9 กันยายน 2549 09:04 น. - comment id 604693
ภาพยนตร์เรื่อง Sideways เริ่มเรื่องราวด้วยการออกเดินทางเพื่อเที่ยวชิมไวน์ของสองเพื่อนเก่า... ที่หันเหเปลี่ยนทิศอย่างวุ่นวายแบบหลบๆ เลี่ยงๆ (Sideways) ไปสู่การค้นหาที่ลดเลี้ยว ทว่าเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ของความแปรปรวนที่บ้าคลั่ง ในเรื่องความรักและมิตรภาพ การยืนหยัดของความว้าเหว่ และความฝันอันน่าเบื่อหน่าย และการต่อสู้ที่ไม่มีวันจบสิ้น ระหว่างปิโนต์กับคาเบอร์เนต์ ความโชคไม่ดีเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ไมลส์ (พอล จิอาแมตติ) พ่อม่ายที่อกหักไม่ยอมคลาย ซึ่งเป็นว่าที่นักเขียนนิยายผู้คลั่งไคล้ไวน์ ตกลงใจที่จะให้รางวัลกับเพื่อนเก่าสมัยเรียนวิทยาลัย ซึ่งเป็นนักแสดงไฟมอด แจ็ค (โทมัส เฮเดน เชิร์ช) ด้วยการเดินทางไปฉลองที่โรงบ่มไวน์แถวชายฝั่งทะเลตอนกลาง ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าวันแต่งงานของแจ็ค ทั้งสองเป็นคู่หูที่แปลกไม่มีใครเกิน แจ็คเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์เซ็กซ์จัด - ไมลส์เป็นคนขี้กังวลซึมเศร้า... แจ็คมองหา \"รสชาติแห่งอิสรภาพครั้งสุดท้าย\" ไมลส์หวังเพียงแต่ว่าจะไม่รู้สึกห่อเหี่ยวไปมากกว่าเดิม... แจ็ครู้สึกดีกับเมอร์ล็อตราคาถูก - ไมลส์แสวงหาปิโนต์ที่มีรสเลิศ อันที่จริงแล้ว อย่างเดียวที่พวกเขามีเหมือนกัน ก็คือความใฝ่ฝันที่ล้มเหลว และวัยเด็กที่กำลังจางหายไป ถึงกระนั้น เมื่อพวกเขาเดินทางไปถึงชายฝั่ง ไม่นานต่อมาไมลส์และแจ็คก็พบว่า พวกเขากำลังมึนเมากับไวน์และสาวๆ สเตฟานี (แซนดร้า โอ) และ มายา (เวอร์จิเนีย แมดเส็น) เมื่อแจ็คต้องหัวปักหัวปำกับสาวรินไวน์พื้นเมือง และขู่จะล้มเลิกงานแต่งงาน ไมลส์ก็พยายามที่จะดึงเพื่อนไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง แต่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของตัวไมลส์เองกับสาวเสริฟผู้มาดมั่นมั่น ก็ก่อกวนเสียจนทำให้ทั้งสองหนุ่มล้มคว่ำไม่เป็นท่า เมื่อต้องกลับมาสู่ความเป็นจริงอย่างทันด่วน ตอนนี้ เมื่องานวิวาห์ใกล้เข้ามา และความไม่แน่นอนที่ว่าไมลส์และแจ็ค อาจกลับมาลอสแอนเจลิสไม่ทันเวลา โดยไม่บาดเจ็บหรือเปลี่ยนไป... ถ้าหากว่าพวกเขามาถึงได้แบบครบสามสิบสอง Sideways ผลงานภาพยนตร์เรื่องที่สี่ของผู้ประพันธ์-ผู้กำกับฯ อเล็กซานเดอร์ เพย์น (ต่อจากเรื่อง Citizen Ruth, Election และ About Schmidt) จากการเขียนบทของทีมเจ้าของรางวัล อเล็กซานเดอร์ เพย์น และ จิม เทย์เลอร์ (About Schmidt, Election) จากเค้าโครงเรื่องในนิยายชื่อเดียวกันโดย เร็กซ์ พิกเค็ต ภาพยนตร์เรื่องนี้อำนวยการสร้างโดย ไมเคิล ลอนดอน (Thirteen, House of Sand and Fog) และร่วมอำนวยการสร้างโดย จอร์ช พาร์รา ผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์อย่าง Legally Blonde 2 และ About Schmidt ถ่ายทำโดยผู้กำกับภาพ เฟดอน พาพาไมเคิล (Moonlight