ตัด...ดัดตระหนี่ การจัดส่งหนังสือต้องเชื่องช้า เพราะเวลาจำกัดตอนมัดห่อ ต้องตรวจสอบหนังสือที่ถือรอ ต้องคัดข้อความใหม่ในบางคราว งานอย่างอื่นยืนหยัดจัดแจงขน เพื่อดับโศกตัวตนบนเหน็บหนาว เพื่อรื้อความตระหนี่ที่เนิ่นยาว ซึ่งผูกมัดปวดร้าวทุกคราวมอง ความตระหนี่นี่หนอใคร่ขอแบ่ง ใช้ชะแลงงัดยากมิอยากต้อง ตกตะกอนนอนก้นวนใจครอง สุดตระหนี่หมักดองหมองดวงมาน .....โอ..เมื่อใดใจหนอจะยอมรับ วันที่เหลือเมื่อจะดับลับสังขาร มัจฉริยะหวงแหนแน่นทุกวาร เกินประหารตระหนี่ที่สุดตน ทิกิ_tiki เขียนหน้าจอเมื่อ พฤหัส ๘ ธันวาคม ๒๕๔๘ เวลา ๑๙:๐๐ น http://www.pantown.com/board.php?id=11020&name=board1&topic=47&action=view ตัด...ดัดตระหนี่
8 ธันวาคม 2548 19:31 น. - comment id 544858
สรุปรายงานส่งหนังสือเพิ่มเติมดังนี้ 1. คุณ นาวา มัญจาคีรี ขอนแก่น 2. คุณ นกตะวัน หนองค้างพลู กทม 3. คุณ ดาหลา_ปะการัง ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง.....เชียงใหม่ 4.....โรงเรียนบ้านแม่แมม ต.ป่าแป๋...อ.แม่แตง..จ.เชียงใหม่ 5. คุณลำน้ำน่าน c/o ม.มหิดล กทม 6. คุณกอกก ระยอง 7. คุณ อบต หัวดง จ.พิจิคร ระหว่างจัดการคัดเลือกหนังสือส่ง ต้องขอเวลาสักนิด ขอบคุณทุกท่านค่ะ http://www.pantown.com/board.php?id=11020&name=board1&topic=47&action=view
8 ธันวาคม 2548 19:33 น. - comment id 544859
ถ้าเข้าทางพันทาวน์ไม่ได้ก็ให้เข้าทางพันทิปแล้วเคาะกระทู้ล่างสุดจะเข้าได้ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3863502/W3863502.html
8 ธันวาคม 2548 20:49 น. - comment id 544869
ความงกไม่เข้าใครออกใคร
8 ธันวาคม 2548 23:44 น. - comment id 544887
ใช่เลยนะคะ ดังนั้นช่วงนี้จึงต้องพยายามอ่าน หนทางชีวิตพระโพธิสัตว์ให้มากกว่าเดิม ด้วยสงสัยการบริจาคของท่าน ว่าบริจาคสิ่งๆต่างๆได้อย่างไร อ่านลุยจนทุกอย่าง พระพุทธเจ้า 4 อสงไขยแสนกัปป์ พระพุทธเจ้าด้วยศรัทธา ใช้เวลา ถึง 8 อสงไขยแสนกับป์ พวกเรา เป็นบัวใต้น้ำ นับจำนวนไม่ได้เลยว่าจะต้องอยู่กับโลก ในภาวะสังสารวัฏฏ์ไปอีกนานเท่าใด infinity..... อย่างนั้นเลยนะคะ เพราะตัดอาลัยไม่ขาดสักอย่าง ขอบคุณในถ้อยคำ
9 ธันวาคม 2548 10:00 น. - comment id 544972
สวัสดีค่ะ พี่ทิกิ มะกรูดนะอยาก งก ดู บ้าง จะได้มีเงินเก็บเยอะ ๆ แต่ทำไม่ได้สักที... อากาศหนาวแล้วพี่ทิกิ รักษาสุขภาพนะคะ
9 ธันวาคม 2548 12:13 น. - comment id 545024
