..๏ ทุกข์เทวษดวงแดแลรังร้าง ให้เคว้งคว้างเสียจริงมิ่งขวัญหาย นกตะวัน..หลบเร้นมิเห็นกาย แสนเสียดายเคยยลนัยกลกลอน พ่อไม่มาปรากฏจวบจรดปี คงบ่มีเยื่อใยในสมร เป็นวิหคแปรถิ่นบินสัญจร มิกลับสู่รังนอนบ้านกลอนไทย เพราะเรายังซาบซึ้งซึ่งกวี ผลงานอันมากมีที่พ่อให้ พ่อคิดคำแล้วเขียนเจียรจากใจ บุญคุณพ่อยิ่งใหญ่เกินใครมี จนวันที่พ่อไปไม่หวนกลับ คล้ายสุรีย์ลาลับดับรังสี ความมืดหม่นคลุมฟ้าดั่งราตรี แลทุกที่ทุกถิ่นเหมือนสิ้นงาม กระทั่งแว่วเสียงนกยังพกเศร้า นกเพื่อนเราอยู่ไหน ? ..อยากไต่ถาม เกรงแต่นกมิตอบมอบนิยาม เรายากปรามน้ำตาคราคำนึง อย่าทิ้งรังร้างหนอพ่อนกจ๋า มิได้แกล้งพรรณาว่าคิดถึง ทุกคำกลั่นจากใจนัยรำพึง จากผู้ซึ่งเฝ้ารอพ่อคืนรัง ๚ะ๛
4 มีนาคม 2549 13:28 น. - comment id 555506
คิดถึง พี่นกตะวัน เช่นกันค่ะ... เด๋วนี้ห่างหายไป.... แต่ยังคงระลึกถึงอยู่เสมอค่ะ....^-^
4 มีนาคม 2549 13:28 น. - comment id 555508
คิดถึงคุณสุธี นกตะวัน เหมือนกันค่ะ หายไปนานมากจริงๆ
3 มีนาคม 2549 18:52 น. - comment id 564388
รอนรอนสุริยะโอ้............อัสดง ลับเหลี่ยมเมรุลง...........ค่ำแล้ว ราตรีวิหกคง................พักอยู่ รังนอ ยินหริ่งเรียมบ่แคล้ว..ร่วมพร้องระงมเหงา ---------------- คิดถึงเช่นกันครับ
4 มีนาคม 2549 08:36 น. - comment id 564464
เพียงพลิ้วคิดถึงคุณนกตะวัน ซื้อหนังสือของคุณนกตะวันไว้ จะขอลายเซ็นคุณนกตะวันแล้วจะให้เป็นของขวัญวันเกิดเพื่อนคนหนึ่ง ป่านนี้จะไม่เคยได้คุยกับคุณนกตะวันเลยค่ะ
4 มีนาคม 2549 12:59 น. - comment id 564482
อืมม นกตะวันเคยเขียนกลอนเมา ๆ ให้บทหนึ่ง อยากเจอเหมือนกัน ถ้ายังมีชีวิตอยู่ มาเจอกันสักครั้งได้ไม๊
4 มีนาคม 2549 12:40 น. - comment id 564505
....เราพบกันก็เพื่อจาก ไม่วันใดก็วันหนึ่ง แม้ไม่ยอมห่างกัน สักวันก็ต้องตายจากกันอยู่ดี..มันเป็นกฏพื้นฐานธรรมดาของโลก เมื่อรู้อย่างงี้แล้วการจะมานั่งอาลัยถึงความหลัง มันเป็นอะไรที่ไร้สาระไปหน่อยไหม..