Mile, Identity) ภาพยนตร์เดินเรื่องด้วยดนตรีประกอบที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ ซึ่งประพันธ์โดย โรลฟ์ เคนท์ ผู้ที่มารวมพลังกับเพย์น หลังจากที่เคยทำงานร่วมกันใน About Schmidt, Election และ Citizen Ruth คือผู้ลำดับภาพ เควิน เทนท์ และผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์ เจน แอน สจ็วต Sideways นำแสดงโดย พอล จิอาแมตติ (Paycheck, Duets, Man on the Moon, Saving Private Ryan, The Truman Show) และ โทมัส เฮเดน เชิร์ช (Spanglish, George of the Jungle, Tombstone) ร่วมด้วย แซนดร้า โอ (Under the Tuscan Sun, The Princess Diaries, Dancing at the Blue Iguana), เวอร์จิเนีย แมดเส็น (The Haunting, The Rainmaker, Ghosts of Mississippi, Candyman, Dune) ภาพยนตร์เรื่อง Sideways ได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำถึง 7 สาขา ... เอาเป็นว่า ตัวหนังมีพล๊อตเรียบๆ ไม่มีอะไรหวือหวา แต่ก็ไม่น่าเบื่อเช่นกัน ผนวกกับบทภาพยนตร์ที่ง่ายๆ สมกับตัวเรื่องหลัก แต่รู้ที่จะปล่อยหมัดเด็ดในช่วงที่สมควรจะออกหมัด และเมื่อไหร่ที่ตัวบทต้องการความแม่นยำและความซาบซึ้ง มันจะนำเสนอผู้ชมด้วยบทพูดที่หลายๆ คนคงจะยกไว้เป็นประโยคประทับใจตลอดกาลเลยทีเดียว ซึ่งช่วงที่ผมชอบมากมายคงเป็นฉากที่ Paul Giamatti เล่าถึงธรรมชาติที่แสนบอบบางขององุ่นดำพันธุ์ปิโนต์ให้กับ Virginia Madsen ฟัง และกับสิ่งที่เธอตอบเขามานั้น ....ไปชมกันเองเถอะครับ นัยยะที่แฝงอยู่ในไดอะล๊อคช่วงนี้มันช่างจริงใจ ซาบซึ้ง และแสนจะล้ำลึกอย่างเรียบง่ายเสียเหลือเกิน Paul ทำให้บท Miles ที่เขาเล่นเป็นผู้ชายที่ไร้ความสามารถ ขาดความมั่นใจในตัวเอง เห็นแก่ตัว นิสัยเสียกับคนที่ตัวเองรัก(แม่และอดีตภรรยา) Miles ไม่ใช่ผู้ชายในฝันของใครๆ อย่างชัดแจ้ง เขาก้าวข้ามเส้นแบ่งของความเป็นสุภาพบุรุษหลายครั้งหลายคราว แต่ด้วยฝีมือทางการแสดงที่ถึงกึ๋น ทำให้ผู้ชมโกรธ Miles ไม่ลงเอาจริงๆ ไม่ว่าเขาจะพลาดอีกกี่ครั้งกี่คราก็ตามที แม้บทของ Miles จะดูเหมือนไม่มีอะไร ผู้ชมก็นั่งดูชีวิตอันราบเรียบของเขาที่ทำตัวเหมือนเราๆ ท่านๆ ไปวันๆ นี่เอง ไม่เห็นจะมีอะไรที่พอจะ โชว์พาว(เวอร์) กันได้เลย ซึ่งตามความเห็นของผม ไอ้ความ ไม่มีอะไรให้โชว์ ของตัวบทนี่แหละทีทำให้ Paul เสนอฝีมือล้วนๆ ที่สั่งสมมานานเล่นอย่าง เป็นธรรมชาติแบบสุดๆ และเนียนมากมายเสียจนผู้ชมไม่รู้สึกสะดุดอะไรเลย เพราะเรื่องราวในชีวิตของ mile กับพฤติกรรมที่เขาแสดงต่อเหตุการณ์นั้นๆ ด้วยการฝีมือการแสดงของ Paul มันช่างเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรา กับคนที่เรารู้จักเมื่อวันก่อน เมื่อปีก่อนดีๆ นี่เอง หากจะถามกันตรงๆ แล้ว ผมว่า Sideways ไม่ใช่หนังที่ควรจะได้เข้าชิงรางวัลหนังยอดเยี่ยมในเวทีใดๆ ทั้งนั้น ความเห็นส่วนตัวจริงๆ ของผมหากถูกถามท่ามกลางวงเหล้าคงจะบอกว่า \'หนังมันก็ไม่มีอะไรมาก แต่น่ารัก บอกไม่ถูก\' ประมาณนี้ .. สวัสดีครับ..
