1. ฟ้าขาวแจ้ง เรียมคลายหม่นทรวงหมอง เริงลำพองทรวงหลาย บ่หน่ายฟังลมอ้อน 2. แสนสะออนเดือนเอื้อ ให้ฝันเฟือฟากฝั่ง คะนึงหลังก่อนก้ำ ฟังคำเจ้าจ่ายผญา 3. ในอุราริกร่วน ซอไผ่ผวนคร่าวคำ ( ค่ำ ) ปานลำนำออดน้อง อยากโอบเน้น บ หนี 4. เรียมภักดีบ่กระด้าง เพราะรักนางนั่นแน (แน่) หัวใจเรียมสิทุกข์แท้ หากนวลน้องหน่ายแหนง 5. แสงจันทร์จ้า แยงหลังคาบ้านเพิน ( เพิ่น ) ฝากซอไผ่ไปเอ่ยเอิ้น นามน้อง อ้ายคิดนำ แท้เดอ..
10 มิถุนายน 2549 23:00 น. - comment id 583044
ผญานี้ถ้าอ่านออกสำเนียงอีสานและเอื้อนด้วย จะไพเราะกว่าสำเนียงกรุงเทพฯนะครับ เมื่อวานได้มีโอกาสต้อนรับครูใหญ่โรงเรียนเล็ก แม้เป็นเวลาช่วงสั้น ๆ ก็ปลื้มอกปลื้มใจมากครับ
11 มิถุนายน 2549 00:27 น. - comment id 583054
:) เมื่อคืนวาน ขณะที่นั่งรอดูพลุที่ศูนย์ประชุมสิริกิต์ จากจุดที่นั่งบนเสื่อหันหน้าไปทางสวนหย่อมของโรงงานยาสูบ อัลมิตราก็มองเห็นดวงจันทร์ที่ลอยสูงบนฟ้าทางด้านที่มีธงแยะๆ ตอนนั้น ใกล้เวลา 19.19 น. ตามกำหนดการจุดเทียนถวายพระพร ได้ยินคนข้าง ๆ บอกว่า ตายล่ะ เอาแต่เทียนมา แต่ไฟไม่มี อัลมิตราแอบขำในใจ จันทร์สุกสว่างนะ ถ้าเอาเทียนไปจิ้ม คงมีไฟบ้างล่ะ ส่วนราชการ+โรงเรียนที่กรุงเทพ หยุดยาว 5 วัน สำหรับอัลมิตรา หยุดเพียง 3 วันเองนะคะ วันที่ 12 ไฟท์บังคับให้หยุดโดยถูกหักพักร้อนกันทุกคน ถึงแม้ว่าจะอารมณ์เซ็งนิดหน่อยกับความคิดของฝ่ายบริหาร แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากเก็บความรู้สึกไว้ในใจ .. เพิ่งได้โอกาสเหมาะ เอามาดิ่งที่กระทู้นี้ ฮา.. ฟังเสียงบ่นขรมจากเพื่อนร่วมงานเต็มไปหมด สามวันสำหรับงานฉลองในเมืองกรุง อยากให้ยืดยาวไปสักสามปี ว่าแต่ว่า .. คลัง ไม่มีตังค์มากพอจะจัดงานได้ขนาดนั้น เอ .. หรือว่าเกลี้ยงคลังไปนานแล้วก็ไม่รู้
11 มิถุนายน 2549 00:43 น. - comment id 583057
ได้ยิ้มตอนดึก ๆ คุณอัลมิตราเพิ่งตื่นหรือยังไม่นอนครับเนี่ย ท้องฟ้าวันนี้เมฆทึบบังจันทร์เกือบมิดแล้ว แต่เมื่อวานฟ้าแจ่มมาก ๆ มีเมฆเป็นริ้ว ยาว ๆ อยู่แป๊บนึงก็ลอยหายไป เมื่อคืนวานผมตากลมและอาบจันทร์อยู่นอกชานกินเหล้าและคุยกับครูใหญ่ที่แวะมาธุระที่สกลนคร ก็คุยกันไม่ดึกนัก เพราะรุ่งเช้าครูใหญ่ก็ต้องเดินทางต่อ ส่วนผมก็ติดไปเรียนอีก ผมได้ฝากคำขอบคุณมาถึงคุณอัลมิตราด้วยครับ ผมได้รับหนังสือการเขียนโคลงที่คุณอัลมิตราส่งให้แล้ว
