มองนภาพร่างพราวดาวสดใส ฝากห่วงใยไปบ้านนาว่าคิดถึง อยู่คนเดียวเหว่ว้าพารำพึง ยังคนึงถึงทุ่งทองแลท้องนา ราตรีนี้มีหนึ่งคนบนความเหงา อยู่กับเงาทุกวันเพื่อฝันหา สิ่งที่เคยหวังไว้ในสัญญา สร้างคุณค่าชีวิตลิขิตเอง เปรียบดังนกหลงทางกลางเมืองใหญ่ ไปทางไหนไม่พ้นโดนข่มเหง ความรู้น้อยต้อยต่ำใครยำเกรง จึงวังเวงเคว้งคว้างบนทางใจ หนึ่งความฝันคำสัญญาก่อนลาจาก แม้นลำบากกี่หนยังทนไหว หวังสักวันฟ้าช่วยอำนวยชัย สิ่งฝันใฝ่เป็นดังที่หวังปอง มองนภาพร่างพราวดาวยังใส ฝากห่วงใยไปบ้านนาว่าอย่าหมอง อยู่ทางนี้มีเงาเหงาตระกอง คอยประคองยามเราร้านรานใจ
27 กันยายน 2549 23:43 น. - comment id 609812
สู้ต่อไปงับ เอาใจมาช่วยอีกแรง
28 กันยายน 2549 00:41 น. - comment id 609820
ฉันก็อีกคนหนึ่งซึ่งจากบ้าน ต้องซมซานอยู่ในภายเมืองหลวง ต้องโดดเดี่ยวยิ่งนักถูกรักลวง คนเมืองหลวงใจดำช้ำปางตาย มองเห็นดาวลอยคว้างกลางเวหน เหม่อมองบนนภาน่าใจหาย มองหาพ่อแลหาแม่อยู่แห่งใด อยากเห็นสายตาท่านมองผ่านมา ชีวิตที่ท้องทุ่งได้สิ้นสูญ เหลือแต่รอยอาดูรอันล้ำค่า หลับตาเห็นพ่อแม่และท้องนา แต่ทว่าลืมตาตื่นสะอื้นตรม ไม่เหลือแล้วแม่กับพ่อและท้องทุ่ง นอนสดุ้งตื่นตาพาขื่นขม ผจญโลกในเมืองกว้างอย่างระทม ฝืนใจข่มอ้างว้างอย่างเดียวดาย...
28 กันยายน 2549 07:44 น. - comment id 609857
คุณMomMamSan ..ขอบคุณค่ะ คุณWhite rose .. จากบ้านนามาสู่กรุงรุ่งอมร มหานครเมืองใหญ่ให้เคว้งคว้าง ต้องโดดเดี่ยวเดียวดายในปลายทาง ใจบางบางมีเหงาเป็นเงาเคียง มองท้องฟ้ายามอรุณฝุ่นวิถี ร้างไมตรีมีแต่แสงสีเสียง อยู่บ้านนามีพี่น้องร่วมร้อยเรียง อย่างพอเพียงก็สุขเหลือเมื่อวันวาน แต่วันนี้วุ่นวายคล้ายสับสน ท่ามฝูงชนคนร้างใจไร้สงสาร คนใจดำทำร้ายให้ร้าวราน เหมือนประหารเราให้ตายทั้งเป็น คิดถึงพ่อแลแม่ที่แก่เฒ่า ท่านคงเหงาแร้นแค้นแสนยากเข็ญ ลูกอยู่ไกลห่วงหาทุกเช้าเย็น คืนเดือนเพ็ญส่งใจไปกับดาว
28 กันยายน 2549 07:47 น. - comment id 609861
จะไม่กลับหลังถ้ายังไม่ได้ดี เดี๋ยวพี่กานต์ร้องให้ฟังน้าเพลงนี้
28 กันยายน 2549 07:57 น. - comment id 609873
พี่สาวจ๋า..กลัวหลงเสียงนางค่ะ
28 กันยายน 2549 07:58 น. - comment id 609874
กลับบ้านนา ป่าดอน ก่อนจะสาย เมืองหลวงไซร้ ให้หวั่นไหว ในตัวพี่ แม้จะเป็น เมืองสวรรค์ ชั้นโสภี แต่ตัวพี่ ก็ยังหวง ห่วงน้องนาง เมื่อเช้าพี่ ดูข่าว เรื่องน้ำท่วม เอ่อจนอ่วม ไม่มีที่ จะก้าวย่าง อยู่บ้านป่า นาไร่ ใช่วายวาง ฝนพรูพร่าง ต่างยินดี เปรมปรีดา ฝนตกมา พลังเสริม เติมชีวิต ฟ้าลิขิต ชาวนาไร่ ได้ใฝ่คว้า ปลูกต้นไม้ ในสวน และไร่นา ได้หาปลา ในลำคลอง จ้องทำกิน พี่อยากให้ น้องกลับนา มาอยู่ด้วย ได้อยู่ช่วย กำลังใจ ไม่มีสิ้น อยากให้น้อง ใช้ชิวิต แบบเดินดิน เราหากิน ตามประสา คนป่าดอน ทุกทุกครา หลังทำนา เวลาว่าง พี่นอนข้าง พิงคันไถ ใจทอดถอน คิดถึงน้อง อยู่กรุงไกร ใจอาทร อยากให้น้อง หวลกลับคอน คืนบ้านนา
