสงวูบวาบ 
    >>>>>> >> เขาลุกเดินกลับไปกลับมา 
    >>>>>> >> ขณะนั้นเองเงาของเขาทาบทอไปปรากฏยังฝาเรือน 
    >>>>>> >> เจ้าหนูชี้ไปที่เงาพลางตะโกนลั่น 
    >>>>>> >> "นั่นไง พ่อหนูมาแล้วพอแม่นั่งพ่อก็นั่ง 
    >>>>>> >> พอแม่ยืนพ่อก็ยืน คนนั้นแหละพ่อของหนู" 
    >>>>>> >> ชายหนุ่มมองตามเจ้าหนู เห็นเงาของตัวเองทาบทออยู่ที่ฝา 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >> จึงเข้าใจขึ้นมาในนาทีนั้นเองว่า 
    >>>>>> >> "พ่อ" ที่เจ้าหนูเอ่ยถึงก็คือ "เงา" ที่เห็นอยู่นี่เอง 
    >>>>>> >> ปริศนาทุกอย่างกระจ่างแล้ว 
    >>>>>> >> เธอ...คงรักเขามากสินะ 
    >>>>>> >> ถึงขนาดสมมุติให้เงาตัวเองเป็นเขา 
    >>>>>> >> แล้วบอกเจ้าหนูว่าเงาก็คือตัวเขา คือ "พ่อ" 
    >>>>>> >> ที่หายไปในสงคราม 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >> โอ...ไม่น่าเลย ความจริงนี้เจ็บปวดเกินไป 
    >>>>>> >> เจ็บเกินกว่าหัวใจของคนธรรมดาจะรับไหว 
    >>>>>> >> รุ่งขึ้นอีกวัน 
    >>>>>> >> เขาชดใช้ความผิดพลาดอย่างมหันต์ของตัวเอง 
    >>>>>> >> ด้วยการให้แม่น้ำเป็นตุลาการผู้พิพากษาชีวิตเขาอีกชีวิตหนึ่ง... 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >>เรื่องราวของเขาและเธอเป็นโศกนาฏกรรมแห่งความรัก 
    >>>>>> >> ที่เล่าขานกันมาอีกนานนับนาน 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >> วันนั้น หลังจากเจ้าหนูพูดถึง "พ่อ" 
    >>>>>> >> ของตัวเองให้เขาฟังที่กลางตลาด 
    >>>>>> >> หากเขาไม่หุนหันพลันแล่น มีสติสักนิดหนึ่ง 
    >>>>>> >> ถามไถ่จากเธอว่า "พ่อ" คนที่เจ้าหนูพูดถึงคือใคร 
    >>>>>> >> และหลังจากที่เขาเย็นชา ปิดปากเงียบสนิท 
    >>>>>> >> หากเธอจะอาจหาญถามเขากลับไปว่ามันเกิดอะไรขึ้น 
    >>>>>> >> เธอก็คงไม่ต้องเจ็บจนเกินเยียวยา 
    >>>>>> >> และเขาเองก็คงไม่ต้องจบชีวิตอย่างน่าอนาถเช่นนั้น 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >> ไม่ใช่เธอไม่รักเขา และไม่ใช่เขาก็ไม่รักเธอ 
    >>>>>> >> หากทั้งเธอและเขาต่างรัก ต่างภักดีต่อกันอย่างสุดซึ้ง 
    >>>>>> >> ความรักของคนทั้งสองบริสุทธิ์ งดงาม หมดจด 
    >>>>>> >> จนกลายเป็นตำนานเล่าขานดังเรื่องราวของวีรบุรุษวีรสตรีผู้พิชิต 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >> ความผิดพลาดหากจะพึงมีบนเส้นทางแห่งรักแท้ 
    >>>>>> >> จนกลายมาเป็นโศกนาฏกรรมของคนทั้งคู่ 
    >>>>>> >> เกิดจากเส้นบางๆของปราการแห่ง "ทิฐิ" โดยแท้ 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >> หากทั้งเธอและเขายอมวาง "ทิฐิ" ลง 
    >>>>>> >> แล้วหันหน้าเข้าหากันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย 
    >>>>>> >> ถามไถ่จากกันและกันอย่างให้เกียรติกันทั้งสองฝ่าย 
    >>>>>> >> ไหนเลยจะต้องมาจำพรากทั้งที่ยังรักล้นใจเช่นนั้น 
    >>>>>> > 
    >>>>>> >> รักเอย รักนั้นงดงาม บริสุทธิ์ อ่อนหวาน 
    >>>>>> >> ไม่ใช่ความผิดของความรักหรอกจะบอกให้ 
    >>>>>> >> ผิดที่ใจอันมากด้วย "ทิฐิ" ของทั้งคู่นั่นต่างหาก 
    >>>>>> >> ปรารถนารักที่ยั่งยืนหมื่นปี อย่าให้มี 
    >>>>>> >> "ปราการแห่งทิฐิ" มากางกั้นแค่นั้นพอ........ 
    
