ชืดชา แหวกว่ายทะเลน้ำตา แหวกว่ายความเหว่ช้าจนชืดชิน เปลี่ยวเหงา ฉันคือสายลมเบาใช่เสาหิน คือต้นไม้ใช่นกกางปีกบิน รอคอยตราบสิ้นกาลเวลา ฟ้ากว้าง ความอ้างว้างเหมือนใหญ่ยิ่งกว่าฟ้า เป็นต้นไม้ในสายลมที่พัดพา รดรากด้วยน้ำตาจากกิ่งใบ ความฝัน ผ่านวันผ่านคืนจะตื่นไหม ผ่านรักผ่านร้าวมาเท่าไร ค่อยช้ำค่อยชินไปจนชืดชา
21 มกราคม 2550 14:46 น. - comment id 648079
มีกระดานฟองน้ำอยู่หนึ่งแผ่น มาชวนพี่โลดแล่นโต้คลื่นหวัง ในทะเลน้ำตาทำนบพัง ริมฟากฝั่งด้านชาที่ล้าแล้ง มีลมรักพัดโบกสะพัดคลื่น มีวันคืนสุขทุกข์ทุกทุกแห่ง มีรอยยิ้มเรื่อยไปไว้เติมแรง ใต้ตะวันสาดแสงให้อุ่นไอ แต่ก็มีปากหอยคอยบาดเท้า หินโสโครกก็ไม่เบาถ้าเท้าใกล้ อ้ออีกอย่างน่ากลัวกระพรุนไฟ(มะรุเขียนถูกป่ะนะพี่) ถ้าไม่เจอก็ปลอดภัยไม่แสบร้อน ว่าจะจินตนาการด้านชาแจมบทกวีชืดชาพี่ซะหน่อยออกทะเลซะแระ แต่ก็แจมครับ
21 มกราคม 2550 19:07 น. - comment id 648141
ชาจริง .. ก็คงไม่ปริปากหรอก .. ..
22 มกราคม 2550 07:27 น. - comment id 648264
กว่าจะชาได้ ก็น้ำตานองนะคะ เข็ดไหมเนี่ย อิอิ