11 มิถุนายน 2549 01:00 น. - comment id 583062
จุ๊ๆๆๆ อย่าเอ็ดไป .. อัลมิตราเพิ่งตื่นน่ะ เมื่อคืนวันที่ 9. ที่เล่าว่าไปดูพลุที่ศูนย์สิริกิต์ กว่าจะฝ่าฝูงชนออกมาที่จอดรถมอเตอร์ไซด์ไว้ ก็นานโข แต่นานยิ่งกว่านั้นอีก สำหรับค้างเติ่งบนถนน คนแยะมาก ๆ สองฟากถนน ล้นหลามจริง ๆ ขนาดรถมอ\'ไซด์ยังฝ่าออกไม่ได้แน่ะ พอกลับมาถึงบ้าน ก็อ้อยอิ่งทำนั่น ทำนี่ เช้าก็เลยตื่นออกไปเล่นบาสเก็ตบอล จากนั้น ก็ไปโต๋เต๋ที่โลตัส ไปสืบราคาของนิดหน่อย ตอนแรกว่าจะไปโบ๊เบ๊ หรือไม่ก็สำเพ็งนะ เหมือนเดิม .. ไปเช็คราคาเครื่องเขียนด้วย อ้อ ! อัลมิตราลืมถามครูใหญ่ฯว่า ที่บ้านตานวน เขาให้เด็กนักเรียนสวมเสื้อเหลืองในวันจันทร์หรือเปล่า ที่กรุงเทพฯ เด็กนักเรียนต้องสวมเสื้อเหลืองทุกๆวันจันทร์นะ ที่ถาม ก็เพราะจะได้จัดหาเสื้อสีเหลืองให้ แต่ถ้าไม่ได้กำหนดไว้ ก็จะจัดหาเป็นเสื้อกีฬาเหมือนเดิม แอบถามจากทางคุณก่อพงษ์ ก็น่าจะได้เนอะ
11 มิถุนายน 2549 01:10 น. - comment id 583065
เด็ก ๆ ที่โรงเรียนของผมไม่ต้องสวมเสื้อเหลืองครับ และก็ไม่มีการกำหนดให้เด็กสวมเสื้อเหลืองด้วยครับ ส่วนครู และพวกข้าราชการนี่ต้องใส่ทุกวันจริงครับ เด็กที่โรงเรียนครูใหญ่ก็น่าจะเหมือนกัน กับโรงเรียนของผมนะ คือเขาไม่บังคับอย่างนั้น ปีนี้คุณอัลมิตราจะเขียนกวีนิพนธ์ส่งประกวดรางวัลนายอินทร์ไหมครับ ผมอยากเชียร์คุณอัลมิตรานะ
11 มิถุนายน 2549 01:15 น. - comment id 583067
งานประกวดเหรอ ? อืมม !!.. ไม่เคยส่งงานเข้าประกวดเลยนะคะ เมื่อปีกลาย โดนลุงอ่ำเขกหัวฐานที่อัลมิตราไม่สนใจเรื่องประกวด อัลมิตราจะเขียนงานประกวดได้เหรอเนี่ย คำของลุงยังก้องอยู่ในหัวเลยนะ งานห่อกล้วยแขกอ่ะ คุณก่อพงษ์ประกวด อัลมิตราก็เชียร์คุณก่อพงษ์นะ
11 มิถุนายน 2549 01:21 น. - comment id 583068
ผมเคยโม้ว่าเขียนได้ เอาเข้าจริง เมื่อกลับไปอ่าน ผมรู้สึกตลกๆ มากกว่า เลยเก็บไว้ให้ลมตะวันกับปานตะเว็นอ่านดีกว่า ขอบคุณคุณอัลมิตราที่เชียร์นะครับ อืม..ตอนนี้1:25 น. พอดี ลูกกับภรรยาของผมไปนอนตากลมที่ชานบ้านยาย ผมจึงอยู่บ้านคนเดียวครับ คงได้เวลาขึ้นไปนอนแล้วครับ พรุ่งนี้ผมและอ้ายหนูต่างก็ต้องเข้าเมืองไปเรียนเหมือนกัน ราตรีสวัสดิ์นะครับ
11 มิถุนายน 2549 06:03 น. - comment id 583073
ผญาใหญ่อัสสุจาได้ยังบ่เป็น มีแต่จาเล่น ๆ ผญาน้อยข่อยเพิ่งเฮียน จังสิกะว่าผญาเด้อ พี่ชายเอ๋ย............
11 มิถุนายน 2549 11:32 น. - comment id 583108
คงอ่านได้แบบสำเนียงคนกรุงเทพฯละ จะหาคนที่อ่านสำเนียงคนท้องถิ่นอีสานให้ฟังแต่ยังหาไม่เจอ...เฮ้อๆๆๆเศร้าเลยเรา เพราะอดฟังความเพราะของไผ่ออดกอ
11 มิถุนายน 2549 12:16 น. - comment id 583114
ไว้จะให้คุณครูใหญ่เอื้อนผญาเป็นสำเนียงอีสาน ต้องเค้นคอเขามั๊ยเนี่ย ฮา ..
11 มิถุนายน 2549 14:10 น. - comment id 583140
.. เรนก็เป็นไผ่ออดกอ.. ตอนมีพ่อเรนอ้อนเก่ง.... พ่อคะพ่อขา..มีเป็นเข่ง เรนก็เก่งเป็นไผ่..คอยออดกอ.. .. เรนถามนิดดดนึงนะคะ .. เรนชอบชื่อของน้องเค้านะคะ .. ลมตะวัน ..ไพเราะทั้งคำและความหมาย.. แต่ ปานตะเว็น..เรนไม่รู้ความหมาย.. บอกความหมายเรนได้ปล่าวคะ .. เก๊าเพราะเรนว่า ..ชื่อน้องเค้าแปลกจัง.... เรนขอบคุณ..คุณก่อพงษ์นะคะ..
11 มิถุนายน 2549 18:33 น. - comment id 583178
สวัสดีครับคุณอัสสุ ได้ยินผญามาก่อนบ่ไหมครับ ผมเคยฟังในวิทยุบ่อยมากตอนเป็นเด็ก โตขึ้นได้อ่านบ้างนิดหน่อย เขียนแลกกันอ่านก็ดีครับ อีกหน่อยเราต้องไปเรียนเป่าแคนที่ญี่ปุ่น ไปเรียนลาบงัวที่เกาหลี ไปเรียนหมกปลาร้าที่จีน ไปเรียนขนมจีนที่อเมริกา ไปเรียนผญาที่อังกะหริดหรืออินเดีย ฯลฯ ทำไมน่ะหรือ ก็เขาพวกนั้นฉลาดเอาไปจดลิขสิทธิ์ก่อนเราสิ คอยดูเถอะ อีกหน่อยก็ไม่เหลืออะไรเป็นของเรา ภาษีนี่เรายังต้องจ่ายสิงคโปร์เลย จะฮาหรือจะไห้ดีฮึนี่ ------------- สวัสดีครับคุณแก้วนีดา ออกสำเนียงกรุงเทพฯกล้อมแกล้มไปก่อนนะครับ นึกว่ากินข้าวเหนียวกะหูฉลามก็แล้วกัน ------------------ คุณอัลมิตรา ครูใหญ่น่ะเซียนผญานะครับ เสียงดีอีกต่างหาก ส่วนต้องเหนี่ยวคอตีเข่าด้วยไหม จึงจะได้ฟัง อันนี้ลืมคำตอบ -------------- ทักทายคุณเรนครับ ลมตะวันกับปานตะเว็น ชื่อใกล้เคียงกันครับ ลมตะวัน ความหมายตรงตัว ส่วน ปานตะเว็น นั้น ปาน=อย่างกับ ตะเว็น=ตะวัน รวมแล้วก็คือ อย่างกับตะวัน คุณเรนชอบตะวันไหมครับ ตะวันคือสัญญลักษณ์ของพลัง และเสน่ห์ครับ
