ถึงราษีไศลใจสะท้อน แสนอาวรณ์วุ่นจิตคิดครวญหา ใคร่ถนอมกล่อมเจ้าเข้านิทรา แนบแก้วตาชื่นขวัญคงฝันดี ดูหมู่ดาวพราวพร่างกระจ่างฟ้า ดาริกากุมลัคน์จักรราศี ดาวรักเลือนเหมือนหม่นปนราคี แลริบหรี่โรยแรงแสงอ่อนรอน คิดคิดไปใจเหมือนจะหวั่นหวั่น คิดคิดพรั่นเพลงรักจักถอนถอน คิดคิดถึงจึงพร่ำคำวอนวอน คิดคิดก่อนเกรงร้างห่างไกลไกล จึงวอนดาวเจ้าเอ๋ยอย่าเฉยเฉื่อย อย่าเลยเรื่อยเลือนร้างห่างไปไหน อย่าลาลัคน์รักร้างละห่างใจ ดาวจงได้ดลน้องอย่าหมองมน ฯ สระกำแพงแข็งกั้นเป็นชั้นฉาก เหลือแรงลากรั้งไว้ใจฉงน ฤๅศรัทธาเทพไท้จะใคร่ดล ดาลภัยพ้นเพลาห่างจึงสร้างมา เพราะศรัทธาในรักสมัครน้อง คงจะพ้องเพียงปราสาทศาสนา เรียมเลยสร้างวางลักขณ์อักขรา เป็นภาษาสื่อจิตคิดคะนึง ฯ ถึงนครศรีลำดวนรัญจวนจิต ห่างมิ่งมิตรหมองไข้ใจคิดถึง เพราะพี่เหงาเศร้าระกำจึงรำพึง เคล้าเสียงซึงเสียงแคนจากแดนไกล ฯ โอ้แม่ศรีสระเกศในเขตแคว้น เป็นศรีแดนดินดำฉ่ำน้ำใส ลูกแม่ศรีมีสุขสร่างทุกข์ใจ เพราะลูกได้แม่ศรีเป็นศรีแดน แม้จากไปไกลถิ่นถวิลหา แม้ไขว่หาบ้านอื่นอีกหมื่นแสน เหมือนสุขสร่างห่างคลาดจนขาดแคลน ไม่เหมือนแม้ศรีสะเกษเขตนิคม ฯ วฤกร้อยถ้อยนิราศอาจพลั้งผิด วอนมิ่งมิตรอย่าขับหรือทับถม เพราะรักกานท์จึงจารไว้ให้ลองชม เพียงภิรมย์รื่นรสบทกลอนเอย ๚
8 มกราคม 2545 18:21 น. - comment id 29318
ยินดีด้วยกับความสำเร็จในการเขียนกลอนนิราศครับ '^_^'
8 มกราคม 2545 22:38 น. - comment id 29355
นิราศรักขวัญหักเห เลยว้าเหว่คอยห่วงหา นิราศรักที่ร้างลา บอกวฤกว่า อย่าลาไกล!
9 มกราคม 2545 03:38 น. - comment id 29385
แหะๆ... ถึงแล้ว ดีใจด้วย... นานๆ จะได้อ่านกลอนยาวๆ แบบนี้ซะที....