4 มีนาคม 2549 10:53 น. - comment id 564507
ราวสองปีก่อน ..เขาเคยเขียนกลอนถามถึงนิยามและความเป็นมาของชื่อเรา อัลมิตรา แปลว่า อะไรหนอ เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษากรีก สงสัยจะเป็นชื่อเจ้าหญิง มากกว่าชื่อนางฟ้า แล้วอยู่ในเทพนิยายเรื่องใดหรือ เราไม่ได้หมายความว่า นั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่เรารู้จักเขา.. ตั้งแต่ก้าวแรกที่เราก้าวมาสู่บ้านกลอนไทย เราก็ได้พบกับผลงานของเขามากมาย เราเองก็ได้ติดตามผลงานมาโดยตลอด และถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ฝากอักษรใดไว้ในความคิดเห็น ในช่วงนั้น เรามีแต่ความฉงน .. ผู้ชายคนนี้ เขียนกลอนบอกเล่าเรื่องราวที่ประสพมา สิ่งที่เขาบอกเล่า แน่นอน.. เป็นสิ่งที่เรายากจะมีโอกาสได้สัมผัส ทุกถ้อยคำจึงเป็นสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับเรา เราพยายามเรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้ แต่ก็ดูเหมือนว่า หัวขี้เท่อของเรามันก็ยังบรรจุแต่ความไม่รู้อยู่นั่นเอง เรื่องธรรมชาติ เรื่องของนก เรื่องของพืชพรรณ .. เป็นเรื่องที่ไกลตัวจากชีวิตคนเมืองอย่างเรา ต้องยอมรับว่า .. เราแทบไม่มีวัตถุดิบเหล่านี้บรรจุในสมองสักเท่าไหร่ เราเองเคยแปลกใจว่า .. เขาเขียนอะไรได้ตั้งมากมาย ทำไมเหมือนกับว่าความสุขอยู่รอบ ๆ ตัวเขาเต็มไปหมด เขาเล่าถึงมิตรภาพระหว่างนก เขาเขียนถึงแกงส้มชะอม เขาเขียนถึงป่า เขาเขียนถึงผีเสื้อและแมลง บางทีเขาก็มาแนวโรแมตติดเขียนกลอนจากพล๊อตเพลง และอื่น ๆ อีกเยอะแยะ เขายังเขียนกลอนถึงเราอีกด้วย ลำพังสิ่งที่เขาเขียนถึงนก ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราทึ่งมาก เหมือนกับว่าขณะที่เราได้อ่าน เราได้ส่องนกเห็นตามเขา ทุกอย่างดูเป็นตำราที่เกิดจากภาคปฏิบัติ มันเจือความรู้สึกที่สัมผัสได้อย่างแท้จริง .. มีอยู่หนหนึ่ง ที่เราแจ้งความประสงค์ว่า เราจะไปดูนกกับเขาด้วย น่าจะเป็นช่วงที่เขาบอกข่าวถึงการเข้าป่าชุมพร แต่เมื่อถึงวันนั้น ภาระกิจของเรา ก็ทำให้เราต้องคลาดจากทริปนั้นจนได้ .. นึกแล้ว ยังเสียดาย และยิ่งเสียดายมากยิ่งขึ้น เมื่อคราวที่เราต้องไประยอง ในขณะที่เขาจะมีมิตติ้งทางกรุงเทพในวันเดียวกัน ในความเป็นจริง .. ทริประยอง ถูกกำหนดวันมาตั้งแต่ เดือนเมษายนแล้ว เพียงแต่ว่ายังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ทั้งหมดยังอยู่ในช่วงเตรียมการ เตรียมสถานที่ .. ทุกอย่างจึงยังไม่ลงตัว จึงเป็นการปรึกษางานภายใน รู้ไม่กี่คน และถึงแม้ว่า เราจะรู้แก่ใจว่า หลังจากที่เรากลับจากทริประยอง เราจะมีปัญหาข้างหน้ารอเราอยู่ให้สะสาง กระทั่งมีสมาชิกท่านหนึ่งเสนอแนะให้มีการพบปะสังสรรค์ในหมู่ชาวบ้านกลอนไทยบ้าง โดยขอให้จัดที่กรุงเทพฯ และมีสมาชิกอีกท่าน ที่เข้ามามีบทบาท และผลักดันให้เขาเป็นแกนหลักสำคัญในการรวมพลมิตติ้ง ตอนนั้น เราเริ่มหนักใจ.. เพราะเราไม่อยากให้ใคร ๆ คิดว่า .. สองทริปนี้ จะเป็นการแบ่งพรรคแบ่งพวกแบ่งฝ่าย หรือเกิดทริประยองขึ้นมา เพื่อที่จะประชันขันแข่ง .. แต่อย่างใด .. ใจมนุษย์ ยากจะหยั่งถึง เราไม่อาจคะเนในความรู้สึกของแต่ละบุคคลได้ เรากล้ายืนยันได้ว่า ..