เสียงไพเราะเสนาะแสนลายแคนเศร้า คล้ายวอนเว้าแว่วหวานผ่านลมไหว กังวานยิ่งพริ้งเพราะกัดเซาะใจ คนอยู่ไกลชื่นชมคมแคนครวญ ลายแคนหลากทำนองล่องลมผ่าน คนไกลบ้านฟังซ้ำซ้ำแคนกำสรวล ลายเศร้าซึ้งถึงแก่นแสนรัญจวน อยากกลับหวนคืนบ้านอีสานงาม แคนร่ายมนต์กัดกร่อนอ้อนใจสาว แคนผู้บ่าวบ้านไหนชวนไหวหวาม แคนสะกดใจเริ่มเคลิบเคลิ้มตาม แคนคือความภูมิใจในแดนดิน เพลงแคนร่ายลายหวานผ่านลมดึก ทำนองคึกเป่าเพิ่มแต่งเติมศิลป์ คมแคนล้อมหอมจรุงปรุงประทิน อบอวลกลิ่นเพลงฟ้ามากำนัล หลงเสียงแคนแทนใจไทยอีสาน สืบตำนานดนตรีมีสีสัน ศาสตร์แห่งความรื่นเริงเชิงประพันธ์ แสนสุขสันต์ยินยลมนต์เพลงแคน
16 พฤศจิกายน 2549 07:46 น. - comment id 627320
16 พฤศจิกายน 2549 07:51 น. - comment id 627325
คำว่า "คิดถึง" ไม่ซึ้งหากแค่คิด แต่เป็น "มิตร" ที่ดีคือคำขาน หากเป็นได้จริงดังคำต้องการ เรายินดีเล่าขานทั้งสุขและทุกข์... สวัสดีจ้า....ไม่ได้เข้ามาเสียหายวันคงไม่คิดถึง เพื่อนมากใช่ไหมจ้า.... อย่าลืมทานข้าวนะค่ะ เดี๋ยวผอมเพื่อนจะเป็น ห่วง......
16 พฤศจิกายน 2549 07:56 น. - comment id 627329
มาฟังเสียงแคน แบบคนใจร้าย น้องกานต์ว่ามั้ย ไยพี่ร้ายจัง อย่าถืออย่าโทษ อย่าโกรธเลยนั่น แม่มดร้ายจัง อย่างที่ไม่เคย
16 พฤศจิกายน 2549 08:34 น. - comment id 627348
มาส่งเสียงแคนไพเราะเสนาะโสต กานต์จ๋า....โปรดฟังเสียงสดใส เสียงนี้บรรเลงเป็นเพลงจากหัวใจ ส่งให้คนที่รักในบทกลอน
16 พฤศจิกายน 2549 08:41 น. - comment id 627353
แวะมาทักทายค่ะ กลอนเพราะมากนะคะ
16 พฤศจิกายน 2549 08:41 น. - comment id 627354
กานต์จ๋า...ฝากให้พี่แมป่งด้วยนะจ๊ะ .....................น้องแก้มปุ๋ม
16 พฤศจิกายน 2549 08:48 น. - comment id 627355
แว่วเสียงแคนแสนเศร้าเร้าใจพี่ นวลฤดีเสียดสีใจให้พี่หมอง ถึงเสียงแคนแสนอ่อนหวานตามทำนอง ดั่งเหมือนกลองกระแทกทุบอกพี่ชาย **************
16 พฤศจิกายน 2549 09:02 น. - comment id 627366
ชอบเสียงแคน...มาก...และเสียงซึง พิณ...
16 พฤศจิกายน 2549 09:30 น. - comment id 627371
คมแคน.. บาดใจ...
16 พฤศจิกายน 2549 10:04 น. - comment id 627387
ชอบฟังเสียงแคนมาก ๆ ครับ อยากให้ใครสักคนมาเป่าให้ฟัง สวัสดีครับน้องเพียงพลิ้วที่น่ารัก หาให้พี่ได้ป่ะ
16 พฤศจิกายน 2549 11:18 น. - comment id 627412
พี่กานต์อย่าเข้าไปใกล้นะครับ มันจะบาดเอานะครับ ระวังด้วยละกัน คือพี่กานต์ช่วยแปลภาษาอังกฤษให้หน่อยครับ ห้าหน้าเอง คือจะให้เงินกินไอติมนะครับ..