11 มิถุนายน 2549 20:31 น. - comment id 583190
ครูใหญ่น่ะเซียนผญานะครับ เสียงดีอีกต่างหาก ส่วนต้องเหนี่ยวคอตีเข่าด้วยไหม จึงจะได้ฟัง อันนี้ลืมคำตอบ ฮาแท้ !! ๕๕๕ ... อัลมิตรากำลังนึกถึงลูกลิงตัวเล็กๆ เหนี่ยวคอกอลิล่านะนั่น คิดจะเขย่าศอกเป็นของแถม แต่แหม๊ หุ่นห่างไกลลิบลับเลยค่ะ กลัวพ่อคองจะเหยียบเจี๊ยกน้อยจัง
11 มิถุนายน 2549 21:21 น. - comment id 583206
ฮ่าๆ เย็นนี้มาไว โน่นจันทร์อยู่ไกลเท่าใดหนอ ลมค่ำดลให้ไผ่สีกอ ไผ่ออออดเอิ้นฟังเพลินดี กระจับต่งลงสายเป็นลายสม ซอนลมซ่อนหลง บ คงที่ แคนเพิ่นพลิ้วมาหัวราตรี ค่ำนี้ขอผญามาอวยจันทร์ ฯ ทักทายคุณอัลมิตราครับ
11 มิถุนายน 2549 21:38 น. - comment id 583213
อยู่บ้านไม่ได้ไปไหน ตอนหัวค่ำ ก็คิดว่าจะไปเตร็ดเตร่ดูพลุ ดูแสงสีกะเขาบ้าง แต่ก็ได้ยินเสียงคำรามของฟ้าประปราย ก็เลยเปลี่ยนใจ อยู่บ้านดีกว่า นั่งอ่านกลอนไล่ไปเรื่อยเปื่อย พร้อมกับอ่านหนังสือเที่ยวทั่วไทยไปกับนายรอบรู้ พลิกหน้านั้นหน้านี่ ดูน่าสนใจไปหมด จุดที่คุณใช้งานคอมพิวเตอร์นั้น มองเห็นจันทร์มั๊ย .. ? มุมที่นอนของอัลมิตราเป็นมุมที่มองจันทร์สวยที่สุด และจุดที่ใช้งานเครื่องอยู่หากมองไปทางซ้ายก็จะเห็นจันทร์ค่ะ
11 มิถุนายน 2549 21:45 น. - comment id 583214
คุณเรนชอบตะวันไหมครับ ตะวันคือสัญญลักษณ์ของพลัง และเสน่ห์ครับ.. .... เรนรักและศรัทธา..ดวงตะวันที่สุดด้วยดิคะ.. ..ตะวันทำให้เรนรู้สึกอบอุ่น.. และตะวันก็ทำให้เรน..รู้สึกปลอดภัย.. พ่อเรนเป็น..ดวงตะวันที่มีพลัง.. และพ่อเรนก็เสกตะวันที่เป็นพี่ชาย..มาคุ้มครองเรน.... เรนรักตะวัน.. .. .. น้องๆก็มีตะวันในดวงใจแบบเรน.. พ่อ..คือตะวันที่ยิ่งใหญ่.. เรนเชื่อแบบนั้นนะคะ.. เรนขอบคุณในคำและความหมายของน้องปานตะเว็นนะคะ.... ..
