Diary สีน้ำเงิน 17 ม.ค. 2545 17:18:53 salen mail forward เมื่ออาทิตย์ก่อน ฉันได้รับพัสดุไปรษณีย์ที่ส่งมาจากเพื่อนคนนึง เพื่อนซึ่งฉันทำเค้าหล่นหายไปกับกาลเวลานานพอดู เกือบปีที่ไม่ได้เจอะเจอกันเลย ครั้งสุดท้ายฉันรู้จากเพื่อนอีกคนเพียงว่า เค้าป่วยแล้วลาออกจากงาน แล้วพาตัวเองหนีความวุ่นวายของสังคมเมืองกลับไปช่วยกิจการของของที่บ้านที่เกาะๆ แห่งหนึ่งในจังหวัด ตราด... ฉันแกะกล่องพัสดุฯ แล้วฉันก็ได้พบ Diary สีน้ำเงิน เล่มหนา ที่ดูเหมือนผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก พร้อมกับข้อความที่เขียนด้ายปากกาเส้นเล็กๆ ว่า สำหรับความรู้สึกที่ดี ของความเป็นเพื่อน พร้อมกับลายเซ็นของตัวเอง.... นี่มัน Diary ของฉันที่เคยเขียนไปได้เพียงครึ่งหน้าและได้ให้กับเพื่อนคนนี้ในวันหนึ่งที่ฉัน ได้รับรู้เรื่องราวไม่สบายใจของเขา และพบว่าที่เขาเล่าให้ฉันฟังมันไม่ใช่ความทุกข์ที่เค้าอยากจะระบายออกมาทั้งหมด.. ฉันเลยแนะนำให้เขาเขียนในสิ่งที่เขาอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ และให้บรรยายมันลงใน Diary ของฉันเล่มนี้ แล้วบอกเขาด้วยว่า ถ้าวันนึงที่เขาไว้ใจเพื่อนอย่างฉันเขาคงเล่าความทุกข์ของเขาทั้งหมดให้ฉันได้รับรู้ ฉันพลิกดู Diary สีน้ำเงินเล่มนี้อย่างคร่าวๆ จากหน้าแรกจนหน้าสุดท้าย... ไม่หน้าเชื่อเพื่อนของฉันคนนี้เขียนมามันจนหมดทุกหน้า ... ไม่บ่อยครั้งนักที่ฉันจะได้เห็นผู้ชายมานั่งเขียนอะไรมากมายอย่างนี้ ..และในหน้าสุดท้ายฉันก็พบรูปของตัวเอง ที่ถูกแปรเปลี่ยนมาเป็นที่คั่นหนังสือ กับข้อความหลังภาพที่ว่า หากเธอมองฉันผ่านมิตรภาพของความเป็นเพื่อน ฉันก็คงเป็นได้แค่เพียงเพื่อน ฉันพลิกกลับมาที่หน้าแรก ตั้งต้นอ่านมันอย่างตั้งใจ จากหนึ่ง เป็นสอง สาม และสี่ ..ตามลำดับเรื่อยมา ... ฉันได้พบชื่อของตัวเองบ่อยครั้งใน Diary สีน้ำเงินเล่มนี้ เหมือนกับเป็นการเล่าสู่กันฟังของเพื่อนกับเพื่อน เรื่องราวที่ฉันได้รับรู้จาก Diary หลายต่อหลายครั้งทำเอาฉันนั่งน้ำตาซึม ... ไม่น่าเชื่อนะ ผู้ชายแข็ง ๆ กระด้าง ๆ ที่มักจะทำอะไรให้คนอื่นได้ยิ้มได้หัวเราะอยู่ตลอดเวลาจะเก็บเอาอะไรมาคิดได้มากมายอย่างนี้.... ฉันอ่านมันหน้าแล้วหน้าเล่า... แล้วฉันก็พบว่าเพื่อนที่ฉันเคยคิดว่าฉันรู้จักเขามากพอดู มาวันนี้ฉันกลับรู้สึกว่าฉันไม่ได้รู้จักในตัวตนของเขาสักเท่าไหร่เลย ฉันสัมผัสเค้าได้แค่เพียงเปลือกนอกที่เค้าแสดงออกมาให้คนอื่นได้รับรู้เพียงแค่นั้น... มีบางแง่มุมที่ไม่เคยได้รู้ ฉันก็ได้รู้ บางเรื่องที่ฉันลืมไปอย่างไม่ได้ใส่ใจก็กลับมาอยู่ในความทรงจำอีกครั้ง.. ฉันได้อ่าน Diary สีน้ำเงินเล่มนี้ได้มากพอดู ถึงได้รู้ว่า สาเหตุที่เธอกลับมาอยู่ที่เกาะ มาช่วยกิจการที่บ้าน เพราะอาการป่วยของเธอนั่นเอง เธออยากกลับมาอยู่ใกล้ ๆ กลับมาดูแลแม่ของเธอในวาระสุดท้ายของตัวเอง ...หมอบอกเธอว่า โรคมะเร็งที่เธอเป็นอยู่มันจะทำให้เธอมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก เธอไม่กล้าแม้แต่จะบอกเรื่องนี้กับแม่ซึ่งทำงานหนักมาทั้งชีวิต โดยที่ทั้งแม่และเธอไม่เคยได้รับการใส่ใจดูแลจากผู้เป็นพ่อเลย ..เธอกลัวแม่ของเธอรับไม่ได้ ..เธอไม่เคยบอกใครถึงสิ่งที่เธอเป็นอยู่ ทางบ้านรับรู้เพียงว่าเธอสุขภาพไม่ดี .... ฉันนั่งนึกถึงแม่เธอที่เคยเจอะเจอเมื่อปีก่อน ผู้หญิงที่ดูเข้มแข็ง แกร่ง อย่างไม่น่าเชื่อ แม่เธอบอกเสมอว่าที่ท่านอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะเธอ เธอเป็นกำลังใจในการต่อสู้และการดำเนินไปของชีวิต..... แม่เธอจะรับได้ไหม ถ้าวันนึงรู้ว่า กำลังใจของแม่กำลังจะจากไป... ฉันรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่เธอได้รับจากอาการข้างเคียงของโรคผ่านตัวหนังสือใน Diary สีน้ำเงิน เธอเขียนไว้ว่า หลายต่อหลายครั้งที่เธอร้องไห้ และคิดถึงเพื่อนอย่างฉัน ยิ่งช่วงท้าย ๆ ของ Diary ฉันได้เห็นชื่อของตัวเองบ่อยครั้งขึ้น บ่อยมากจนรู้สึกว่าเวลานั้นเธอคงอยากให้ฉันอยู่ใกล้ๆ เธอจริง ๆ แต่เธอไม่เคยโกรธที่ฉันห่างหายมาอย่างนี้ เธอบอกว่า เธอรู้ข่าวคราวและความเป็นไปของฉันตลอดจากเพื่อนอีกคน เธอรู้ว่าฉันเองก็มีเรื่องทุกข์ใจที่ต้องเผชิญอยู่เช่นกันเธอถึงไม่เคยเรียกร้อง ที่จะให้ฉันไปอยู่ข้างเธอยามนี้.... ฉันอ่าน Diary สีน้ำเงินเล่มนี้จนจบ ข้อความท้าย ๆ ของ Diary คล้ายจะเป็นการสั่งเสีย ..เหมือนเธอรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับเธอ และเธอกำลังต้องการเพื่อนสักคนในเวลานี้ และคน ๆ นั้นก็คือฉัน หากเธอมองฉันผ่านมิตรภาพของความเป็นเพื่อน ฉันก็คงเป็นได้แค่เพียงเพื่อน แล้วฉันก็พบข้อความนี้อีกครั้ง มันเป็นข้อความสุดท้ายใน Diary สีน้ำเงินเล่มนี้ ..ฉันอ่านมันจนจบ พร้อมกับปิดมันลงด้วยความรู้สึกผิด นานแค่ไหนแล้วที่ฉันทำเพื่อนคนหนึ่งหายไปกับกาลเวลา นี่ฉันเป็นเพื่อนชนิดไหนกันนี่ ยามที่เธอต้องการฉัน ฉันกลับห่างหายมาอย่างนี้ ฉันขอโทษ ขอโทษจริง ๆ ฉันสัญญา พรุ่งนี้ฉันจะกลับไปเป็นเพื่อนที่ดีของเธอเหมือนก่อน กลับไปอยู่ข้างๆ เธอยามที่เธอต้องการเพื่อนสักคน .... แล้วพรุ่งนี้ฉันจะรีบไปหาเธอแต่เช้า กลับไปทำหน้าที่ของเพื่อนที่พึงทำให้เพื่อน ...