..๏ ฉันมิอาจสนองใดได้ทุกสิ่ง จงรับรู้ความจริงก่อนติงใส่ หากความรักของเธอแค่เผลอใจ เอาคืนไปเถิดหนอพอกันที เบื่อที่ต้องเอาใจสารพัน อดทนและอดกลั้นทุกวันวี่ ในเมื่อเธอไม่ซึ้งซึ่งความดี นับแต่นี้ทางใครก็ทางมัน ฉันจะลืมสัญญาค่าลมแล้ง คำเสแสร้งทั้งปวงหวงห่วงฉัน เธอทำเพื่อบางอย่างหวังรางวัล รัก แบบนั้นขอโทษหมดอารมณ์ ฉันหมดสิ้นเยื่อใยไม่ทบทวน จะไม่หวนย้อนคืนให้ขื่นขม รักแล้วต้องร้องไห้หัวใจตรม ฤๅเหมาะสมกับนิยามของความรัก ๚ะ๛
19 กุมภาพันธ์ 2550 11:35 น. - comment id 659081
หากจะรัก สิ่งใด ได้ทุกอย่าง อยู่ที่ทาง บุญนำ ทำวิถี อาจรักลวง รักแท้ ล้วนแต่มี เพียงวจี ว่ารัก สุดยากตรอง คงเป็นเรื่อง บุญนำ หรือกรรมสร้าง พบรักร้าง แรมไกล ใจคงหมอง หากรักจริง บุญนำ ค้ำประคอง คงไม่หมอง เพราะรักแท้ มิแปรไป พบรักลวง บ่วงใจ ให้หลงผิด ทั้งชีวิต ช้ำตรม ฤาข่มไหว คงสิ้นสุข โศกเศร้า ปวดร้าวใจ ต้องหักใจ คิดว่ากรรม เราทำมา รักสมหวัง ยังอยู่ คู่ชีวิต จวบจนนิจ นิรันดร์ สิ้นสังขา ถือเป็นโชค บุญทำ นำชักพา จงตั้งหน้า ทำความดี รอทีเรา......
19 กุมภาพันธ์ 2550 12:00 น. - comment id 659102
พิศดูภาพวาบหวิวสยิวนัก สุดจะหักห้ามเพลิงระเริงหลง จิตเตลิดเพริดไกลให้พะวง ยากจะปลงอนิจจังสังขารา หมดอารมณ์คมคำนำเสนอ แสร้งปรนเปรอว่ารักเป็นหนักหนา คำว่ารักที่เธอเพ้อเจ้อมา ดูไร้ค่าเพราะพูดพร่ำย้ำจนเซ็ง อิอิ
19 กุมภาพันธ์ 2550 12:40 น. - comment id 659130
หมดอารมร์รักใคร่ใครกันหรือ เพราะเธอคือคนแกร่งแห่งสยาม แม้นหากใครหยามรักไม่ฟังความ ตัดนิยามแห่งรัก...ด้วยทรนง มารับพลังใจ.. หญิงแกร่งแห่งบ้านกลอน..
19 กุมภาพันธ์ 2550 12:55 น. - comment id 659137
มิได้ทำเสแสร้งแกล้งลวงหลอก รักที่บอกคือความจริงแสนยิ่งใหญ่ อย่าคิดว่ารักจนเพ้อคือเผลอใจ ที่มอบให้คือสัจจามีค่าพอ ฉันทำให้เธอเบื่อต้องอดกลั้น แต่อย่าให้ต้องเลิกกัน..เถิดฉันขอ นานเพียงใดสายใยรักสานถักทอ ฉันจะรอ..กว่าเธอไม่..ไร้อารมณ์ ....ช่วยเติมสีสันให้แล้วนะครับ จะได้เร้าอารมณ์ขึ้น......
19 กุมภาพันธ์ 2550 13:10 น. - comment id 659147
แม่ แม่....พี่เค้าเอารูปตาลึงมาดูด้วยแหยะ...หุ หุ หุ ซอบจังเหยย... "ที่เธอบอกเผลอใจไม่ใช่ดอก ฉันขอบอกบรรยากาศมันพาให้ คำสัญยงสัญญาที่ว่าไป อย่าใส่ใจคนมันเมาเท่านั้นเอง"
19 กุมภาพันธ์ 2550 13:16 น. - comment id 659152
คนในความทรงจำที่ช้ำชอก แม้นเขาตอกย่ำใจแสนใหญ่หลวง ยังครวญคร่ำพร่ำหาสัญญาลวง ทั้งที่ล่วงผันผ่านมานานปี ลมรำเพยรานกายแล้วหายลับ แต่เจ็บกลับจับใจมิหน่ายหนี คนนอกความคำนึงหนึ่งคนนี้ ฤๅวจีเพียงลมพัดสะบัดไกว
19 กุมภาพันธ์ 2550 13:29 น. - comment id 659164
เอานี่มาให้ดูเผื่อมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างเน๊าะ..