16 พฤศจิกายน 2549 11:25 น. - comment id 627416
มาร่วม enjoy กับเสียงแคนด้วยคนนะจ๊ะ ต้องขออภัยด้วยจ๊ะ สำหรับเรื่องแคนนี่อ่ะ ยอมแพ้ อิอิ......
16 พฤศจิกายน 2549 11:26 น. - comment id 627417
คมแคน แทนใจ
16 พฤศจิกายน 2549 11:41 น. - comment id 627425
สวัสดีค่ะคุณรี ไวท์ลิลลี่ คิดถึงนะคิดถึง จะได้หนึ่งส่วนเงียบไหม หากบอกออกไป ว่าโม้ไม่ใช่ตัวตน มีคนบอกกานต์มาแบบนี้ค่ะ นานมาตั้งเป็นปีแล้ว ไม่รู้ทำไมยังจำขึ้นใจก็ไม่รู้ค่ะ คิดถึงคุณรีอยู่แล้วค่ะ ไม่คิดถึงได้ไง เรื่องทานข้าวไม่ต้องห่วงค่ะ ไม่ค่อยลืมเท่าไร อิอิ ขอบคุณนะคะคุณเพื่อน สวัสดีค่ะคุณน้องเฌอมาลย์ ฝากเสียงแคนแทนใจคนไกลบ้าน ฝากพรมผ่านเรียกวันชื่นให้คืนหวน ฝากทำนองล่องลมคมแคนครวญ ฝากใจชวนสาวบ้านไกลให้คืนเรือน พี่กานต์ชอบฟังหมอลำค่ะ ได้ฟังเสียงแคนด้วย ม่วนอีหลีเด้อ เดี๋ยวมีโอกาสจะพาไปเที่ยวค่ะ พรุ่งนี้นะคะ เล่นดนตรีได้หลายอย่างเลยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ สวัสดีค่ะพี่แม่มดใจดี หากเป็นคนใจร้ายมีทายทัก จะลอบดักเอาเสียงแคนแทนความหวัง มาบำบัดต่อเติมเสริมพลัง ฝากรักหยั่งบรรเทาความร้ายลง ฟังได้ทุกคนค่ะพี่แม่มดใจดี ชอบไหมคะเสียงแคนกานต์ แคยลายนี้เขาเรียกลายสุดสายแนนค่ะ ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะคุณยาย ร้อยรัก ฟังเสียงแทนแทนรักที่ถักก่อ ผ่านลมพ้อต้องใจชวนไหวหวาม เสียงแคนซับทุกข์ไปให้ใจงาม พาก้าวข้ามปัญหาที่ท้าทาย ขอบคุณนะคะคุณยายที่น่ารัก คุณแก้มป่องได้ยินแล้วค่ะคุณแก้มบุ๋ม สวัสดีค่ะคุณญ่ามินท์ ขอบคุณมากค่ะที่มาทักทายกานต์ แหม พี่สาวชมแบบนี้ กานต์ก็ยิ้มแก้มปริเลยสิคะ คิดถึงจังค่ะ คิดถึงทุกคนเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะพี่หนูศรรก ศรรกรา เสียงกลองก้องดังแทบคลั่งอก สะท้านสะทกดังกลบแคนแทนใจหมาย เคยรับฟังเสียงแคนแทนใจกาย แต่สุดท้ายที่ได้ฟังจังหวะร็อค อิอิ ดำน้ำไปหาพี่หนูศรรกแล้ว เห็นกานต์ป่ะคะ ขอบคุณมากค่ะ อย่าร้องน้า สวัสดีค่ะคุณสาวภูไท ชอบมากเช่นกันค่ะ คนอีสานนี่คะ ขอบคุณมากค่ะ สวัสดีค่ะพี่คนบนเกาะ คนนี้ก็เก่งค่ะ ลองฟังดูนะคะ พอไหวไหมคะจะเอาแบบหมอลำซิ่งก็ได้นะคะ กานต์ว่าเหมาะกับพี่มากกว่าค่ะ อิอิ ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะคุณตัวดี นึกว่าเจ้าตัวร้าย อิอิ พี่กานต์ไม่กลัวบาดมือหรอกค่ะ กลัวแต่บาดใจ อิอิ ส่งเมล์มานะคะ พี่กานต์จะรอ ขอบคุณค่ะ
16 พฤศจิกายน 2549 11:46 น. - comment id 627426
สวัสดีค่ะพี่ชาย เบรฟฮาร์ท ดีใจค่ะที่พี่มาฟังเสียงแคน กานต์ชอบฟังค่ะ เพลินดี คุณแม่กานต์ก็ชอบค่ะ ลุกขึ้นมารำค่ะคุณแม่น่ะ ขอบคุณนะคะพี่ชาย สวัสดีค่ะคุณพี่สาวคนน่ารัก ก้าวที่..กล้า คมแคนแทนใจ รักมจจด แบบนี้เลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ มะกี้ชนกันกลวงอากาศ หัวโนเลย อิอิ แคน เป็นชื่อเครื่องดนตรีพื้นเมืองภาคอีสานที่เก่าแก่มีมาแต่โบราณ แคนเป็น เครื่องดนตรีที่ใช้ปากเป่าให้เป็นเพลง ใครเป็นผู้คิดประดิษฐ์เครื่องดนตรีที่เรียกว่า "แคน" เป็น คนแรก และทำไมจึงเรียกว่า "แคน" นั้น ยังไม่มีหลักฐานที่แน่นอนยืนยันได้ แต่ก็มีประวัติที่เล่า เป็นนิยายปรัมปราสืบต่อกันมา ดังต่อไปนี้ หญิงหม้ายผู้คิดประดิษฐ์ทำแคน กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพรานคนหนึ่งได้ไปเที่ยวล่าเนื้อในป่า เขาได้ยินเสียงนกกรวิก (นกการเวก) ร้องไพเราะจับใจมาก เมื่อกลับมาจากป่าถึงบ้าน จึงได้เล่าเรื่องที่ตัวเองไปได้ยินเสียง นกกรวิกร้องด้วยเสียงไพเราะนั้นให้แก่ชาวบ้าน เพื่อนฝูงฟัง ในจำนวนผู้ที่มาฟังเรื่องดังกล่าวนี้มี หญิงหม้ายคนหนึ่งเกิดความกระหายใคร่อยากจะฟังเสียงร้องของนกกรวิกยิ่งนัก จึงได้พูดขอร้อง ให้นายพรานล่าเนื้ออนุญาตให้ตนติดตามไปในป่าด้วย เพื่อจะได้ฟังเสียงร้องของนก ตามที่นาย พรานได้เล่าให้ฟัง ในวันต่อมาครั้นเมื่อนายพรานล่าเนื้อได้พาหญิงหม้ายดั้นด้นไปถึงในป่า จนถึง ถิ่นที่นกกรวิก และนกเหล่านั้นก็กำลังส่งเสียงร้องตามปกติวิสัยของมัน นายพรานก็ได้กล่าวเตือน หญิงหม้ายให้เงี่ยหูฟังว่า "นกกรวิกกำลังร้องเพลงอยู่ สูเจ้าจงฟังเอาเถอะ เสียงมันออนซอนแท้ แม่นบ่" หญิงหม้ายผู้นั้น ได้ตั้งใจฟังด้วยความเพลิดเพลิน และติดอกติดใจในเสียงอันไพเราะ ของนกนั้นเป็นยิ่งนัก ถึงกับคลั่งไคล้ใหลหลง รำพึงอยู่ในใจตนเองว่า "เฮ็ดจั่งได๋นอ จั่งสิได้ฟังเสียงอันไพเราะ ม่วนชื่น จับใจอย่างนี้ตลอดไป ครั้นสิคอยเฝ้า ฟังเสียงนกในถิ่นของมัน ก็เป็นแดนดงแสนกันดาร อาหารก็หายาก หมากไม้ก็บ่มี" จึงได้คิดตัดสิน แน่วแน่ในใจตนเองว่า "เฮาสิต้องคิดทำเครื่องบังเกิดเสียง ให้มีเสียงเสนาะ ไพเราะออนซอนจับใจ ดุจดังเสียง นกกรวิกนี้ให้จงได้" เมื่อหญิงหม้ายกลับมาถึงบ้าน ก็ได้คิดอ่านทำเครื่องดนตรีต่าง ๆ ทั้งเครื่องดีด สี ตี เป่า หลาย ๆ อย่าง ก็ไม่มีเครื่องดนตรีชนิดใดมีเสียงไพเราะวิเวกหวานเหมือนเสียงนกกรวิก ในที่สุดนาง ได้ไปตัดไม้ไผ่น้อยชนิดหนึ่ง เอามาประดิษฐ์ดัดแปลงเป็นเครื่องเป่าชนิดหนึ่ง แล้วลองเป่าดู ก็รูสึก ค่อนข้างไพเราะ จึงได้พยายามดัดแปลงแก้ไขอีกหลายครั้งหลายครา จนกระทั่งเกิดเป็นเสียงและ ท่วงทำนองอันไพเราะเหมือนเสียงนกกรวิก จนในที่สุดเมื่อได้แก้ไขครั้งสุดท้ายแล้วลองเป่าก็รู้สึก ไพเราะออนซอนดีแท้ จึงคิดที่จะไปทูลเกล้าถวายพระเจ้าปเสนทิโกศล ให้ทรงทราบ ก่อนที่จะได้เข้าเฝ้า นางก็ได้เพียรพยายามปรับปรุงแก้ไขเสียงดนตรีของนางให้ดีขึ้นกว่า เดิม และยังได้ฝึกหัดเป่าเป็นท่วงทำนองต่าง ๆ จนมีความชำนาญเป็นอย่างดี ครั้นถึงกำหนดวันเข้าเฝ้า นางก็ได้เป่าดนตรีจากเครื่องมือที่นางได้คิดประดิษฐ์ขึ้นนี้ ถวาย เมื่อเพลงแรกจบลง นางจึงได้ทูลถามว่า "เป็นจั๋งได๋ ม่วนบ่ ข้าน้อย" พระเจ้าปเสนทิโกศล ได้ตรัสตอบว่า "เออ พอฟังอยู่" นางจึงได้เป่าถวายซ้ำอีกหลายเพลง ตามท่วงทำนองเลียนเสียงนกกรวิกนั้น เมื่อจบถึง เพลงสุดท้าย พระเจ้าปเสนทิโกศล ได้ทรงตรัสว่า "เทื่อนี่ แคนแด่" (ครั้งนี้ ดีขึ้นหน่อย) หญิงหม้าย เจ้าของเครื่องดนตรี จึงทูลถามว่า "เครื่องดนตรีอันนี่ ควรสิเอิ้นว่าจั่งได๋ ข้าน้อย" (เครื่องดนตรีนี้ ควรจะเรียกว่าอย่างไร พระเจ้าข้า) พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงตรัสว่า "สูจงเอิ้นดนตรีนี้ว่า "แคน" ตามคำเว้าของเฮา อันท้ายนี้ สืบไปเมื่อหน้าเทอญ" (เจ้าจงเรียกดนตรีนี้ว่า "แคน" ตามคำพูดของเราตอนท้ายนี้ ต่อไปภายหน้าเถิด) ด้วยเหตุนี้ เครื่องดนตรีที่หญิงหม้ายประดิษฐ์ขึ้นโดยใช้ไม้ไผ่น้อยมาติดกันใช้ปากเป่า จึงได้ชื่อว่า "แคน" มาตราบเท่าทุกวันนี้ นี่เป็นเพียงนิทานปรัมปราที่เล่าสืบต่อกันมา ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่นอน บางท่านก็สันนิษฐานว่า คำว่า "แคน" คงจะเรียกตามเสียงเครื่องดนตรีที่ดังออกมาว่า "แคนแล่นแคน แล่นแคน แล่นแคน" ซึ่งเป็นเสียงที่ดังออกมาจากการเป่าเครื่องดนตรีชนิดนี้ แต่ บางคนก็มีความเห็นว่า คำว่า "แคน" คงเรียกตามไม้ที่ใช้ทำเต้าแคน กล่าวคือ ไม้ที่นำมาเจาะใช้ ทำเต้าแคนรวมเสียงจากไม้ไผ่น้อยหลาย ๆ ลำนั้น เขานิยมใช้ไม้ตะเคียน ซึ่งภาษาท้องถิ่นทางภาค อีสานเรียกว่า "ไม้แคน" แต่บางท่านก็ให้ความเห็นที่แตกต่างกันออกไป
16 พฤศจิกายน 2549 12:55 น. - comment id 627451
แคนที่คม คมเสียงแคน แม่นแน่แท้
16 พฤศจิกายน 2549 13:18 น. - comment id 627458
ใช้เสียงแคนแทนใจบอกว่ารัก ใช้แคนทักทายใจยามเงียบเหงา ใช้แคนร้องทำนองแทนใจเรา ใช้แคนเป่าลวดลายคล้ายมนต์ดำ
16 พฤศจิกายน 2549 15:02 น. - comment id 627489
ข้อยเข้ามาฟังเสียงแคน..นำแหน่...
16 พฤศจิกายน 2549 16:32 น. - comment id 627526
อ่า...โดนคมแคนบาดจนเลือดไหลซิบๆเลย
17 พฤศจิกายน 2549 08:23 น. - comment id 627673
สวัสดีค่ะคุณต้นกล้า อันดามัน ขอบคุณค่ะที่แวะมาฟังเสียงแคน สวัสดีค่ะคุณพงษ์ศักดิ์ สิงห์ขจร คล้ายๆจะเป็นแบบนั้นค่ะ ฟังแล้วคิดถึงบ้านค่ะ ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะคุณกุหลาบขาว อิอิ ท่าเต้นน่ารักเชียวค่ะ ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะคุณโคลอน บาดใจเลือดสาดเลยค่ะ อิอิ ขอบคุณค่ะ
17 พฤศจิกายน 2549 08:29 น. - comment id 627677
สายลมผ่านซ่านแคนช่างแสนเสนาะ สำเนียงฉอเลาะเคล้าซึงที่ตรึงหวาน ไหซองสนองปองอยู่เข้าสู่นงคราญ กำซาบซ่านผ่านฤดีสุดพลีใจ. แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2549 14:40 น. - comment id 627882
เหมือนลูกไก่พลัดหลงจากอกแม่ เที่ยววิ่งแร่ไปทั่วจนหัวหมุน แท้ความจริงในจิตคิดถึงคุณ อยากกลับมานอนหนุนที่ตักงาม คงคิดถึงความหลังที่เราจะแจกการ์ดอยู่รอมมะล่อแล้ว อิอิ
18 พฤศจิกายน 2549 07:47 น. - comment id 628092
สวัสดีค่ะคุณลุงแก้วประเสริฐ ถิ่นอีสานตำนานทองมีของแท้ คือบทแหล่ลำกลอนล่องสนุกแสน โอละหนอ แล้วบัดนี้มีทั่วแดน พรมเสียงแคนลอยล่องท่องลำเนา ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะคุณฤกษ์ ชัยพฤกษ์ เสียใจด้วยหากคุณหวังหนุนตัก ใช่ที่พักชั่วคราวให้กล่าวหา เคยส่งใจไปเห่หมดเวลา เชิญคุณคว้าที่หมายใหม่ให้สุขเทอญ สมแล้วที่เป็นจอมรื้อฟื้อ อิอิ บางอย่างก็ควรจะเป็นแค่ความหลังจริงๆนะคะ อิอิ ขอบคุณค่ะ