  • เพียงพลิ้ว

    12 มีนาคม 2550 08:49 น. - comment id 669024

    23.gif68.gif
    
    จริงเหรอนี่ อิอิ
    
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • ไรไก่

    12 มีนาคม 2550 08:58 น. - comment id 669029

    ความรักหากมีปัญหาแล้วไม่รีบปรับความเข้าใจมักทำให้ความรักกลายเป็นสีดำได้เนาะ
    
    เรื่องดีมากๆเชียว..
    ถ้าลุกมาพุดคุยกันซ่ะเรื่องเศร้าแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นแน่ๆ
    
    36.gif36.gif
  • Salukphin

    12 มีนาคม 2550 09:18 น. - comment id 669040

    66.gifปราการรักปราการใจไยเหน็บหนาว
    
    เจ็บรานร้าวระบมตรมขมขื่น
    
    มันปวดแปลบแสบนักจักคลายคืน
    
    หลับและตื่นน้ำตานองสองแก้มนวล.66.gif
  • ศรรกรา

    12 มีนาคม 2550 09:45 น. - comment id 669073

    เอา "ทิฐิ"  มาขวางทางหว่างรัก
    ใจทั้งสองต้องกระอักเพราะรักขม
    เพราะความ"ข้อง" ต้องเป็นเหตุให้ระทม
    สุดท้ายจบด้วยความตรมสุดเสียดาย
    **********************************************
    การละทิฐิบ้าง  บางครั้งมันอาจจะทำให้เรื่องร้าย ๆ กลายเป็นดีก็ได้  ......เฮ่อ  เศร้าจังเลย 10.gif10.gif
  • เฌอมาลย์

    12 มีนาคม 2550 10:10 น. - comment id 669108

    หลายคู่ ที่จบความรักเพราะคำว่าทิฐิคำเดียวนี่แหละค่ะ
    
    ถ้าคิดจะรัก ต้องรู้จักคำว่าให้อภัยด้วยนะคะ
    รักนั้นถึงจะยืนยง36.gif36.gif57.gif57.gif
    
    จาก ศิราเฌอ อิอิ ผู้เอาตัวบ่รอด ซันดอกว่า19.gif
    
    ปล.ซังคนขี้ตั๋ว อย่าทำให้เฌอผิดหวังนะ สิ้นเดือน มจ.มจ.74.gif
  • ทะเลใจ

    12 มีนาคม 2550 10:34 น. - comment id 669119

    เรื่องนี้ถ้าถามกันสักคนนึง  ทุกอย่างคงไม่จบเป็นเรื่องเศร้าแบบนี้หนรอกเนอะพี่ว่าไม๊ ...6.gif
  • ครูพิม