19 กุมภาพันธ์ 2550 14:32 น. - comment id 659238
เห็นด้วยนะค่ะ "ถ้าหากรักกัน มันยากขนาดนี้ จบ ๆ กันไปสักทีก็ดีเหมือนกันค่ะ"
19 กุมภาพันธ์ 2550 14:59 น. - comment id 659257
ถ้าเป็นคนอื่นลงภาพแบบนี้ผมจะไม่ละลาบละล้วงไปท้วงเลย แต่นี่เป็นถึงพี่อิมในบ้านกลอนไทย ผมว่าเปลี่ยนจากบ้านกลอนไปโพสต์รูปโป๊เถอะครับ ขอโทษ ที่จะขอบอกว่าผิดหวังกับงานชิ้นนี้มากครับ แม้จะเป็นแค่ภาพตุ๊กตา ผมก็ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะป็นพี่อิมโพสต์บทนี้
19 กุมภาพันธ์ 2550 15:00 น. - comment id 659258
You've got a friend
19 กุมภาพันธ์ 2550 17:14 น. - comment id 659311
ก่อนอุษาจะสาง ..๏ บ น ล า น จั น ท ร์ รั ญ จ ว น อ บ อ ว ล รั ก เ ยื่ อ ใ ย ถั ก แ ท น แ พ รบ า ง ห่ ม ร่า ง ข วั ญ ร า ต รี เ ริ่ ม ม น ต์ ร่ำ ส า น สั ม พั น ธ์ ก ร ะ ซิ ก สั่ น ก ร ะ ซิ บ แ ก้ ว เ พี ย ง แ ผ่ ว เ บ า แ ส ง จั น ท ร์ น ว ล เ นื้ อ เ นี ย น ใ จ เ จี ย น ข า ด ไ ฟ ส ว า ท อ่ อ น โ ย น แ ต่ โ ช น เ ผ า เ นื้ อ ต่ อ เ นื้ อ อิ ง แ น บ แ อ บ อุ่ น เ น า ก า ย ใ จ เ ร า ร่ ว ม ผ ส า น ห ว า น ล ะ มุ น โ ด ย ดื่ ม ด่ำ ล้ำ ลึ ก รู้ สึ ก ไ ด้ ล่ อ ง ล อ ย ใ น ค ว า ม ฝั น อั น อ บ อุ่ น ทุ ก นุ่ ม น ว ล เ ส น่ ห์ เ นื้ อ เ ธ อ เ จื อ จุ น ค ว า ม ห อ ม ก รุ่ น ก ล่ อ ม ใ ห้ ใ จ ร ะ รั ว ร า ว ค ลื่ น โ ถ ม โ ล ม ห า ด ไ ม่ ข า ด ส า ย จ น ห ลื บ ท ร า ย ซั บ ฟ อ ง เ จิ่ ง น อ ง ทั่ ว ห ย า ด น้ำ ผึ้ ง พ ร ะ จั น ท ร์ ยิ่ ง ก ลั่ น ตั ว ยิ่ ง พั น พั ว พ ร่ำ พ ล อ ด ต ล อ ด คื น ๚ะ๛ มีบางอย่างทำให้รู้สึกเหมือนเผชิญกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อสักสามปีก่อน ๓ มิถุนายน ๒๕๔๗ .. กับบทอัศจรรย์ ก่อนอุษาจะสาง คราวนั้น ก็ถูกติงเหมือนกันจากเนื้อนัยกลอนที่คนอ่านไปพร้อมกับนึกภาพตาม ภาพของสาวน้อยกับผ้าแพรบางเบา นอนยิ้มปริ่มสุข มือถือดอกไม้ละเลียดผิวน้ำ มองกี่หน ก็ยังตรึงใจ .. ส่วนอักษรที่ลงเป็นกลอนกำกับไว้ .. อ่านที่ที ก็ยังชอบ ตอนนั้น .. ก็ได้เขียนความรู้สึกบรรยายลงไปเยอะ ด้วยความที่อยากอธิบาย ต่างกับคราวนี้ .. ที่มีความรู้สึกเนือย ๆไม่อยากอธิบาย เอาเป็นว่า .. ทุกคนมีอิสระในความคิด และต่างคนต่างเคารพความคิดซึ่งกันและกัน ไม่ก้าวก่าย ไม่ล้ำเส้น ไม่ครอบงำความคิดใคร.. เท่านี้ ก็น่าจะสร้างความสุขได้ในระดับหนึ่งแล้ว ภาพบ่งบอกศิลป์ศาสตร์ประหลาดล้ำ พิศพลาดพลั้งจิตลามหวิวหวามไหว เพ่งโดยตรองมองผ่านมังสาไป ผลลัพธ์ได้แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ไร้ภูษาพันกายคล้ายอ้างว้าง แลเรือนร่างก่อชนวนชวนหลงเหลิง บ้างแลภาพร้อนรุ่มดั่งสุมเพลิง บ้างแค่เบิ่งแล้วผ่านไม่ลานตา มีอารมณ์,ไร้อารมณ์ ...