เจ็บป่วยเจ็บปวดรวดร้าวจิต ทั้งชีวิตคิดประมวนเหตุผันผ่าน ตั้งแต่เล็กเติบใหญ่จนวันวาร ล่วงยาวนานผ่านมาหลายหลากฝน วันนี้ที่แม่จ๋าลูกมืดมน เจ็บตัวจนพาลเจ็บใจไยไม่ดี คิดถึงวันจากมาไกลจรรี วันที่มีพี่แม่พ่อน้องรักและภักตรา อยากให้รู้วันนี้ลูกเจ็บปวด ที่ต้องชวดเวลาดีที่เสียไป วันที่เจ็บวันที่ป่วยไม่มีใคร เพราะเหตุใดคิดถึงแม่เมื่อจนมุม อยากบอกรักแม่พ่อพี่และน้อง อยากกู้ก้องแม่จ้าลูกเหลวไหล ถ้าวันนั้นเชื่อฟังแม่ไม่เชื่อใคร คงจะไม่มืนมนจนหนทาง
3 พฤศจิกายน 2549 16:00 น. - comment id 623106
โห อ่านแล้วแทบน้ำตาเล็ดเลยครับ สะท้อนชีวิตตัวเอง คิดถึงบ้านจังครับ แวะมาชมนะครับ
3 พฤศจิกายน 2549 16:06 น. - comment id 623109
อย่าร้องไห้เยอะนักนะคะ น้ำยิ่งท่วมๆๆอยู่ด้วย ............................. ขอบคุณนะคะที่แวะมาเยี่ยม
3 พฤศจิกายน 2549 17:01 น. - comment id 623125
เมื่อรู้ผิดรู้พาสปรับตัวใหม่ ยังไม่สายเกินกาลจะเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ผ่านให้เลยอย่าหน่ายแหนง ปรับเปลี่ยนแปลงแก้ตัวไม่สายเกิน สิ่งที่ดียังมีอยู่อีกมาก จงฟันฝ่าอุปสรรค์ไม่หลงเพลิน หนทางเดินมีดีจงไขว่ปอง สิ่งที่หมองก็จะลบพบสิ่งดี ชีวิตคนเราก็ยอมรับว่าต้องมีผิดกันบ้าง เมื่อรู้ผิดแล้วปรับใหม่ก็ไม่สายเกินหลอกค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่แวะไปทักทายดอกบัว และที่ชวนให้ไปบวชก็ยินนะถ้าว่าง แต่การบวชต้องมีจิตใจที่สบาย ถึงจะได้ผลดีค่ะ เราอยู่ที่บ้านเราก็สามารถที่จะรักษาศีลได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องไปอยู่ที่วัดก็ได้ แค่เราระวังตัวทั่วพร้อมอยู่ตลอดเวลา รู้ระงับรู้ให้อภัย มีสติอยู่เสมอ ยามเราทำงานเราก็สามารถทำสมาธิได้ค่ะ ถ้าเราไม่มีสมาธิงานเราก็ผิดพาสได้ รองดูสิค่ะถ้าเราคิดจะทำอะไรสักอย่าง แล้วใจเราหว้าวุนไม่มีสติพอสิ่งนั้นเราจะทำ ไม่สำเร็จหลอกค่ะ โทษนะค่ะที่บอกแบบนี้ และยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
3 พฤศจิกายน 2549 17:18 น. - comment id 623133
ขอบคุณเป็นที่สุดสำหรับคำแนะนำดีๆและ ที่แวะมาเยี่ยมเยี่ยนกัน หัวใจ สติ สมาธิ ยากนักจะรวมกันได้ แต่ก็อยาที่ดอกบัวบอกแหละคะ แค่รู้จักให้อภัยหัวใจเราก็ว่าง สมาธิกับสติคงจะตีตั่วตามมา กำลังพยายามอยู่นะจ๊ะ
3 พฤศจิกายน 2549 18:41 น. - comment id 623163
เพียงลูกรู้ว่าลูกผิด น้ำตาแม่ก็ไหลแล้ว..