28 กันยายน 2549 08:04 น. - comment id 609884
โอย ไม่อยากจะคุย ร้องเพลงนี้ได้ตั้ง 99 คะแนน อิอิ แถมเพลงลมจ๋ายังได้เลยน้า
28 กันยายน 2549 08:06 น. - comment id 609886
ว่างๆมาใหม่นะคะ คนบนเกาะฝากไว้ก่อนนะคะ ไปทานข้าวกันค่ะ พี่สาวใครนะขี้โม้จริงๆ
28 กันยายน 2549 08:10 น. - comment id 609889
ไม่ได้โม้น้า ไม่ใช่สมรักษ์นี่ อิอิ ไปแหละ
28 กันยายน 2549 08:25 น. - comment id 609892
เพราะจัง....เหงามากนะเนี๊ย...
28 กันยายน 2549 10:42 น. - comment id 609921
เข้าชมรมคนเหงาด้วยคนจิ..... คุณเฌอขา... เมื่อวานตั้งชื่อแก็งส์ด้วยหรือค่ะ?
28 กันยายน 2549 13:17 น. - comment id 609965
คนบนเกาะ.. กลับบ้านนาสร้างเสริมเติมคุณค่า ผ่านตำราค่าช้ำคือคำสอน อยู่เมืองกรุงรุ่งเรืองเมืองอมร ความแน่นอนหายากจากเมืองกรุง จะคืนถิ่นดินแดนแสนประเสริฐ ถิ่นกำเนิดข้าวปลาอาหารหุง เก็บพืชผักนานาพันธ์สรรค์มาปรุง ตามท้องทุ่งปลอดสารรานพิษภัย น้ำมีปลานามีข้าวชาวนาสุข ห่างไกลทุกข์อากาศสะอาดใส ธรรมชาติทุ่งนาพาวิไล จรุงใจยอมมองท้องทุ่งนา ฟ้าอำไพวันนี้อย่างที่เห็น ทุกเช้าเย็นเรานั้นแสนหรรษา ชนบทงดงามท่ามอุรา แสวงหาไม่ยากหากจะยล แต่ปีนี้น้ำล้นจนเอ่อท่วม ชาวนาอ่วมนาล่มจมทุกหน ลูกคนนี้รีบคืนผืนดินตน พร้อมกมลเพื่อรับซับน้ำตา พี่สาวจ๋า..โม้เก่งจริงๆด้วยแหละ น้องสาวสมรักษ์ไม่ใช่เหรอคะ พี่มะกรูด..เหงาเหรอ มาหาเฌอซีคะ คุณรีคะ...ชมรมคนเหงายินดีต้อนรับค่ะ แหะ แหะ ไม่มีชื่อแก๊งค์แก๊งค์ลูกหมู อิอิ
28 กันยายน 2549 13:33 น. - comment id 609976
ยืนเหงาใจ ใต้เงา เจ้าต้นโศรก ลมเอื่อยโบก พัดผ่าน ต้านกิ่งไหว ดูฟ้าคลึ้ม เมฆคล้ำ ระกำใจ ยามหมองไหม้ อกตรม ระบมนาน เสียงหรีดหริ่ง เรไร ในพงศ์ป่า แนวพนา ร้องรับ สดับขาน บอกให้รู้ ว่าสู่ ราตรีกาล เสียงผสาน ผ่านลมโบก กรรโชคใจ เจ้าอยู่ไหน ไกลสิ้น ถินกำเหนิด เจ้าคงเพลิด ลืมสิ้น ถิ่นสดใส ราตรีนี้ เหลือเพียงเงา เจ้าห่างไกล ทิ้งพี่ให้ เจ็บช้ำ ระกำทน หรือเจ้าก็ เดียวดาย ใจอ้างว้าง เหมือนหลงทาง ห่างไกล ในไพรสนธิ์ แหงนมองฟ้า มืดดำ ช้ำกมล เหมือนคั่งคน ลงเรือรัก ที่หักกลาง รู้ข่าวน้อง ก็เหงา เศร้าดวงจิต รอมิ่งมิตร คืนมา เมื่อฟ้าสาง มาเริ่มต้น กันไหม่ พักใจวาง รอฟ้าสาง จงกลับมา บ้านนาเรา......