เมื่อชมภาพ อาจซึมซาบซ่านทรวงเพ้อห่วงหา แต่คนปลงมองไปคล้ายเฉยชา ก็นานาคิดไปไม่กะเกณฑ์ ส่วนเรานี้ไร้อารมณ์จะข่มขัด และปราศปัดใดใดไม่เต้นเขน ใช่อวดอ้างโวหารขานจัดเจน เรื่อง ดัง-เด่น .. ขออภัย ไม่เคยคิด มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
19 กุมภาพันธ์ 2550 19:04 น. - comment id 659344
ความรักเป็นเีพียงมายา ไร้ค่าควรการจารไว้ หากพยายามลืมเพียงใด ัยังเหลือเยื่อใยให้ผูกพัน .. .. ดู เอ๊ย อ่านแล้วได้อารมณ์จะตายไป .. อิอิ
20 กุมภาพันธ์ 2550 09:33 น. - comment id 659600
เสียงเพลงแห่งรัตติกาลกังวานก้อง รินลอยล่องเร้าฝันอันหวามไหว สัมผัสแผ่วรอบรัดสัมผัสใจ พาล่องไหลธารคำร้อยทำนอง ใต้อำนาจราตรีสีนิลดำ แผ่ครอบงำจินตนาการผสานสอง สู่หนึ่งกายตรึงติดสนิทครอง เคล้าเสียงร้องเพลงสวรรค์ลั่นราตรี หลับตาลงลืมโลกซึ่งโศกสร้าง ทิวาจางจืดแจ้งไร้แสงสี เบือนหน้าสู่เสียงศัพท์อันลับลี้ เร้าอารมณ์สานชีวีสร้างชีวิต ดื่มความหวานสัมผัสแห่งสัตว์โลก ไล้ลมโบกวาดสวรรค์อันวิจิตร ขับขานเพลงบทงามตามความคิด เนรมิตนิยามแห่งความรัก
20 กุมภาพันธ์ 2550 10:27 น. - comment id 659626
เอาเป็นว่า .. ทุกคนมีอิสระในความคิด และต่างคนต่างเคารพความคิดซึ่งกันและกัน แต่พี่อิมลืมเคารพตัวเอง ที่ครั้งนึง เป็นถึงวิทยากรจัดโครงการค่ายเยาวชน จึงไม่รับผิดชอบในภาพอนาจารที่ลงกับสื่อสาธารณะ พี่เคยเป็นคนหนักแน่น ทำไมเหลาะแหละใช้แต่อารมณ์ไม่ใช้เหตุผล สิทธิ์พี่ กับสื่อสาธารณะ กวีต่อให้เขียนร้อยพันคำ ก็ไม่ตรงเหมือนสื่อภาพ ทำไมพี่ไม่เข้าใจ เรื่องแบบนี้ พี่อยู่กับสื่อพี่ก็รู้ ถ้าหายจากอารมณ์นั้นแล้ว กรุณาพิจารณาใหม่ด้วยครับ ผมอาจจะพูดผิดก็ได้
20 กุมภาพันธ์ 2550 16:16 น. - comment id 659962
คุณปราการสมุทร .. กรรมคู่สร้างธรรมคู่ก่อถักทอรัก เราตระหนักและซาบซึ้งพึงประสงค์ หากรักเล่ห์มาลวงหลอกบอกใจปลง รักทิ้งลงก้นแม่น้ำ.. มินำพา คุณเฌอมาลย์ .. เป็นเพียงภาพที่ชวนสวนกระแส แต่นัยแท้ซ่อนไว้รอใครเห็น อาจปราศผู้เข้าใจในประเด็น มันก็เป็นสิ่งธรรมดาแสนสามัญ คุณครูพิม .. แกร่งแล้วต้องซ่อนระทมข่มขัดขืน เด่นแล้วต้องยิ้มระรื่นแม้นขื่นขม ดังแล้วต้องหัวเราะได้แม้นใจตรม ฤๅจะสมความเป็นฉัน.. อัลมิตรา คุณท่องเมฆา .. แต่ละถ้อยคำฝากเหมือนยากเข็ญ ท่านหลบเร้นห่างหายคล้ายเลือนฝัน พิศภาพสาวร้าวใจให้รำพัน สร้างสีสันภาพจริงแท้ ?.. ไม่แน่ใจ คุณศรรกรา .. เพราะใส่ใจเกินไปใจจึงเจ็บ กล้ำกลืนเก็บยอมทนมิบ่นไหน เพราะมันยากยิ่งกว่ายากหากพูดไป กลัวหัวใจจะยิ่งเจ็บจึงเก็บคำ คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. ไม่มีความทรงจำอันล้ำค่า เสียเวลาคิดย้อนนอนฝันหวาน ป่วยการพูดพร่ำเพรื่อเบื่อรำคาญ เรานั้นผ่านแล้วหายไม่คิดคืน คุณกุหลาบขาว .. อัลมิตรารู้สึกตาลาย ประหนึ่งว่าปฐพีสะเทือนอย่างมีสาเหตุ คุณผู้หญิงไร้เงา .. แล้วจะเข้าใจว่า จบ ๆ กันไปแล้ว สุขขึ้นกว่าเดิมทันที
20 กุมภาพันธ์ 2550 17:16 น. - comment id 660010
การสื่อให้บุคคลอื่นเข้าใจอย่างที่เรา (ผู้เขียน) เข้าใจ อาจไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะภาพและบทกลอนที่ดูเหมือนแย้งกันอยู่บ้าง กล่าวคือ ๑. บทกลอน สะท้อนถึงอาการไร้ความรู้สึก (หมดอารมณ์) แต่รูปภาพ อาจก่อให้เกิดความรู้สึกได้ต่าง ๆ นานา ๆ ตามแต่พื้นฐานจิตใจแต่ละคน ๒. บทกลอน สะท้อนถึงลักษณะของบุคคลที่มีอาการไม่ปรารถนาอีกต่อไป แต่รูปภาพอาจก่อให้เกิดแรงปรารถนาได้ ๓. บทกลอน สะท้อนถึงมุมมองของคนเขียน ในลักษณะที่ตัดเยื่อมิเหลือใย แต่รูปภาพอาจก่อให้เกิดเยื่อใย ๔. บทกลอน สะท้อนให้เห็นสัจจะ คือความเปลี่ยนแปลง ไม่คงที่ แต่รูปภาพ ก็อาจก่อให้เกิดการสะท้อนกลับไปหวนหาในอารมณ์ที่บทกลอนปฏิเสธนั้น อิสระและเสรี ถ้ามีกรอบที่สมควร จะสวยงามและมีคุณค่า น่าจดจำ และบันทึกในวันเวลา
20 กุมภาพันธ์ 2550 22:30 น. - comment id 660210
คุณนิค .. เมื่อตามองคล้องภาพตาวาดคิด จะถูกผิดสุดตาที่แตะต้อง ย่อมต่างตาต่างตนต่างคนมอง ย่อมเกิดสองศิลป/อนาจาร เมื่อใจมองใจมีมโนภาพ ละเอียด/หยาบ กรองแยก แปลก ประสาน จึงเรื่องตากับใจ ใดประการ ให้พิชานชัดชอบจักขอบคุณ คุณลักษมณ์ .. คืนพิเศษ คนพิเศษ .. เป็นหนังสือที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ อัลมิตราอ่านจบแล้ว ได้สาระและแง่คิดมากมาย และสามารถนำมาเป็นบทวิเคราะห์,ปรับ ชีวิตตนเอง ผู้ที่ให้แง่คิดทั้งหกท่าน ซึ่ง ณ ตอนนี้ อีกท่านได้ล่วงลับจากลาพวกเราไป ในที่สุด .. ท่านก็ยังเป็นครู ซึ่งจากไปแต่ตัว ทว่า ทุก ๆ คนยังระลึกถึงหัวใจของท่านอยู่ ขอบคุณมากค่ะ สำหรับการยื่นโอกาสดี ๆ ให้เรียนรู้ และขอบคุณอีกครั้งในความมีน้ำใจ รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายจะมอบให้กับวัดพระบาทน้ำพุ ศรัทธาหัวใจคุณเช่นกันค่ะ คุณกีกี้ .. มองภาพแล้วได้ใดในความคิด โดยดวงจิตหรือตาพาซ่านไหว