โลกหมุนเปลี่ยนเวียนไปไม่เที่ยงแท้ ความผันแปรเพิ่มพูนมิสูญสิ้น เคยอวดดื้อถือบ้าเป็นอาจิณ ทั้งชีวินเคยย่างก้าวผ่านหนาวร้อน รอยยับย่นบนหน้าเหมือนมาย้ำ มือกร้านกรำงานหนักมิพักผ่อน ชีพเข้มข้นเติมฝันทุกขั้นตอน มิกัดกร่อนวิญญาณ์มิล้าแรง ประกายตาเยือกเย็นเร้นความหมาย ทุกข์กล้ำกรายสอนตนจนเข้มแข็ง สังคมทรามซ้ำทบตลบแตลง สร้างคนแกร่งตื่นฝันร้ายต้านพ่ายแพ้ ชีวิตจะยิ่งใหญ่เพราะใจสู้ จะยังอยู่หรือไปใครแยแส ฟ้าฝนน้ำมากมวลล้วนรังแก ความฝันมอดสวนกระแสจนแปรปรวน เส้นสีเงินของหงอกเหมือนบอกว่า ผ่านชีวาเนิ่นนานกาลมิหวน สุขเศร้าเหงาอย่างไรได้ทบทวน ถึงคร่ำครวญก็แค่นี้แหละชีวิต
9 เมษายน 2549 12:13 น. - comment id 570674
ฟังแล้งปลงอนิจจัง
9 เมษายน 2549 13:42 น. - comment id 570691
...โดนใจจัง...นี่คือ..สัจจธรรม..แห่งชีวิตค่ะ..มาชื่นชมนะคะ..
10 เมษายน 2549 23:19 น. - comment id 570854
ชอบ ครับ ชอบ อ่านสองรอบเลย มีกลอนใครก็ไม่รู้เขียนแนวคิดนี้แหละ บนถนนชั่วดีของชีวิต สิ่งถูกผิดเผากมลอย่าหม่นไหม้ ความรู้สึกสับสนกังวลใจ คือความนัยที่สำนึกเป็นศึกทรวง copy มา จำชื่อคนเขียนไม่ได้ ยาวกว่านี้ผมลอกไว้แต่จำไม่หมด อ่านทีไรกินใจทุกที เขียนมาอ่านอีกนะคับ
11 เมษายน 2549 08:40 น. - comment id 570916
สวัสดีครับ..คุณณี ฟังคนแก่บ่นน่ะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ สวัสดีครับ..คุณราชิกา ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ..คุณครูใหญ่ฯ ขอบคุณมากครับ ผมจะเขียนมาให้อ่านอีกครับ ชอบงานแนวนี้อยู่เหมือนกัน