9 กันยายน 2549 10:51 น. - comment id 604700
9 กันยายน 2549 13:42 น. - comment id 604776
เป็นการดื่มที่น่าสนุกและตื่นเต้นดีน่า เท่าที่อ่าน แต่เรื่องนี้หรือเรื่องไหน ๆ ผู้หญิงไร้เงาก็ไม่ค่อยได้ดูสักที อิอิ
9 กันยายน 2549 22:11 น. - comment id 604869
ชีวิตที่ขาดการดื่มเสียไม่ได้ .. อัลมิตราเคยตั้งคำถามในใจว่า .. เหตุใด คนนั้น คนนี้ จึงดื่ม แล้วก็ดื่ม โดยไม่มีกิจใด ๆ ให้ควรดื่ม ก็จะดื่ม .. เรื่องตะลุมพุก .. ที่พระเอกดื่มซะเมาจนหัวราน้ำ อัลมิตราก็มองเขาในท้องเรื่องว่า เป็นคนสิ้นคิด อืมม ..!! คำว่า คนสิ้นคิดไม่อยากใช้แฮะ ไม่ดี ประเดี๋ยวคนที่ดื่มจะพาลเข้าใจว่า ไปกระทบเขา อัลมิตราเพียงแต่จะหมายถึงว่า ไม่มีอะไรให้ทำ ที่ดีไปกว่าการดื่มแล้วเหรอ ลืมไป ไม่รู้ว่าคุณได้ดูเรื่องตะลุมพุกหรือเปล่า แหะ แหะ
10 กันยายน 2549 03:32 น. - comment id 604891
[น่าอ่านดีค่ะ
10 กันยายน 2549 04:44 น. - comment id 604894
แวะมาอ่านตอนเกือบสว่างนะน้องชาย... ...อ่านคห.4 แล้วเหมือนมีอะไรมาทิ่มจี๊ดๆจังอะ
11 กันยายน 2549 08:18 น. - comment id 605045
11 กันยายน 2549 08:56 น. - comment id 605049
สวัสดีครับ..คุณวาที ขอบคุณมากครับผม ......... สวัสดีครับ.. คุณผู้หญิงไร้เงา แล้วแต่มุมมองของคนนะครับ บางคนก็สนุก บางคนก็ว่าไร้สาระ แต่มันซ่อนอะไรให้คิดในชีวิตอยู่เยอะ ขอบคุณครับที่เข้ามาทักทาย ......... สวัสดีครับ คุณอัลมิตรา เรื่องตะลุมพุก ดูแล้วครับ คงเห็นต่างกันนะ แต่ไม่ได้ว่าอะไรกับมุมที่คุณมอง จำได้ชัดว่า ก่อนเรียนจบ เพื่อนซี้ทุกคนของผม จะได้หนังสือจากผมอยู่เรื่องหนึ่งก่อนจากกันนั่นคือ พันธุ์หมาบ้า ของชาติ กอบจิตติ มิตรภาพระหว่างผมกับเพื่อนเกิดได้ทุกที่ เรื่องนี้กลับมาอ่านก็ยังสดอยู่เสมอ แทบจะทุกมโนภาพระหว่างผมกับเพื่อน ยังคมชัดอยู่เสมอ ครับ..ชีวิตผมมีรายละเอียด กับคน และ สถานที่ ขอบคุณครับ ที่กรุณามาอ่านงานชิ้นนี้ของผม บอกตามตรง ผมชอบงานแบบนี้ สไตล์นี้ ทั้งที่รู้ว่าแทบไม่มีคนสนใจ แต่ผมจะทยอยพิมพ์มาฝากอ่านอีกครับ มีอีกหลอยเรื่อง แต่ยังไม่มีเวลาจะพิมพ์ลง ......... สวัสดีครับ คุณทิกิ.. ขอบคุณครับที่แวะมาทักทายกัน .......... สวัสดีครับ..