11 มิถุนายน 2549 21:49 น. - comment id 583217
..พระจันทร์เรนก็รักนะคะ.... แป๊ปเดี๋ยวเรนจะแอบแว้ปป ..ไปดูพระจันทร์ตามที่พี่อัลมิบอก.. แว้ปปป..
11 มิถุนายน 2549 22:05 น. - comment id 583222
อย่าเพิ่งมานะฝน เมฆหมองละอองหม่นก็ บ หมาย ก็เดือนงามยามแลแหมวาวพราย เถิดจงหงายส่องทรวงเริงสราญ ตรงที่ผมอยู่ มองออกไปเห็นจันทร์ได้ในมุมเงย อยู่ตรงยอดไม้พอดีเลยครับ อากาศเย็นสบายๆนะครับคืนนี้
11 มิถุนายน 2549 22:17 น. - comment id 583223
ทักทายคุณเรนด้วย วาดจันทร์ไว้บึ้งใจ ยามไหนที่ใจเหงา เถิดจันทร์ช่วยบรรเทา ใจเฉาจงคืนฉาย ราตรีไร้ตาวัน ก็มีจันทร์กับดาวราย กล่อมพาลืมล้าหน่าย ยิ้มสิเพื่อนคลอเพลงเพลิน
11 มิถุนายน 2549 22:21 น. - comment id 583224
ฮ้าววววว ... อัลมิตราจะไปโหม่งหมอนล่ะ
11 มิถุนายน 2549 22:23 น. - comment id 583225
หลับฝันดีครับคุณอัลมิตรา
11 มิถุนายน 2549 22:24 น. - comment id 583226
เด๊อ น่าง เด่อ เด๊อ เด๊อ น่าง เด่อ ...... หยากสิแตงเป่นน่ำเด้อ้าย สอนน่องหล่าแนเด้อ
11 มิถุนายน 2549 22:44 น. - comment id 583229
สวัสดีดึกครับMomMamSan ลำซิ่งนี่ไม่ถนัดแต่งดอก แต่ถนัดเกาะขอบเวทีแญงนางรำ-ฮา ผญา คล้ายโคลงครับ มีเสียงเอกโทด้วย และก็ไล่เสียงสูงต่ำเหมือนดนตรีเหมือนกัน บังคับไม่เข้มอย่างโคลงสี่สุภาพทั้งจำนวนคำและเอกโท แต่การอ่านผญาออกสำเนียงกรุงเทพฯนี่มันไม่เพราะเอาเลย กับคำไทยคำกรุงเทพก็มีข้อจำกัด คือออกเสียงไม่ตรงกับลิ้นอีสานด้วย ก็เอาพอกล้อมแกล้มไป ให้รู้ว่านี่คือผญา ลองเบิ่งซักบทเนาะ ::แญงเดือน:: 1. เดือนใสแจ้ง แญงหนทางว่างเปลา หัวใจเหงาโศกฮ่าย ซายเซ่อซางวิโหวง 2. นังเขียนโคลงทรวงค่าง บ่เห็นนางอ้ายเนือย เปลือยหัวใจให้จันทร์เจ้า ทุเลาท่นทุกข์ถม 3. บัดพอลมติงไม่(ไม้) ใจบัดเลลวนต่าง ปานซาตาอ้ายต่างหล่าง นวลสิต้องได้แต่ตอย 4. ... ลีลามันง่ายแต่เขียนด้วยคำกรุงเทพ ญากอิหลี
12 มิถุนายน 2549 11:14 น. - comment id 583270
ซวด ซวด อ้าย
12 มิถุนายน 2549 20:36 น. - comment id 583291