ไม้เมืองสรวงมือสวรรค์ฤๅสรรค์สร้าง พุ่มพฤกษ์พรางพันไต่ด้วยไม้เถา สองพฤกษ์ลอดสอดกิ่งดูพริ้งเพรา สองพฤกษ์เคล้าคลอชิดสนิทกัน พงพฤกษ์พลอดกอดรัดกระหวัดชู้ ให้อดสูชมไพรใจกระสัน กระเสียนเสียดเบียดพฤกษ์นึกถึงวัน กรกอดกันก่ายน้องประคองนวล ฯ ผ่านเมืองสรวงล่วงสุวรรณภูมิภพ มิอาจลบเลือนจิตที่คิดหวน เคยประโลมโฉมเฉลาเร้ารัญจวน ต้องผันผวนพรากน้องจากห้องไกล จนถึงกู่พระโกนาว่าจะกู่ ถามพรหมผู้ลิขิตคิดไฉน จึงเสแสร้งแกล้งทำให้ช้ำใจ พรากพี่ให้ห่างนวลผู้ควรครอง ฯ โอ้โพนทรายทรายกลบลบรอยร้าว เลือนรอยคาวขื่นขมระทมหมอง แต่รอยรักสลักจิตพี่คิดปอง มิเพลาพร่องผันเกลื่อนเลือนรอยทราย ทุ่งกุลาร้องไห้อันใหญ่กว้าง แลเวิ้งว้างว่างไปพี่ใจหาย ทุ่งขวางกั้นคั่นกลางเจ้าห่างกาย สุดจะหมายมาสู่ยอดชู้ชม เรียมร้องไห้กับกุลาโศกาสลด เรียมระทดแลไปใจขื่นขม เรียมรานร้าวหนาวไข้ใจระทม เรียมตรอมตรมเจียนตายคล้ายกุลา ฯ
9 มกราคม 2545 03:36 น. - comment id 29384
กว่าจะถึง แหะๆ... คงเจอสาวๆ หลายคนแน่ๆ เลย... อิอิ
9 มกราคม 2545 16:06 น. - comment id 29439
เสียดาย ที่กลอนดี ดี แบบนี้ หลุดจากหน้า 1 เร็วไป เพราะ เข้ามาอ่านตอนที่ เจอ นิราศ 5 แล้ว ต้องเข้ามา หา ตอน 4 อ่าน แต่ เอ นิราศบทนี้ แต่งตอนคิดถึงคนที่ ศรีเกษ หรือว่า ขอนแก่นเนี่ย