28 กันยายน 2549 14:47 น. - comment id 609994
ไม่ได้โม้ บ้านใกล้กันอ่ะนะ เลยติดเชื้อสมรักษ์มา อิอิ
28 กันยายน 2549 16:16 น. - comment id 610039
คนเขียนกลอนคะ.. กลับคืนถิ่นพนาที่ผาสุก ลืมเรื่องทุกข์ค้างใจไว้ข้างหลัง ทางข้างหน้ามีคนรอต่อภวังค์ สร้างความหวังคืนถิ่นดินแดนดง คิดถึงเสียงหริ่งเรไรในแนวป่า สกุณาจะโผผินคืนถิ่นหลง นกปีกหักจะกลับรังยังไพรพง ลาแล้วกรงเมืองกรุงมุ่งคืนคอน คิดถึงคนเคียงใจใต้ต้นโศก ลมโชยโบกพัดผ่านรานสิงขร คืนสู่เรือนเพื่อนยากที่จากจร สู่ดินดอนบ้านนาป่าพฤกษ์ไพร ยามเย็นนี้มีใครคอยละห้อยหา ยังรอท่าน้องคืนถิ่นดินเดิมไหม จากไปนานรานรอนสะท้อนใจ กลัวลืมใครคนนี้ที่จากมา ถ้ามีคนรออยู่โปรดรู้ด้วย โปรดจงช่วยดูแลและรักษา นกปีกหักคืนคอนย้อนพนา ช่วยเยียวแผลใจให้หายตรม พี่สาวจ๋า.. บ้านอยู่ใกล้สมรักษ์จริงๆเหรอคะ แล้วพี่หมัดหนักเหมือนสมรักษ์หรือเปล่าล่ะคะ
28 กันยายน 2549 16:26 น. - comment id 610047
วันคืนผันผ่านพ้น เวียนไป เหงาย่อมลาลับไกล หลีกเร้น ชีวิตปิดระวังไว เหตุแห่ง ความเหงา ทุกแห่งห้องใจเว้น มอดเชื้ออกตรม หายเหงาไวไวนะ
28 กันยายน 2549 16:38 น. - comment id 610057
เหมือนดั่งเป็นดอกหญ้าในป่าปูน หมดสิ้นสูญความมั่นใจไม่มีเหลือ ทั้งยากจนมีหนี้สินแทบกินเกลือ ใจยังเอื้อมุ่งฝันถึงวันงาม........ ทุกคนมีสิทธิ์ฝัน...แต่จะสัมฤทธิ์ผลเพียงใดยังไม่แน่ชัด แต่ถ้าจับมือกับเราคงไปถึงฝันร่วมกัน อิอิ
28 กันยายน 2549 17:59 น. - comment id 610079
พี่ไอซ์คะ... ทิวาวันล่วงแล้ว............ราตรี กระจ่างจันทร์รุจี...........แจ่มฟ้า สิ่งผันผ่านรานฤดี.........จำแม่น เป็นสิ่งเตือนภายหน้า...เที่ยงแท้เจ็บจำ ไม่เหงาเท่าไร นิดหน่อยค่ะ ลุงฤกษ์จ๋า..นู๋ไม่ใช่ต่าย อรทัยนะคะ แสนเดียวดายเคว้งคว้างกลางเมืองหลวง คืนวันล่วงผ่านพ้นต้องทนไหว แม้นลำพังยังไฝ่ฝันวันอำไพ วันที่ใจ..สุขสันต์ฝันเป็นจริง อย่าพรากผู้เยาว์นะคะ คดีอาญาค่ะ คริ คริ
29 กันยายน 2549 08:02 น. - comment id 610216
หมัดก็หนัก ปากก็หนักได้ที่เลยแหละ อิอิ อรุณสวัสดิ์ค่ะน้องเฌอ
29 กันยายน 2549 18:20 น. - comment id 610368
สายัณห์สวัสดิ์ค่ะ พี่สาวคนสวยใจดี