    12 มีนาคม 2550 10:56 น. - comment id 669145

    1.gif
    โยนทิฐิลงแม่น้ำโขงไปแล้วค่ะ
    36.gif36.gif36.gif
  • พี่ชายจ๋า

    12 มีนาคม 2550 11:55 น. - comment id 669198

    คนบางคนใช้อารมณ์ตัดสินความสัมพันธ์
    คนบางคนไม่ยอมทำความรักให้มีเสียง
    และคนบางคนยอมเจ็บปวดเพราะ"ทิฐิ"
    
    ความคิดของคนน่ากลัวครับน้อง...55.gif
    
    ทำงานให้สนุกนะครับ..คิดถึง..36.gif36.gif
  • เพียงแพรว

    12 มีนาคม 2550 11:57 น. - comment id 669200

    ทิฐิ  เป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงสำหรับความรัก ลดๆบ้าง คงจะดี เน๊าะ คิคิ
  • whitelily

    12 มีนาคม 2550 12:34 น. - comment id 669236

    ทิฐิ   สร้างความเดือนร้อน  และเข้าใจผิดได้เสมอ
    ถ้าไม่ยอมหันหน้ามาพูดคุยกันบ้าง....11.gif
  • แม่มดใจร้าย

    12 มีนาคม 2550 12:37 น. - comment id 669244

    กำลังสร้างปราการเหมือนกันค่ะ
    จะสร้างเสร็จหรือเปล่าหนอ11.gif
  • ตะวันจะลับขอบฟ้า

    12 มีนาคม 2550 15:14 น. - comment id 669308

    พอเรามีทิฐิ เราก็จะไม่เปิดใจยอมรับสิ่งที่เขาทำ
    
    เราจะมองว่ามันเลวร้ายไปเสียหมด
    
    มันเลยทำให้เราเสียคนดีๆนะเนอะ11.gif
  • กุหลาบขาว

    12 มีนาคม 2550 15:26 น. - comment id 669319

    ลดทิฐิ..ลงมาดีกว่าค่ะแล้วทำใจให้ผ่อนคลาย..
    แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นค่ะ..11.gif
  • วงศ์ตะวัน

    12 มีนาคม 2550 16:50 น. - comment id 669406

    46.gif46.gif46.gif46.gif46.gif
    
    คิดอะไรไม่ออก
    แค่อยากมายิ้มให้น่ะ
    
    46.gif46.gif46.gif46.gif
  • เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย

    12 มีนาคม 2550 18:08 น. - comment id 669512

    อืม....36.gif
  • Goldfish

    12 มีนาคม 2550 18:29 น. - comment id 669551

    รันทดเหลือ
  • เมกกะ

    12 มีนาคม 2550 21:00 น. - comment id 669625

    11.gif11.gif
  • วิภาวดี/บิ๊ก

    12 มีนาคม 2550 22:14 น. - comment id 669649

    สะพานรักสารสิน....
    
    นี่เป็นอย่างหนึ่งของความรัก....
    
    41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif36.gif36.gif36.gif
  • ราชิกา

    12 มีนาคม 2550 23:29 น. - comment id 669689

    ไม่มีใครสร้างปราการได้...นอกจาก...ใจ..ของเรา....หากจะรักใคร...จงเปิดใจ...พร้อมที่จะรับ...ทั้งความสุขและความทุกข์....ที่จะเกิดขึ้น...พร้อมที่จะให้อภัย...และเรียนรู้จิตใจ...ของกันและกัน....
    
    ..ที่สำคัญ..ต้องใจเย็น...มีสติ..และอดทน..นะคะ...คิดถึงน้องจ๊ะ...36.gif44.gif36.gif
  • ป. ปลา

    13 มีนาคม 2550 01:42 น. - comment id 669731

    อ่านแล้วเศร้าเลย...7.gif
  • แมงกุ๊ดจี่

    15 มีนาคม 2550 16:39 น. - comment id 671233

    
    
    ขอบคุณทุกคนนะคะ   
    ช่วงนี้ยุ่ง  นิดหน่อย...ขอโทษที่ไม่ได้คุยด้วย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน