ภูมิปัญญาพาพ้น ดูกรภราดรสัทธานุสารี ผู้ที่มีปัญญาพาแตกฉาน ก้าวลงสู่สัมมัตตนิยามญาน สัปปุริสภูมิสถานอันเกรียงไกร ทั้งล่วงรู้ภูมิปุถุชนค้นหาเหตุ กำหนดเขตกรอบกั้นอันผิดวิสัย เพื่อแจ้งโสดาปัตติผลจนวิไล ปัญโญไซร้ให้ฝึกตรึกทุกกาล ด้วยการเพ่งปัญญาหาประมาณ ทั้งตำนานนั้นสัปบุรุษที่กล่าวขาน เป็นธัมมานุสารีที่เบิกบาน จนชำนาญพลันพ้นสี่อบายภูมิ อะไรเล่าสาเหตุปริเฉทสร้าง พิจารณาวางจักษุคุกรุ่นกลุ้ม ทั้งหูจมูกลิ้นกายภายในรุม เข้าสุมทุมรุมทุกข์ปลุกใจเหลิง มีรูปธรรมนามธรรมนำประดิษฐ์ สิ่งถูกผิดติดใจจนได้เถลิง โผฏฐัพพรูปเสียงกลิ่นรสระเริง ธรรมารมณ์กระเจิงเพลิงเผาเฝ้าตรอมตรม สติตั้งข้างสัมปชัญญะหาสาเหตุ นรกเขตด้วยกรรมอย่านำสะสม หลีกพ้นห่างวางไกลจะไม่ระทม แล้วสร้างปมด้วยธรรมนำปัญญา นี่แหละหนอกงเกวียนเวียนธรรมะ ใช้ชำระจิตไว้จนได้หรรษา เป็นหนทางวางไว้ให้ลือชา ก้าวเดินหน้าผ่ามรรคจักนิพาน. *** แก้วประเสริฐ. ***
27 มิถุนายน 2549 20:21 น. - comment id 586729
ลุงแก้วค่ะ บัวว่าคนเราเกิดมาบนโลกใบนี้ มีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไปนะค่ะ ถ้าเราสามารถควบคุมจิตไม่ให้คิดกะทำชั่วได้ เราทุกคนทำทั้งบาปและบุญคู่กันมาบ้างครั้งก็ทำบาปโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่บางคนก็ทำโดยไม่กลัวว่าจะบาป จิตไม่ใช่ของเรา มันเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง บนโลก แปรเปลี่ยนไปมาได้เหมือนสายลม นาทีนี้มีความสุข นาทีนั้นทุกข์อย่างอัตโนมัติ เราไม่สามารถควบคุมจิตใจเราได้เลย ผู้ที่ฝึกอย่างจริงจังเท่านั้นจึงจะสามารถควบคุมจิตได้ บัวขอแค่มีปัญญาสว่างไสวเข้าใจธรรมะบ้างก็พอค่ะ ถึงร่ำรวยแค่ไหนตายไปก็เหลือแต่ชื่อ สังขารเกิดมาแล้วก็เสื่อม ความสัตย์ซื่อสุจริตอยู่กับเราไม่มีตาย สิ่งใดในโลกล้วนอนิจจัง
27 มิถุนายน 2549 21:11 น. - comment id 586743
เห็นด้วยครับบบบบบบบบบบ อิอิอิอิ
28 มิถุนายน 2549 08:41 น. - comment id 586848
กานต์ปัญญาแค่หางอึ่งจะพ้นภัยไปได้ไหมน้าคุณลุง
28 มิถุนายน 2549 11:29 น. - comment id 586884
คุณ ดอกบัว จ้าใช่แล้วในโลกนี้ปะปนไปด้วยทุกข์และสุข ไม่มีทุกข์ไม่มีสุขนั้นหายากดุจหาเข็มในมหาสมุทรครับ ทุกข์และสุขไม่ได้มาหาเราแต่เราไปหามันเองครับ อะไรเล่าก็จิตเจตสิกใจนี่แหละไปสอดส่ายขอใช้คำว่า เสือกด้วยเพราะชอบวุ่นวายไปเสียหมด ปกติคนเรา ใจเราจะวางเฉยๆแต่จิตอันเป็นส่วนหนึ่งซิมัน วุ่นวายชอบสอดรู้สอดเห็นไปหมด ก็ไปหาเรื่องมา เมื่อจิตเกิดขึ้นเจตสิกซึ่งเปรียบเสมือนเงาก็คอย เฝ้าติดตามจิตอยู่เสมอๆ ก็เปรียบเสมือนเลขาฯ ของใจนั่นแหละคอยจดบันทึกการกระทำของจิต แล้วก็รายงานให้ใจได้รับรู้อารมณ์นั้นๆ เมื่อใจรับรู้ผลของการกระทำของจิตแล้วก็จะส่งไป ยังรูปนามคือกายที่เราอาศัยนี่แหละก็จะเกิดเวทนา เสวยอารมณ์ทุกข์หรือสุข หากแค่นั้นก็ไม่เป็นไร ฮึๆๆดันส่งไปยังสัญญาคือความจำได้หมายรู้ เมื่อ สัญญาจำได้ถึงเหตุการณ์ของจิตก็จะส่งต่อไปยัง สังขาร สังขารอันนี้มิใช่ร่างกายที่คนทั่วๆไปคิดนะครับ สังขารอันนี้ก็คือการปรุงแต่งอารมณ์ของเรา ตัวนี้แหละคือตัวสำคัญมากการจะหลุดพ้นจาก กิเลสได้ทั้งหมดก็ตัวนี้แหละ หากไม่ปรุงแต่งอารมณ์ ก็จะเกิดฌานและญานขึ้นเข้าตัดรอนกิเลส ทั้งปวดจนสิ้นซากก้าวล่วงเข้าสู่พระอรหันต์ผล แล้วสู่ดินแดนอมตะนิพพานครับ ดังนั้นตัวนี้แหละที่ทำให้คนเราต้องฝึกจิตใจ ของเราให้ปราศจากการปรุงแต่งอารมณ์ให้เกิด ความมั่นคงไม่หวั่นไหวต่อเหตุการณ์ที่รับรู้และ เกิดขึ้น จะด้วยสมถะหรือวิปัสสนาญานก็ตาม โดยใช้ปัญญาของเราเป็นผู้ตัดปล่อยละวางทั้งสิ้น เมื่อสังขารนี้ปรุงแต่งอารมณ์เสร็จก็จะส่งไปยัง วิญญาณ และก็อีกวิญญาณนี้ความหมายมิได้ หมายถึงดวงวิญญาณของร่างแต่ก็ใกล้เคียงครับ วิญญาณนี้ประกอบไปด้วยจิต เจตสิกและใจครับ เมื่อสังขารส่งอารมณ์นั้นไปยังวิญญาณ เจ้าวิญญาณนี้ก็จะ ส่งไปยังรูปและนามบังคับรูปและนามให้ทำ ตามอารมณ์ที่สังขารปรุงแต่งขึ้นไว้ จะเห็นได้ว่าอารมณ์ที่เกิดความทุกข์หรือสุขก็ตาม ย่อมนำมาสู่ ทุกข์สุขทั้งสิ้น อยู่ที่ว่าคนเรานี้จะทำ ตามอารมณ์หรือวางเฉยต่ออารมณ์ดังเช่นอุเบกขา หรือไม่เท่านั้นครับ หากเป็นทางอภิธรรมก็จะแสดงเรื่องของจิต อย่างละเอียดต้องการทราบไปติดต่อกับคุณ ดอกแก้ว ที่เป็นเจ้าสำนักมูลนิธิอภธรรม ที่ชื่อว่า คุณ บุษกร เมธางกูรได้ครับจะได้รับความรู้ อย่างละเอียดทีเดียว จิตอันนี้จะเกิดและดับทุกๆเสี้ยววินาทีครับแต่ ก็เกิดดับต่อเนื่องๆไม่ขาดตอนจนกว่าจะเป็น อนัตตาครับ ผมเองก็มีความรู้ประดุจหางอึ่งจะวิสัชนา ก็ไม่สามารถทำได้ ความโง่เง่าผมมีมากครับ เอาเพียงว่าแค่รู้นิดๆหน่อยๆมาคุยกันประดับ ปัญญาให้แก่คุณดอกบัวนะครับ อย่าหาว่าผม สอนเลยนะครับ คนเราชอบพอกันเห็นสนใจ ก็เลยพร่ำเสียยึดยาว ครับแล้วไปพิจารณาว่า ผิดถูกอย่างไรหากผิดก็อย่าเอาไปหากถูกลอง คิดพิจารณาดูเอาเองนะครับ อ้อ..รูปคือการรวมตัวของธาตุทั้งห้า อันได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ และวิญญาณ หากลึกๆลงไป จะเพิ่มอีกหนึ่งคือ อากาศธาตุ อันนี้นั้น บางแห่งรวมไว้กับ ธาตุลมจ๊ะ แต่จริงๆมันแยก กันนะครับ หากทำสมถะกรรมฐานเกี่ยวกับ ฌานสมาบัติถึงจะรู้ครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
28 มิถุนายน 2549 11:38 น. - comment id 586890
คุณ อัสสุ ขอบคุณจ๊ะ เห็นด้วยแล้วพิจารณาลึกๆนะครับ แก้วประเสริฐ.