เราลงภาพด้วยเจตนาว่าไร้ใจ เพ่งทีไรก็ปราศซึ้งถึงอารมณ์ คุณม้าลาย .. ถ้อยทำนองรัตติกาลอันหวานซึ้ง บทรำพึงความรักสมัครสมาน ม่านราตรีคลุมฟ้าพาเบิกบาน บางใครขานบทเพลงบรรเลงรัก อีกหนี่งถ้อยทำนองพ้องเพลงเศร้า น้ำเสียงเราปราศใครใคร่รู้จัก ยามโดดเดี่ยวเดียวดายไร้คู่ภักดิ์ ถูกชนักแทงใจใกล้ตายแล้ว คุณคนตัวเล็ก .. ภายใต้ความอ้างว้างร้างเรื่องรัก จิตจมปลักความเหงา,เศร้า,สับสน วางภาพแทนสื่อได้ มิใช่คน อีกสกนธ์คืออิสตรีที่เป็นเรา สองแขนกางอย่างโหยอิดโรยแรง หน้าเสแสร้งสุขพริ้มยิ้มยั่วเย้า ก็เพียงซากยืนเด่นเฉกเช่นเงา วิญญาณเล่าอยู่ไหน .. ไม่รู้เลย ไร้อารมณ์อุตริภิรมย์ร่าง คือช่องว่างความนัยใคร่เฉลย มองด้วยจิตเห็นศิลป์ลิ้นเราเปรย มองด้วยตาอาจเย้ยอนาจาร แตกต่างในความคิดเมื่อพิศภาพ เราย่อมทราบแก่ใจในสงสาร ทั้งสำนึกในกมลคนเขียนกานท์ หาใช่เราดื้อด้านฤๅย่านใด
21 กุมภาพันธ์ 2550 17:12 น. - comment id 660607
แตกต่างในความคิดเมื่อพิศภาพ เราย่อมทราบแก่ใจในสงสาร ทั้งสำนึกในกมลคนเขียนกานท์ หาใช่เราดื้อด้านฤๅย่านใด สนับสนุนพูนเพิ่มเพื่อเติมรส ประกอบบทอรรถรสให้สดใส บนอักษรร้อนภาพให้ทราบนัย อยู่ที่ใครใจกว้างระหว่างมอง อยากจะวอนคนดูรู้สักนิด โปรดอย่าคิดติดใจให้หม่นหมอง เป็นเนื้องานกานท์เสริมเติมทำนอง โปรดอย่ามองคนแต่งแปลงเป็นชี...อิ อิ อิ ซำบายดีบ่...... วันนี้อัลมิตรา หรือคุณกวนอิม ... เอ้ย...คุณอิม โดนแฟนคลับว่าซะแร้ว อิ อิ อิ เห็น จาย เห็น จายยยยยยยยย
21 กุมภาพันธ์ 2550 22:08 น. - comment id 660665
คุณแมวน้ำ (นายพระจันทร์) .. ไม่รู้สึกสับสนโดนกดดัน คงสุขสันต์เสมอต้นชนปลายนี่ โปรดอย่ามองคนแต่งแปลงเป็นชี โธ่!!..หลวงพี่หยอกมาได้ไม่อายคน
21 กุมภาพันธ์ 2550 23:29 น. - comment id 660717
"นับแต่นี้ทางใครก็ทางมัน" เธอกับฉันต้องห่างร้างรอยฝัน แม้หญิงใดในพิภพจบโลกันต์ มิเคยสั่นใจชายได้เหมือนเธอ เดินคอตกหัวทิ่มยิ้มแห้งแล้ง สวรรค์แกล้งหรือไรใจจึงเผลอ ไปหลงรักคลั่งไคล้ใฝ่บำเรอ ต้องเขินเก้อเธอขอโทษ"หมดอารมณ์" เกมจบต้องชัดดาวน์
22 กุมภาพันธ์ 2550 16:51 น. - comment id 661233
คุณฤกษ์ :) ทำเป็นหว่านหวานหยดแท้หมดรัก เราประจักษ์เล่ห์ลวงแสร้งห่วงหา แท้หญิงอื่นมากมายรอชายตา ยังมีหน้าคร่ำครวญชวนเห็นใจ
23 กุมภาพันธ์ 2550 10:29 น. - comment id 661697
นี่แสดงว่ายังไม่ได้อ่านที่แจมไว้ในจินตนาการที่มืดมน ตั้งใจรอยี่สิบปีเชียวนะ
23 กุมภาพันธ์ 2550 11:38 น. - comment id 661745
อีกยี่สิบปีเชียว .. ถึงตอนนั้น คุณจะเบื่ออัลมิตราหรือยัง ?
