ดั่งโคลนตม ความผูกพันสัณฐานสรรค์สิ่งสร้าง สิ่งกระจ่างวาวแววแพรวสดใส ความอ้างว้างกลางวิจิตรติดไฉไล ล่วงเลยไปในอุทาหรณ์สอนให้จำ หยาดน้ำใสน้อยนิดหวังคิดสู่ สิ่งเลิศหรูเจิดหล้าดุจฟ้าร่ำ ระโรยรินกลิ่นหอมเข้าย้อมนำ ปรุงความล้ำนำมาต้องพาครวญ กว่าจะผุดฉุดชีวิตแล้วติดแฉก เป็นรอยแยกแตกทางพลางกลับสวน รสหวานขมปมปริศนามาชักชวน มิทบทวนหวนชโลมดั่งตมโคลน ความพิสุทธิ์ดุจเทียนเข้าเวียนส่อง ไร้สิ่งสนองต้องพินิจดังชีวิตโขน ส่ายระบำลิงยักษ์มักถูกโยน ต้องห้อยโหนโยนทะยานเข้าบั่นทอน ความมีสุขคลุกเคล้าเข้าพร่ำพรอด สิ่งอ้อนออดอ่อนหวานปานหลอกหลอน สะท้อนห้วงล้วงไว้ยามได้นอน สร้างอาวรณ์ผ่อนอารมณ์แล้วบ่มทุกข์ เกิดเป็นมนุษย์รุกข์ชาติธาตุทั้งสี่ ย้อมชีวีมีอะไรที่ให้สุข เกิดจากดินสิ้นแล้วพร้อมแนวรุก ต้องเคล้าคลุกปลุกผีนั่งระวังตน. *** แก้วประเสริฐ. ***
11 ธันวาคม 2549 12:58 น. - comment id 634903
เกิดมาแล้ว ก็ต้องตาย มิวายโศก สุดวิโยค ดวงใจ ให้ฉงน บุญมิทำ กรรมชอบสร้าง บ้างหนอฅน ไยวกวน กับกิเลส สร้างเหตุนำ....
11 ธันวาคม 2549 13:11 น. - comment id 634907
"สวัสดีค่ะคุณลุง"...... เป็นคนต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ให้ได้ค่ะ... ไม่ว่าเรื่องดีหรือเรื่องร้าย ๆ เพราะ เราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร......
11 ธันวาคม 2549 09:50 น. - comment id 635034
ชีวิตมีเพียงเท่านี้ที่ให้คิด คิดถูกผิดคิดใหม่ใจอย่าหลง ที่ผ่านมาให้ผ่านไปใจมั่นคง เลิกลุ่มหลงสิ่งรอบข้างห่างออกมา .............................................
11 ธันวาคม 2549 10:07 น. - comment id 635036
คุณ ยายแม่มด ยามหลงรักยากนักเข้าหักถอน มิอาจรอนผ่อนคลายในสิ่งหวัง รู้แสนรู้ดูประหนึ่งซึ้งใจจัง แต่ก็ยังหลงเพ้อละเมอครวญ. แก้วประเสริฐ.
11 ธันวาคม 2549 10:46 น. - comment id 635043
สบายดีนะครับลุงแก้วฯ...
11 ธันวาคม 2549 11:15 น. - comment id 635048
เกิดเป็นคน ไม่พ้นเวียน ว่ายตายเกิด อย่ามัวเพลิด กับสมบัติ พัสถาน อย่ายึดมั่น ในทรัพย์สิน กินไม่นาน ละสังขาร สิ่งที่ได้ คือชั่วดี *******สวัสดีค่าคุณลุงแก้ว*********
11 ธันวาคม 2549 11:24 น. - comment id 635050
คุณ บินเดี่ยวหมื่นลี้ สวัสดีครับท่านพระยาครุฑ คิดถึงจังเลยไม่ค่อย ได้พบกันนานแล้ว ผมเองมัวว้าวุ่นในการแต่ง เทพนิยายอยู่นานๆจะมาทางด้านกลอนนี้ครับ คิดว่าคงปีใหม่ไปแล้วว่าจะไปเที่ยวเชียงใหม่ อีกหนนะครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
11 ธันวาคม 2549 11:27 น. - comment id 635051
คุณ ศรรกรา สวัสดีครับคุณ ศรรกรา ชีวิตคนอย่างเราก็เท่านี้ ย่อมผันผวนชีวีที่หลากหลาย ยากหรือจนข้นแค้นลำบากกาย ด้วยสิ่งทั้งหลายยวนยั่วตัวหมุนเวียน. ครับเป็นสัจจะธรรมแท้จริงครับขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
11 ธันวาคม 2549 11:27 น. - comment id 635052
เกิดเป็นคนวนว่ายในวัฏฏะ รู้ลดละละโมบสิ่งโลภหลง รู้จักพอรู้ประมาณเมื่อปราณคง อานิสงส์ผลบุญเกื้อหนุนนำ
11 ธันวาคม 2549 11:36 น. - comment id 635054
คุณ เฌอมาลย์ เมื่อรู้ละเลิกหลงจงคงไว้ ให้อยู่ในศีลธรรมแล้วร่ำขาน ปฏิบัติทุกเวลาอย่าช้านาน อีกไม่นานสวรรค์พบจบลำเค็ญ. จ้าเจ้าหญิงที่รัก แก้วประเสริฐ.
11 ธันวาคม 2549 12:50 น. - comment id 635068
เพราะเป็นเพียงมนุษย์สุดธรรมดา เพราะสิ่งแวดล้อมนำพาให้ว้าวุ่น เพราะมีกิเลสเป็นต้นทุน จึงนำพาใจให้ขุ่นหนุนอบาย ................. เพราะสิ่งเร้าเผาใจให้สับสน เพราะผู้คนปนเปหักเหร้าย เพราะเจอะเจอเรื่องราวมากมาย ใจจึงล้าหาความหมาย...ชีวิตคน ................. เมื่อได้คิดถูกผิดที่เคยผ่าน เมื่อได้อ่านหลักธรรมนำมรรคผล เมื่อได้รู้...ก็แค่นี้ชีวิตคน.... หากไม่อยากต้องทุกข์ทน...อยากหลุดพ้น...แค่ปล่อยวาง....... ................. ...........มาทักทายอ่ะจ้า ชักหิวข้าวหล่ะ อิอิ
11 ธันวาคม 2549 13:43 น. - comment id 635083
..ชีวิต..คือ..ธรรมชาติค่ะ...สุดท้ายเราก็ต้องกลับคืนสู่ธรรมชาติ..เช่นเดิม... ..หากเราทำตัวแบบธรรมชาติ...รู้เท่าทันชีวิต..และปรับตัวได้ก็จะมีแต่ความสุขใจ.. ..ราชิกา..หายไปนาน..เพราะภารกิจ..กลับมาด้วยความคิดถึงค่ะ..(ไปประชุมต่ออีก 3 วัน )..ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ..แฝดเพื่อน..
11 ธันวาคม 2549 15:12 น. - comment id 635092
คุณ เจน_ จัดให้ ด้วยมนุษย์ติดกิเลศเหตุผลสร้าง มิกระจ่างทางเดินเพลิดเพลินหนอ ภายในตัวนอกตัวหลงมัวพะนอ ฝันแต่ขอพระเจ้าเฝ้านำทาง จึงเกิดผลดลกรรมเข้านำผลิต ก่อลิขิตผิดเภทเหตุสะสาง หลงในรูปเสียงรสหมดรอบทาง จนอ้างว้างเดียวดายคล้ายคนเมา พอพลิกฟื้นตื่นมาชักช้าแล้ว เหมือนเรือแจวในอ่างช่างโฉดเขลา ระลึกตัวมัวกำหนดจรดเบาเบา ดูแต่เขาเฝ้ารอโอ้หนอกู. ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยม แก้วประเสริฐ.
11 ธันวาคม 2549 15:17 น. - comment id 635093
คุณ เบรฟฮาร์ท อันความตายมลายสิ้นแผ่นดินนี้ ทุกชีวีเกิดมามิน่าฉงน มัวแต่เฝ้าหลงรักเข้าหักกมล พอเข้าตนกระวนกระวายให้เกิดกลัว. แก้วประเสริฐ.
11 ธันวาคม 2549 15:23 น. - comment id 635094
คุณ whitelily สวัสดีครับนับวันผันแปรเปลี่ยน โลกหมุนเวียนเลียนหลอกเข้าตอกย้ำ ทั้งดีชั่วมั่วนิ่มแล้วทิ่มตำ เกิดความช้ำซ้ำเติมไว้ในอนิจจัง. แก้วประเสริฐ.
11 ธันวาคม 2549 15:28 น. - comment id 635097
คุณ ราชิกา ธรรมชาตินำชีวิตแล้วผลิตสร้าง ทั้งกระจ่างมืดดำแล้วนำสนอง หากรู้ทันสิ่งทั้งหลายไม่ลำพอง เข้าประคองจิตไว้จะได้ธรรม. จ้าเขากล่าวไว้ทำอะไรอย่าเกินตัวนะจ๊ะ สิ่งดี นั้นพลันเป็นร้ายไปทันที รักเป็นห่วงเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
11 ธันวาคม 2549 18:09 น. - comment id 635136
ชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่ค่ะคุณแก้ว วันนี้อาจจะอยู่ในโคลนตม แต่พรุ่งนี้อาจจะผุดจากโคลนตมได้ค่ะ แต่ผลสุดท้ายและวาระสุดท้ายแล้ว คงไม่มีอะไรเหลือแม้เพียงเศษเถ้าค่ะ
11 ธันวาคม 2549 18:32 น. - comment id 635149
วันนี้แวะมาชมค่ะ เพิ่งกลับมาจากไหว้ครูค่ะ..เหนื่อยจัง..
