เห็นเงาดำทาบทาบนฟ้ากว้าง ความเวิ้งว้างย่างกรายมาอีกหน แสงดาวลับเพ็ญดับในกมล ตนเพื่อนตนหมองหม่นคนเดียวดาย หรือราหูจ้องจ่อมาอมจันทร์ แค่หมอกควันเท่านั้นหรือลางร้าย หรือเป็นเพราะดวงตาที่พร่าลาย ในร่างกายที่เหนื่อยล้าและอ่อนแรง ลมกรรโชกป่วนปั่นให้หวั่นไหว พัดหัวใจพัดเมฆใหญ่บดบังแสง กระแสลมร้ายลึกทิ่มเสียดแทง จนใจแกว่งหวิดหวิวแทบปลิวลม ท้อ ทุกข์ ทน ตนเท่านั้นมั่นคงอยู่ เผชิญสู้หวานชื่นหรือขื่นขม สุขกับตนทุกข์กับตนรอฝนพรม วันนี้ล้มวันหน้าลุกสุขสักวัน
20 ตุลาคม 2549 08:42 น. - comment id 617155
บทสุดท้ายสรุปได้ดีจังนะคะ
20 ตุลาคม 2549 08:45 น. - comment id 617158
เห็นด้วยกับน้องกานต์ค่ะ สรุปได้ดีจริง ๆ สุขกับทุกข์อยู่ที่ใจตนค่ะ และล้มแล้วต้องลุกขึ้นสู้ค่ะ
20 ตุลาคม 2549 11:01 น. - comment id 617212
ความพร่านั้นมักเกิดขึ้นเสมอๆเหตุเพราะ ความต้องการมากมายครับ มาเยี่ยมครับ แก้วประเสริฐ.
20 ตุลาคม 2549 13:49 น. - comment id 617306
สุดท้ายไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากตัวเองค่ะ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
20 ตุลาคม 2549 23:00 น. - comment id 617584
อันราหูจ้องอมเอาพระจันทร์ เหมือนตัวฉันครวญเพ้อเธออยู่ไหน อยู่สุดแคว้นแดนสวรรค์ถึงชั้นใด จะตามไปพานพบได้สบตา ตามเหมือนราหูตามหาพระจันทร์เลยละ อิอิ