ฉันสัญญา เธอคงกำลังรอฉันอยู่ .... วันนี้ฉันมาหาเธอที่บ้าน แต่สิ่งที่ฉันพบ .... คือร่างของเธอที่นอนสงบนิ่งอยู่ตรงหน้า ...พบแม่ของเธอที่กำลังร้องไห้แทบขาดใจ แม่โผเข้ากอดฉันเหมือนกำลังจะบอกว่า เธอไปแล้ว เธอจากไปแล้ว...... ฉันมาช้าไป มาช้าไปจริง ๆ ฉันมาไม่ทันลมหายใจสุดท้ายของเธอด้วยซ้ำ ... แม่เธอเล่าให้ฉันฟังหลังจากงานศพของเธอผ่านไป ... แม่บอกว่าเธอมักจะพูดคุยถึงเรื่องราวของฉันให้แม่เธอได้รับรู้เสมอ ...เมื่อไหร่ที่เธอรับรู้ว่าฉันกำลังทุกข์ก็ดูเหมือนเธอกำลังทุกข์ไปกับฉันด้วย.. แม่เคยบอกให้เธอมาหาฉันแต่เธอปฏิเสธ เพราะเธอไม่อยากให้ฉันเห็นเธอในสภาพก่อนที่เธอจะจากไป เธอกลัวว่าฉันจะเป็นห่วงเป็นกังวลไปกับเรื่องราวของเธอ ..แม่เธอบอกกับฉันว่าเธอห่วงฉันมาก แม้กระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตเธอ เธอยังบอกกับแม่ว่า ถ้าฉันมาที่บ้าน แสดงว่าฉันคงไม่ค่อยสบายใจ รู้สึกแย่กับชีวิต ..ฉันถึงพาตัวเองมาหาทะเลมาหาเพื่อนอย่างเธอ ...เธอฝากให้แม่ดูแลฉันแทนเธอด้วย... น้ำตาฉันยังคงอาบแก้ม ขอบคุณ ขอบคุณสำหรับทุก ๆ ความห่วงใยที่เธอมีให้กันเสมอจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตเธอทะเลหน้าบ้านเธอ ที่ฉันเคยบอกว่า เป็นทะเลที่สวยที่สุด วันนี้มันดูเศร้าไปถนัดตา ...หลับให้สบายเถอะเพื่อน ฉันจะไม่มีวันลืมเพื่อนอย่างเธอไปได้เลย ..ฉันสัญญา... วันนี้ฉันนั่งสำรวจตัวเองอีกครั้ง พร้อมกับถามตัวเองว่า ฉันทำใครหล่นหายไปกับกาลเวลาอีกไหม ... แล้วถ้าฉันพบว่ามี ฉันจะรีบกลับไปทวงถามให้เค้ากลับมาด้วยความรู้สึกดีๆ และจะพยายามอย่างที่สุดที่จะรักษาเค้าไว้กับฉันตลอดไป เพื่อนยังอยู่ในใจเสมอ ตัวเล็ก
20 มกราคม 2545 10:18 น. - comment id 31249
แต่เองเหรอคะเนี่ย เก่งจริงๆ ด้วยความจริงใจ
20 มกราคม 2545 13:52 น. - comment id 31293
ขอบคุณค่ะ ... เคยเอาไปลงไว้ www.makmai.org .. แต่มีคนแอบเอาไป pนst ไว้ที่อื่น ... เลยลองเอามาให้เพือน ๆ ใน web ได้ติกันบ้าง ..... ขอบคุณคุณเสี้ยวค่ะ
20 มกราคม 2545 15:48 น. - comment id 31310
น่าอ่าน น่ายินดี และน่ารักด้วยครับ
21 มกราคม 2545 13:32 น. - comment id 31447
เด๋วปริ้นเอาไว้อ่านก่อนนอนทุกวันเลยเน๊าะ...
27 มีนาคม 2548 13:38 น. - comment id 145952
T_T....พูดไม่ออกเลย