28 มิถุนายน 2549 11:43 น. - comment id 586893
คุณ เพียงพลิ้ว เอ๊ะทำไมกานต์ช่างเหมือนผมเสียเหลือเกิน คือปัญญาโง่งี่เง่ามากยากที่จะพ้นภัยในเรื่องนี้ ครับ ขอบใจม๊ากๆนะครับ แก้วประเสริฐ.
28 มิถุนายน 2549 12:14 น. - comment id 586910
เพ่งยุบหนอพองหนอรอปัญญา เริ่มแก่กล้ามองเห็นภูมิสวรรค์ มองเห็นทุกข์สังขารสัมปชัญ เห็นนรกโลกัต์อบายภูมิ เด่นเลขเด็ดเก้าสองของตัวล่าง ตัวบนวาง แปดสามงามหลายขุม ถ้าสามตัวมีเจ็ดตามมาคุม งวดนี้ทุ่มเต็มที่มีเฮแน่....... อิอิ ถ้านอนโลงผีได้ยิ่งขลัง
28 มิถุนายน 2549 13:13 น. - comment id 586937
คุณ ฤกษ์รูปหล่อ 55555 เอิ๊กๆๆๆ...เอ๊าๆๆๆ....เจ้าข้าเอ๋ย เลขเด็ดดวงใจมาแล้วจ๋าจาก..\"อาจารย์ฤกษ์โลงศพ\" นานๆอาจารย์ทางอีสาณจะให้มาน๊ะ... อาจารย์ว่า...783 บนฟ้า พสุธา..792 หากเป็นม้าละก็วิ่งได้รวดเร็ว 7 พายุหมุนจ้า 5555555555555555555555 แก้วประเสริฐ.
28 มิถุนายน 2549 16:01 น. - comment id 586985
++ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ อากาศธาตุ มีอีกอย่างค่ะ.. วิญญาณธาตุ .. เป็นธาตุที่เราควรจะค้นหา.. มากว่าธาตุใดๆ +++ มาเยี่ยมจ้า..ลุงแก้ว.. สบายดีนะคะ..
28 มิถุนายน 2549 20:19 น. - comment id 587047
คุณ น้ำใส จ้าขอบใจ เอ๋...แต่ผมบอกไว้แล้วนี่ครับ สงสัยจะอ่านเร็วเลยมองข้ามไปไม่เป็นไรครับ คือรูปนั้นเกิดจาก ดิน น้ำ ลม ไฟ วิญญาน ไงล่ะจ๊ะแต่เพิ่มอีกเพราะแยกมาจาก ลม คือ อากาศ รวมกันเป็น 6 จ๊ะ คือธาตุดินธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ วิญญานธาตุ และอากาศธาตุ บางแห่งบอกแค่ 4 บ้าง 5 บ้าง 6 บ้าง เพราะธาตุลมกับอากาศธาตุจะอยู่ร่วมกัน แต่ไม่ใช่ธาตุเดียวกัน เปรียบเสมือนกับ จิตกับเจตสิกไงล่ะจ๊ะ อิอิ เท่านี้นะจะเดี๋ยว หาว่าผมรู้มากไปจ๊ะ สบายดีตอนนี้กำลัง รักษาสุขภาพเพื่อจะไปตะลอนๆทางอีสาณ อยู่นะ ต้องรักษาตัวหน่อย กลับมาแล้ว หากมีเรื่องดีๆจะเล่าให้ฟังนะจ๊ะ แก้วประเสริฐ.