11 ธันวาคม 2549 21:02 น. - comment id 635176
คุณ แม่มดใจร้าย ชีวิตคนเรานั้นจะเอาอะไรแน่นอนนั้นยากยิ่ง อย่างที่คุณว่าครับวันนี้พ้นจากโคลนตมแต่พรุ่งนี้ อาจกลับไปสู่ที่เดิมอีก ดั่งคนเราเมื่อสิ้นสุดผลกรรม ชีวิตก็กลายเป็นดินไปอีกวาระหนึ่ง ฉะนั้นสิ่งที่จะทำ คือสิ่งที่ดีพอจะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวแก่เราได้บ้างคือ ใจเราที่ต้องหมั่นตรวจตราไตร่ตรองเสมอครับให้ หลุดพ้นเท่าที่สามารถจะทำได้ครับ ขอบคุณมาก แก้วประเสริฐ.
11 ธันวาคม 2549 21:15 น. - comment id 635180
คุณ กุหลาบขาว ขอแสดงความยินดีต่อผู้ที่มีความกตเวทิคุณยิ่ง ผมขอแสดงความเคารพแก่ผู้บุคคลนี้มาก เพราะว่า ครูบาอาจารย์เป็นผู้ทรงคุณแก่เราอย่างมหาศาลรอง จากพระคุณพ่อแม่ของเราที่ห่วงใยเอื้ออาทรการุณจน เราใช้วิชาความรอบรู้ประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัว สืบทอดกันมา คนที่ถึงซึ่งความกตเวทิคุณย่อมเป็น ผู้ควรแก่การเคารพเป็นย่อมเป็นบุคคลที่ดีได้คน หนึ่งครับ ความเหนื่อยคงจะหายไปนะครับ แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2549 04:29 น. - comment id 635210
หนูอยากตายอ่ะคุณลุง คริๆๆ (พูดเล่น) สวัสดีคะคุณลุงสบายดีนะคะ ไม่ได้เจอะกันนานสบายดีนะคะ ดูแลตัวเองนะคะ เป็นห่วงและคิดถึงเสมอ
12 ธันวาคม 2549 07:53 น. - comment id 635236
ปลุกผีนั่ง....ระวังตน กานต์ไม่เข้าใจค่ะคุณลุง ช่วยอธิบายกานต์นะคะ ขอบคุณค่ะ
12 ธันวาคม 2549 15:01 น. - comment id 635357
%36 คุณ แสงไร้เงา อย่าพึ่งตายนะชีวิตนี้ยังมีอะไรๆให้เล่นเสมอๆ ขอบคุณแก่แล้วก็อย่างนี้แหละร่างกายเรามันไม่ ค่อยจะรับกับใจเสียเลยจ๊ะ หวังว่าสบายดีนะคิดถึง แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2549 15:06 น. - comment id 635363
คุณ เพียงพลิ้ว "ต้องเคล้าคลุกปลุกผีนั่งระวังตน" หมายความถึงว่าเมื่อเกิดมาแล้วประกอบด้วยธาตุ ทั้งสี่เกิดมาหาความสุขไม่ค่อยจะได้แล้วก็ต้องสิ้นไป เป็นดินไปหมดระหว่างมีชีวิตอยู่ก็อยู่ในแวดวง ของการหลอกลวงทั้งสิ้นหาความจริงใจกันได้ยาก ดั่งผีคนที่คอยหลอกหลอนจ้าก็จำต้องร่วมอยู่ด้วยกัน. แก้วประเสริฐ.
12 ธันวาคม 2549 15:48 น. - comment id 635407
เมื่อธาตุสี่ขันธ์ห้ามาบรรจบ ทุกอย่างครบคือคนบนโลกหล้า เมื่อขันธ์แยกธาตุย้ายมรณา เหลือชั่วดีตีตราชี้ค่าคน
12 ธันวาคม 2549 21:16 น. - comment id 635522
คุณ มนต์กวี ไม่ได้เจอกันนานสบายดีหรือครับนักร้อง ครับกลอนคุณบ่งบอกได้จัดแจ้งจริงๆครับราว กับบวชเรียนเป็นมหามานะครับ คิดถึงเสมอ แก้วประเสริฐ.