เพื่อนที่ไปทริประยองด้วยกันไม่ว่าจะเป็น พระจันทร์เศร้า ดาวอังคาร ทะเลใจ เรไร นายเมา ค้างคาวคืนคอน และเรา .. ก็มีความคิดว่า .. จะตามไปสมทบมิตติ้งที่กรุงเทพด้วย โดยทันทีที่กลับเข้าสู่พระนคร รวมถึงปีกฟ้าด้วยที่ล่วงหน้ากลับมาก่อน ช่วงที่อยู่ระยอง เพื่อนก็ส่งข่าวมาโดยตลอด เราสอบถามถึงข่าวคราวและความคืบหน้า ว่านัดแนะกันอย่างไร จนกระทั่งทราบข่าวสุดท้ายว่า เขาไม่ไป.. ส่วนคนอื่นที่เหลือนั้น .. ก็ยังไม่ใช่จุดประสงค์อันแท้จริง ที่ทำให้พวกเราอยากไป สิ่งที่เราเขียน หลายคนอาจมองเป็นเรื่องไร้สาระ , เพ้อเจ้อ ... มันก็จริงอยู่หรอก หากจะคิดเช่นนั้น เราเขียนก็เพื่อระบายความในใจ .. เราเขียนจากความรู้สึกที่แท้จริงของเรา ที่มีต่อเขา และอยากให้เขารับรู้ เรารู้สึกผิด ผิดเป็นอย่างมาก ..ผิด.. ที่เราไม่ฉวยโอกาสนั้น ทำตามใจที่เราปรารถนา เราอยากพบเขา แต่สองครั้งสองครา เราก็ติดขัด .. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน และเรื่องที่ต้องแบกรับภาระส่วนตัว กระทั่งประโยคที่เราอยากจะเอ่ยบอกเขาว่า .. เราชื่นชม และศรัทธางานของเขา ซึ่งเราก็ยังไม่ได้บอกกับเขาสักที คงไม่มีอะไรเป็นที่น่าเสียดายไปกว่า ... โอกาสที่เสียไป งานเลี้ยงทุก ๆ งาน ย่อมมีวันที่เลิกรา .. คนที่พบพาน ก็ย่อมมีวันที่ลาจาก .. ไม่ใช่ว่า ทุก ๆ คนที่ห่างหายไป .. จะทำให้เราจะรู้สึกเสียดายในความผูกพัน ไม่ใช่ว่า ทุก ๆ คนที่ห่างหายไป .. จะทำให้เรารู้สึกคิดถึง อาวรณ์ แต่เขาเป็นคนนั้น คนที่เราคิดถึง .. คนที่เราเสียดาย สุขใจเมื่อมีรักให้ใคร เศร้าใจเมื่อรอรักจากใคร ประโยคนี้เขาเขียนไว้ที่หน้าส่วนตัวของเขา สุขใจเมื่อมีความศรัทธาให้ใคร เศร้าใจเมื่อรอให้เขากลับมา ประโยคนี้เราเขียนไว้ในหัวใจของเรา มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
4 มีนาคม 2549 17:34 น. - comment id 564522
นกไม่อยู่ดูช้างไปพลางก่อน นกสัญจรจากรังไม่หวังกลับ นกตะวันหันหลังลืมรังครับ นกลาลับเลยลี้หนีอะไร คงคับอกคับใจกับใครแน่ จึงงอกแง่งัดง้างเหมือนช้างไส จนป่านนี้นกไม่กลับนับนานไกล นกน้อยใจจากถิ่นเคยบินวน นกเคยร้องก้องเสียงสำเนียงใส ช่างจับใจเจื้อยแจ้วมีแววขน ขับทำนองคล้องกับป่าวนาดล อย่างแยบยลยอดเยี่ยมสุดเทียมทาน เขาขับขานตำนานนกยกเรื่องเทียบ มีนัยเปรียบเปรยกระทบครบเครื่อง ท่าน ทั้งดุเด็ดเผ็ดขมขนมหวาน รสซาบซ่านซึมลึกสะอึกเลย แต่หวั่นไหวในอารมณ์สมดั่งนก ไม่มาวกแวะบ้างห่างไปเฉย จวบจะปีทีหมดบทนกเปรย ไม่น่าเลยลืมบ้านตำนานกลอน
4 มีนาคม 2549 17:47 น. - comment id 564524
คิดเหมือนกับผมเหมือนกันนะ แต่ผมคิดมานานแล้วหละ ที่แปลกไป? คือว่าเข้าเว็บไซต์ ของคุณนกตะวันไม่ได้ ปิดไปแล้ว หรือว่า เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่ ใครรู้ช่วยบอกด้วยนะ เราหายไปจะมีใครคิดถึงเราบ้างไหมนะ เดี๋ยวลองหายไปบ้างดีกว่า?