พี่ชาย เอาน่านะ แล้วแต่คนคิดน่ะนะ ไม่ได้ว่าอะไร ใจใครใจมัน ดูแลสุขภาพด้วยครับ บ้านผมได้กลิ่นลมหนาวเหมือนกันครับ เหงาๆ ดี ............ สวัสดีครับ..น้องบัวที่มาส่งดอกไม้กับรอยยิ้ม ดีใจด้วยครับที่ตุ้ยได้เป็นแชมป์ ส่วนพี่ก็พอใจมากครับ ที่น้องต้า กับซาร่ามาถึงตรงนี้ บอกตามตรง พี่ชมเลยว่าน้องซาร่า เป็นเด็กดี งามสมวัย น่ารักสมวัย ดีใจที่เด็กขนาดเขาปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมกับพี่ๆ ผู้ชายได้ดี ส่วนน้องต้า เขาก็เป็นคุณชาย เชื่อว่าเขาเป็นเด็กดี ครอบครัว พื้นฐานจิตใจดี โดยรวมพี่ชอบ เอเอฟ 3 มากครับ เพราะทุกครั้งที่ดูคอนเสิร์ต เหมือนดูลูกๆ ร้องเพลงในโรงเรียนอนุบาล ไปเชียร์ ไปให้กำลังใจ ลูกร้องเพลงได้ เพราะมั่ง ไม่เพราะมั่ง ก็ให้กำลังใจเขา ไม่รู้สิ พี่ดูแล้วมีความสุขแบบนั้น ส่วนเขาจะก้าวกระโดด หรือ อยากเป็นคนดัง เขาก็ต้องวางแผนชีวิตของเขากันให้ดี เพียงแต่ขอให้คนที่ตั้งใจทำอะไร ก็ทำให้ถึงที่สุด จะถึงจุดหมายปลายทางหรือไม่ ก็ขอให้เขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตระหว่างทางให้มากที่สุด ก็เท่านั้นแหละครับ อากาศเปลี่ยน น้องบัวรักษาสุขภาพด้วยนะครับ ทำงานให้มีความสุขนะครับ ... ขอบคุณทุกท่านครับ
11 กันยายน 2549 11:00 น. - comment id 605073
บัวมาคุยกับพี่พันเก้าค่ะเรื่อง AF3 จริงแล้วบัวเชียร์ ตุ้ย ต้า มิ้น ซาร่า บัวก้อชอบเค้าค่ะ เพราะเค้าทำตัวน่ารักมาตอนอยู่ในบ้าน เต้นก้อเก่งค่ะแต่เสียงร้องเค้ายัง ไม่ดีพอ ส่วนตุ้ย อยู่ในบ้านเค้าก้อดูแล น้องผู้หญิงกันทุกคนค่ะ เค้าได้เปรียบเพราะ เค้าร้องเพลงเสียงดีและเพราะด้วยค่ะ แล้วร้องดีทุกเพลงที่เค้าร้อง ส่วนต้า เค้าเป็นคุณหนูแต่เค้าปรับตัว เข้ากับทุกคนได้ดีน่ารักและยังฝึกร้อง ดีขึ้นเลื่อยๆ น้องมิ้นเสียงแหบๆร้องแล้วแปลกดีค่ะเค้าก้อร้องดี บอยก้อร้องดีขึ้น แต่น้องของบัวเค้าเชียร์บอยเค้าบอกให้บัวช่วยส่งกำลังใจไปให้บอยด้วยค่ะ บัวไม่ชอบ ก็ ค่ะเป็นคนไม่สะอาดบัวคงจะใช้ คำตรงๆนะค่ะเพราะเห็นเค้าเป็นแบบนั้นค่ะ
