โปรดเถอะ (โคลง ๕ พัฒนา) ยามรุ่มร้อน แรงเริง ไยแผดเพลิง ผ่าวซ้ำ กรานดำเกิง แดนกรุ่น เลวร้ายล้ำ ล่วงลาม พลามพลุ่งเพี้ยง พังภินท์ พาแผ่นดิน เดือดไหม้ วารีริน ฤาดับ เจียนร้างไร้ เรี่ยวแรง แฝงเล่ห์เฝ้า ใฝ่ฝัง กี่คาบยัง ย่ำขยี้ ภาคใต้ดัง แดนดุ บรบ้าบี้ บ่อนเบียน เพียรเกี่ยงแก้ กำเดา เพียรช่วยเพลา ผ่อนร้าย เพียรบรรเทา ทุกข์ทุ่ม เพียรสู้ย้าย สิ่งสยอน ยังห่อนพ้น พาลา ยังชลนา เช่นนั้น ยังโศกา กำสรด ยังแค้นคั้น คั่งสุม อีทิสังฉันท์ ๒๐ ร้อนขย่มระเร่าเขย่าระรุม อุบาทว์ประชันฉกรรจ์ประชุม ประเชิญภัย ใครณรงค์ระกำกระทำกะใคร ประชาซิ่ป่วนจะล้วนประลัย ชิวาลาญ ใช้อุบาทว์ระบอบประกอบรบาญ ประมวลประเมินก็เกินประมาณ เพราะมากมาย กราดกระเจิงกระเจิดเตลิดกระจาย ละสิ่งละซ้ำระส่ำระสาย ระเสิดซม ไหนล่ะสันติศานติ์สราญมิสม สะเทือนสถานสะท้านระทม ฤทัยทน โอย! อเนจอนาถพินาศอนนต์ ก็คนแหละเข็ญจะเข่นกะคน ณ เขตคาม เทวะแดนสวรรค์สุวรรณวะวาม เผดียงพระยินระบิลนิยาม ณ ยามเข็ญ วอนพระเทวะดับระงับประเด็น กระหายประหาญระรานผิว์เห็น ก็พลันหาย โปรดเถอะสันติบ่งประจงระบาย ธุมางค์คละคลุ้มชอุ่มก็คลาย คุคลั่งเทอญ (๑๙ เมษายน พ.ส. ๒๕๔๙)
22 พฤษภาคม 2549 19:30 น. - comment id 578980
๐ เรื่อยเรื่อยลมรวยริน นกกาบินหวนกลับรัง พลัน..!.เสียงคำรนดัง ก้องกังวานอยู่อึงอล ๐ เป็นปืนที่แตกเสียง กลางสำเนียงแห่งผู้คน เป็นไทยที่อับจน และทุกข์ทนในหนทาง ๐ หนึ่งปากกระบอกปืน เท่าแสนหมื่นความระคาง ไฟพลุ่งเหมือนรุ่งสาง ส่องอ้างว้างและสับสน ๐ ร้อยพันกระบอกปืน คือแสนคลื่นหัวใจคน หัวใจที่ทุกข์ทน กลางวังวนความเกลียดชัง ๐ โหยเสียงสำเนียงสวด เพื่อเจ็บปวดทอนกำลัง ปืนแว่วไม่แผ่วหวัง หากบางครั้งกลับพังครืน ๐ เจื้อยปี่ชวาแจ้ว กรีดเสียงแผ่วให้กล้ำกลืน ศาปดินและกลิ่นหืน ศพเมื่อคืนน่ะพ่อใคร..?
22 พฤษภาคม 2549 21:18 น. - comment id 578996
โอ้โห ประชุมกลอนกันเก่งจังอ่ะครับ อยากแต่งได้แบบนี้บ้างจัง นับถือ
22 พฤษภาคม 2549 22:03 น. - comment id 579015
เขียนได้ดีมากค่ะ..มาชื่นชมด้วยใจจริงนะคะ
23 พฤษภาคม 2549 16:04 น. - comment id 579114
สวัสดีค่ะ มะกรูดมาชื่นชมนะค่ะ
24 พฤษภาคม 2549 01:52 น. - comment id 579233