5 มีนาคม 2549 10:49 น. - comment id 564581
เรนก็คิดถึงท่านนะคะ.. เรนมีหนังสือของท่านด้วยนะคะ.. ..
5 มีนาคม 2549 16:21 น. - comment id 564664
แวะมาลงทะเบียนความคิดถึงอีกหนึ่ง.. \"เขา\"เรียบเรียงเรื่องนก.ยกมาเขียน บินวนเวียนในบ้านกลอนมาก่อนฉัน ประสบการณ์,ผลงาน เขาสร้างมัน สานความฝันด้วยรักปักษาไทย.. แหะ แหะ เพิ่งมาอ่านตอนเข้ามาได้พักนึง ไม่ทราบเขาเขียนเรื่องนกฝรั่งบ้างไหม เห็นเขาชอบท่องป่าไปส่องนก ก็สนุกดี แบ่งปันเรื่องเล่าให้พวกเราฟัง ได้ทั้งความรู้และเพลิดเพลิน ... คิดถึงเขาเหมือนกัน.. ...
5 มีนาคม 2549 22:07 น. - comment id 564693
คุณก่อพงษ์.. อ้างว้างประดุจไร้............คู่เคียง วิหคเคยส่งเสียง.............เจื้อยแจ้ว บัดนี้ปราศสำเนียง..........ดั่งก่อน เกิดหักอาดูรแล้ว............อกโอ้อาลัย คุณเพียงพลิ้ว .. รูปนกที่อัลมิตรานำมาประกอบกลอน ก็เป็นรูปนกจากหนังสือ \"ลมปีกที่คิดถึง\" ที่คุณนกตะวันเขียน ถ่ายภาพโดยคุณอัครเดช บนเส้นทางธรรมชาติดอยอินทนนท์ อัลมิตรา.. ได้ยินเสียงนกเจื้อยแจ้วตลอดเส้นทาง .. คุณโอ ลิฟโซ .. เราต่างรู้ว่า การหวนคำนึงถึงความหลัง บางครั้งก็สุขใจ บางครั้งก็ราวกับทุกข์ท่วม หากแต่ อัลมิตรารู้ดียิ่งว่า .. สิ่งใดบ้าง ควรค่าต่อความทรงจำ คุณพระจันทร์เศร้า .. อาจเป็นไปได้ และไม่อาจเป็นไปได้ค่ะ คุณammydear.. :) คุณเพรง.พเยีย.. :) คุณสัญจร.. อัลมิตราเพิ่งกลับจากอินทนนท์เมื่อปลายเดือนก่อน สิ่งที่อัลมิตราประสพ ก็คือ ความสุขที่ธรรมชาติเป็นผู้ให้ ย้อนกลับมา นึกถึงเขา .. เพราะได้ยินเสียงนกทักทายตลอดทาง ความจริง เคยคิดก่อนหน้านานแล้ว ว่าเขาหายไปไหน ? เหมือนถูกย้ำอีกที จึงต้องเขียนเป็นกลอนระบายความในใจขึ้นมา สิ่งที่อยากบอกเขา แต่ก็ไม่มีโอกาสบอกกับเขาจากปากตนเอง ก็ได้แต่หวังว่า .. ความรู้สึกที่ดีต่อกัน ความรู้สึกที่เขียนถึง จะบรรเทาความคิดถึงลงได้ เท่านั้นเอง .. ส่วนเขา .. จะรับรู้หรือเปล่า อัลมิตราเอง ก็..ไม่ทราบ ค่ะ คุณ......... อัลมิตราไม่ทราบเช่นกันค่ะ ทราบแต่ว่า ช่วงนี้ทุกพฤหัสมีสอน ต้องเตรียมงานสอน คุณอาจพบเขาได้บ้าง หาก search ดี ๆ มีตารางวัน และ เวลา ที่จะพบเขาได้ค่ะ ที่สวนรถไฟ คุณเรน.. :) คุณกุ้ง.. อัลมิตราเอง ก็ไม่ได้ติดตามหนังสือที่เขาเขียนนะ เลยไม่รู้ว่ามีหรือเปล่า แต่เท่าที่อ่านในบ้านกลอน นก ก็นกเมืองไทย หาชมได้ตามป่าในเมืองไทย หรืออัลมิตราจะอ่านไม่ถี่ถ้วนจึงเก็บรายละเอียดไม่ครบ ก็เป็นไปได้นะคะ