11 กันยายน 2549 11:55 น. - comment id 605082
น่านะ น้องบัว.. อย่าแซวน้องก้ออย่างนั้นเลย ครูรัก ก็แซวหนักแล้วว่า ไอ้ญี่ปุ่นหน้าโรคจิต แต่ไง พี่ชอบความเซอร์ๆ เขาพอสมควร พี่ก็เชียร์เขาอยู่นะ เพราะเขาไม่เก่งมาก เลยอยากให้กำลังใจ หลานพี่เขาก็เชียร์นายก้อ ด้วยอะ นี่กระซิบบอกอะไรอย่าง หน้าพี่น่ะ โจรกว่านายก้อ สิบเท่าเลยนะน้องบัว มาคุยด้วยก่อนหม่ำๆ.. ทานอะไรเอ่ย เที่ยงนี้ ??
11 กันยายน 2549 13:18 น. - comment id 605108
พี่พันเก้าจะฟังเรื่องที่เป็นความจริงกับบัวหรือป่าวล่ะค่ะ ข้อความที่บัวพิมพ์สื่อออกไป คือความเป็นจริงทุกอย่างที่บัวคิดนี่ค่ะ แต่ถ้าจะฟังเรื่องไม่เป็นความจริง บัวก้อจะบอกว่า ก้อ น่ารักเพื่อเอาใจพี่ แต่นี่ก็ขัดกับความเป็นจริงอยู่ดีแหละค่ะ และบัวป่าวมองหน้าตา ก้อ สักหน่อย บัวไม่ได้มองหน้าตารูปลักษ์ของใครนะค่ะ บัวมองพินิจดูในจิตใจมากกว่าค่ะ มีหนุ่มๆหน้าตาดียิ่งกว่าพระเอกหนัง พระเอกละครด้วยค่ะที่พยายาม เข้ามาหาบัว แต่บัวไม่สนใจเพราะนิสัยแย่มาก และบัวก็คิดว่าพี่มีคำดีๆมาให้บัว บัวไม่จำเป็นนี่ที่พี่ต้องหน้าตาหล่อ อิ อิ อิ แค่มีคำแนะนำสิ่งดีๆมาให้กันก็พอแล้วค่ะ แต่ ก้อ เขาอยู่ในบ้านหน้าไม่หล่อนิสัยยังใช้มะได้อีกนี่ค่ะ ใจบัวคิดอย่างไรบัวก็บอกให้พี่รู้ อย่างนี่แหละค่ะ อิ อิ อิ มื่อเที่ยงบัวหม่ำ น้ำพริกมะขาม แกงจืดผักกาดดองหมูสับ หมูทอดกระเทียม ทอดมันปลากราย ปลาหมึกทอด เป็นงัยค่ะ อิ อิ อิ แต่หลายคนค่ะมะได้หม่ำคนเดียวนะค่ะ อ้อ แกงหน่อไม้หญ้านางด้วยค่ะ บอกละเอียด เกินไปป่าวค่ะ แหะ แหะ แหะ
11 กันยายน 2549 13:52 น. - comment id 605111
จ้า..น้องบัว พี่ป้วนเปี้ยนแถวๆ นี้ หาเรื่องคุยกับน้องบัว เหมือนคุยกับหลานสาวเลย ทั้งๆ ที่รู้ว่าน้องบัวทำงานแล้ว รับผิดชอบตัวเองได้ดี เพราะ อย่างน้อยก็พูดตรง และจริงใจดี คนเรา พูดคุยกัน สื่อทางอักษรก็แสดงอะไรได้พอสมควร เอาเป็นว่าเราต่างสบายใจที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันตามสมควร เท่านี้พี่ก็พอใจแล้วนะครับ