26 กุมภาพันธ์ 2550 16:58 น. - comment id 662881
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ผมขอวิจารณ์บ้างอย่างไม่เกรงใจใคร ๆ ทั้งสิ้นนะคับ แต่ก่อนอื่นใดผมคงต้องกล่าวนำก่อนสักนิดว่า ผมไม่ใช่ผู้เก่งกล้าแต่อย่างไร แต่ถึงกระนั้นผมก็พอมีความรู้ทางด้านศิลปะอยู่บ้าง เพียงแรกเห็นรูปที่พี่อิมนำเสนอพร้อมกับบทกลอนไร้-อารมณ์ เมื่อพินิจความหมายของภาพประกอบ ผมมิได้รู้สึกเคืองคุ่นแต่อย่างใด มิได้รู้สึกสะเทือนอารมณ์ หรือถูกกระตุ้นสักเพียงแต่น้อย เนื่องจากความหมายของภาพแม้ผู้หญิงที่ปรากฏในรูปจะมีท่าทีอันเชิญชวน แต่สีสันที่ปรากฏบนเนื้อนางนั้นกลับให้ความรู้สึกขัดแย้งไปอย่างเห็นได้ชัด เมื่อพินิจบทร้อยกลองเบื้องล่าง ยิ่งกลับไม่ได้มีการกระตุ้นหรือนัยที่สะท้อนความปนเปื้อนด้วยกิเลสลึกแต่อย่างใดเลย ดังนั้นเมื่อภาพที่ถูกขนาบด้วยบทร้อยกรองบทนี้ ก็น่าจะทำให้ผู้อ่านมีกรอบคิด หรือเข้าใจความหมายของสองสิ่งได้ หากจะพิจารณาเรื่องความเหมาะสมกับสื่อสาธารณะ ผมก็เห็นอยู่ทั่วไปในหน้าจอโทรทัศน์ที่สสื่อไร้จรรยาบรรณยั่วยุให้เกิดกิเลสทางอ้อม ไม่ว่าจะสะท้อนผ่านงานโฆษณา ละคร หรือตาง ๆ อีกมากมาย เฉพาะโฆษณาก็ปาเข้าไปแล้ววันละเกือบ 5-6 ชั่วโมงโดยประมาณที่เนื้อหาสาระเกี่ยวกับเซ็กและการกระตุ้นอารมณ์ ความจริงแล้วงานศิลปะอยู่บนพื้นฐานทางด้านจิตใจ หากรู้อ่านรู้เป็นอย่างแท้จริง มิคิดตำหนิเพียงรู้จักวินิจวิจารณ์อย่างลงลึกในรายละเอียดผมว่า กระทู้นี้คงไม่ร้อนแต่อย่างใด อีกประการสำคัญ เพียงการเสนองานในนี้ ผมคิดแต่เพียงว่าทุกสิ่งคืองานสร้างสรรค์ มิใช่การมอมเมากิเลส เพราะด้วยการรังสรรค์งานของผู้เขียนไม่เพียงแต่พี่อิม แต่คนอื่น ๆ ผมเชื่อว่า มิได้มีเจตนาร้ายต่อสังคมแต่อย่างใดเลย ขอบคุณที่เสียสละเวลาอ่าน
27 กุมภาพันธ์ 2550 12:59 น. - comment id 663248
คุณกวีปกรณ์ .. จะให้อัลมิตราตอบว่าไงดีนะ ตอบว่า .. " เฮ้อ ก็ยังดี ที่มีคนเข้าใจ " ได้ป่าว