5 มีนาคม 2549 21:25 น. - comment id 564694
ดังที่ได้ออกตัวไว้ตั้งแต่ต้นว่า การเขียนกลอนถึงเขาและบอกความในใจว่าคิดถึงเขา .. อาจจะมีคนมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เรามิอาจโต้แย้งอันใด เนื่องจากลำดับความสำคัญในชีวิต มีหลายสิ่งหลายอย่างเข้าคิวอย่างมีสาระ งานเขียนก็เช่นกัน .. น่าจะถึงพันชิ้นที่เราเขียน หากจะนับชิ้นงานและจัดหมวดหมู่แยกประเภท เราคิดว่ามีไม่น้อยที่ไร้สาระ บางบทพรรณนาของเรา มันเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง และจะเป็นยิ่งไม่ได้เลยสำหรับเรื่องที่เกิดจากจินตนาการ แต่เราก็มีความสุขนะ มีความสุขกับตัวอักษรที่เราเรียบเรียงขึ้นมาเป็นร้อยกรอง ฉะนั้น .. ทำไมเราจึงต้องขีดกรอบตนเอง ในสิ่งที่เราอยากจะเขียน ในสิ่งที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจเรา .. เราไม่มีคำตอบ .. และเราก็รู้ใจตนเองอีกว่า .. ถึงจะมีคำตอบ มันจะเป็นอื่นเสียไม่ได้นอกจาก .. .. เขียนไปเถอะหากอยากเขียน ตราบใดที่สิ่งที่เขียนนั้นเกิดจากความรู้สึกอันดี ไม่ได้ทำร้ายใคร .. เราเขียนถึงพระจันทร์.. ดวงดาว.. ท้องฟ้า.. สายน้ำ.. ดอกไม้.. ความรัก.. บทเพลงที่เราชื่นชอบและอื่น ๆ อีกมาก ความสุขของเราโลดแล่นบนตัวอักษร ความสุขของเราซึมแทรกไปในทุก ๆ ถ้อยคำที่บรรจงเขียน และถึงแม้ว่า บางงานเขียน เราจะไม่ใส่ใจเรื่องของรูปแบบนัก แต่เราก็เข้าใจในความเป็นตัวของตัวเองดี รอบ ๆ ตัวเรา มีเรื่องมากมายให้ขบคิด มีเรื่องมากมายชวนให้เขียน มีเรื่องมากมายที่อยากบอกเล่า สิ่งที่เราเห็นอาจจะเป็นเพียงมุมแคบ ด้วยสายตาที่อยู่ในขีดจำกัดในการรับรู้ สิ่งที่คนอื่นเห็นอาจจะเป็นอีกมุม ที่เราไม่เคยเห็น เพราะเราไม่ได้ยืนอยู่ยังจุด ๆ เดียวกับเขา ดังนั้น สิ่งที่เราเขียนในงานเขียนครั้งนี้ .. ย่อมไม่แปลกอะไร ที่จะมีบางคำที่สนองตอบว่า .. \"ไร้สาระ\" แต่ความคิดถึงของเรา ย่อม ..\"ไม่ไร้สาะระ\" แน่นอน เรายังคงคิดถึงเขา .. เพราะเขามีคุณค่าพอ ที่จะสถิตอยู่ในความทรงจำที่ดีของเรา มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า