11 กันยายน 2549 16:20 น. - comment id 605136
พี่พันเก้าค่ะ บัวว่าบัวเป็นน้องดีกว่าค่ะ ถ้าว่าเป็นหลานดูเหมือนบัวจะหลอกพี่มากไปค่ะแหะ แหะ แหะ ไม่รู้สิค่ะบัวพูดตรงๆเพราะถ้าให้บัว พูดอะไรที่หลอกลวงบัวก็รู้ว่าไม่เป็นความจริง บัวไม่สบายใจค่ะ และอีกอย่างหนึ่งบัวคิดว่า ถ้าเราพูดอะไรที่ไม่เป็นความจริงเราก็จะโดนคนอื่นหลอกเราเหมือนกันค่ะ จริงๆแล้วบัวเป็นคนโหดเหมือนกันนะค่ะ พี่ เพราะตอนเด็กๆบัวอยู่บ้านกับพี่ชายกับพ่อ เพราะแม่บัวท่านจากไปตั้งแต่บัวได้ 4 ขวบ บัวทะเลาะกับพี่ชายบัวเขาพลักบัวล้มไปกระแทกกับกระถ่างใส่น้ำ ใต้ริมฝีปากแตก เลือดใหลเต็มไปหมดเลยค่ะ แล้วบัวก็เอามีดที่พ่อผ่าฝืนฟันขาของพี่ชาย ไปหนึ่งแผลสรุปพ่อตีบัวเพราะบัวโหดเกินไปค่ะ จริงแล้วบัวเป็นเวลาใครทำบัวเจ็บ คนนั้นต้องเจ็บมากกว่าบัว เพราะบัวจะไม่ทำใครก่อน บัวเป็นคนอารมณ์ร้อนมาก แต่ตอนนี้ บัวฝึกให้อารมณ์เย็นลงมากแล้วค่ะ และบัวก็ไม่เคยใช้คำพูดหยาบๆด้วย ถ้าใครมาว่าบัวด้วยคำหยาบบัววิ่งเข้าไปหาเลยนี่แหละนิสัยบัว แต่ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้วนะค่ะ อิ อิ อิ บัวถึงต้องใช้ธรรมะมาขัดเกลาอารมณ์ตัวเองค่ะ พี่พันเก้าคงไม่เบื่อที่อ่านนะค่ะ เบื่ออ่านก็บอกบัวได้เลยค่ะ
12 กันยายน 2549 14:34 น. - comment id 605557
สวัสดีครับ น้องบัว เป็นน้อง น่ะ แหงอยู่แล้ว เผอิญ อายุพี่ไม่น้อยแล้วไง รุ่นเดียวกับ อากัสซี่ และมีหลานที่คุยกันได้ทุกเรื่อง ขอโทษนะที่มองน้องบัวเป็นเด็ก แต่ถึงกระนั้นเถอะ พี่ก็ว่าน้องมีความคิดความอ่าน เป็นตัวของตัวเองดี เรื่องเอาใจพี่เหรอ ไม่ต้องคิดไปขนาดนั้น เพราะเท่าที่คุยกันได้ ก็โอเค พี่ไม่ได้คาดหวังว่าใครจะดีกับพี่ร้อยเปอร์เซ็นต์ขนาดนั้น อย่าห่วง เพราะพี่ก็เป็นแบบพี่มากเหมือนกัน เขียนกลอนตามใจตัวเองมากเหมือนกันนะ เอาเป็นว่า เชื่อได้อย่างนึงว่า พี่เป็นคนดี และสบายใจได้ในการพูดคุย \" พี่ไม่ใช่คนรูปหล่อ พี่ไม่ใช่คนเสียงดี \" ทำงานให้มีความสุขครับน้องบัว รักษาสุขภาพด้วยครับ
16 กันยายน 2549 11:32 น. - comment id 606553