พี่ทิกิ ก็ยังงก ตระหนี่เหมือนเดิมค่ะ เพราะหนังสือที่ตัดใจบริจาคเกือบสิบปีนั้น ล้วนเด็ดๆทั้งนั้นส่งวัดสวนแก้วไปเป็นคันรถ เฉพาะหนังสือนั้นครึ่งคันรถหกล้อ นะคะ แต่พอพยายามขนที่เหลือไปคอนโด แต่ไม่หมดสักทีก็ตัดใจทิ้งไว้อย่างนั้นรอบ หนนี้ขนจากคอนโดมาพักเรือนนนท์ เจอปลวกอาละวาด ยังใจดีสู้เสือกับปลวกอยู่ เพราะ หลายๆเล่มเรายังอ่านยังค้น เช่น Hitopadesa of Naraya M.R.Kale โดย Mittkak /babasudass นั้น ก็ทิ้งไม่ได้ ต้อง อ่านควบคู่แปลไทย หิโตปเทศ ของ เสฐียรโกเศศ นาคะประทีป หรือ ประวัติ พุทธศาสนาในอินเดียทั้งไทย อังกฤษ สันสกฤต ทั้งหมด ยังต้องเก็บงำ หรือ ประวัติ วรรณกรรมศาสนา ทั้งหมด อ่านเสมอ ทิ้งไม่ได้ หรือ สมุนไพรเพื่อสุขภาพทั้งหมด ยังต้องคัดเก็บ ไม่สามารถให้ใครได้ หรือ วรรณกรรมบรมครูหลายท่าน หมายถือ โคลงฉันท์กาพย์กลอนที่หาไม่ได้ ในยุคนี้เพราะท่านพิมพ์แค่ พันเล่ม หมื่นเล่ม ต่อคน หลายสิบล้านคน เราก็ยังบริจาคไม่ได้ อีกเช่นกัน นับเป็นความงกที่เข้าขั้นจริงค่ะ
9 ธันวาคม 2548 19:07 น. - comment id 545126
ในการอยู่กับตระกูลที่มีความตระหนี่ถิ่เหนียว เป็นที่ตั้ง เราผู้มีอัธยาศรัยในการให้การบริจาค ออกไปจากตนเสมอ ค่อนข้างลำบากใจ ที่จะบริจาคสละออก อย่างการส่งหนังสือนี้ก็เช่นกันค่ะ หากไม่อ้างว่าเพราะคุณกอกกได้ ส่งค่าส่ง มาให้ เราถูกมองเป็นผู้ประหลาดที่ \"ทำใหญ่โตร่ำรวยบริจาคให้ใครต่อใคร น่าหมั่นไส้จริง\" นี่เป็นวิถีของผู้คนในประเทศนี้อย่างปกติ จิตของเราในฐานะผู้ไม่ปราถนาจะยึดติด ในทรัพย์ใด อยากได้เรือนว่าง เบื่อหน่ายทรัพย์ที่เขาหากองสุมท่วมหัวจริงๆ ค่ะ ท่วมแบบวางซ้อน ๆๆๆ เอาผ้าคลุมไว้เต็มห้อง ไปหมด แบบเราอนาถใจต้อง อยากเอาไปบริจาคให้หมด แต่หากหยิบสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ของเรา ไปบริจาค เดี๋ยวจะได้มีคนกรี๊ดมีเรื่องเป็นแน่ จึง...ต้องทนนั่งอยู่ในห้องที่มี ข้าวของ สะสมอะไรก็ไม่ทราบเยอะแยะไปหมด นี้ไปเรื่อย... อย่างปลงในใจตลอดเวลา... ...... คราวนี้ท่านผู้อ่านคงเข้าใจ ความรู้สึก ทรัพย์กองสูงท่วมหัว (สมบัติบ้าในความรู้สึกของเรา) และเช่นกัน เด็กๆของเราที่ไม่รักหนังสือ ก็มองว่าหนังสือต่างๆของเรา ก็เป็นสมบัติบ้า เช่นกัน แต่สำหรับ ข้าพเจ้า หนังสือคือปัญญา
10 ธันวาคม 2548 06:13 น. - comment id 545230
พี่มะกรูด..อย่างกเลย..เดี่ยวน้องเหมียวอด...และ...ไม่มีใคร.......เลี้ยงขนมน้องเหมียวนะค่ะ........ิอิอิอิ... ..แวะมาทักทายยามเช้าค่ะคุณ ทิกิ ... ....หนาวแล้วดูแลสุขภาพนะค่ะ.....
10 ธันวาคม 2548 10:50 น. - comment id 545267
เขาเรียกสิงห์ปืนฝืด จำพวกนี้เห็นพฤติกรรมก็จะรู้แล้ว เวลาเข้านั่งกินโต๊ะยาว เขาจะรีบเข้านั่งด้านในก่อนเวลาเก็บตัง คนส่งบิลจะได้ไม่ถึงตัวเขา แต่จะแสดงละคร โดย ส่งเสียงเรียกกระเป๋าหนังออกมา เจรจาอยู่นั่นแล้ว ไม่เปิดซักทีคนนั่งใกล้ก็ควักก่อนทุกที แล้วแกล้งแย่งจะจ่าย แกล้ง ๆ ไปยังงั้นเอง บางครั้งพอเชคบิลแล้วรีบเข้าห้องน้ำกว่าจะออกเยาจ่ายกันเรียบร้อย อิอิ
11 ธันวาคม 2548 05:17 น. - comment id 545277
คุณแสงไร้เงาค่ะ ขอบคุณที่แวะมาบอกน้องมะกรูด สำหรับคนรุ่นหลังสงครามอย่างพี่ทิกิ สงครามโลก ปี 2489กว่าๆ พวกเรา เกิดหลังนั้นไม่กี่ปี ญาติพี่น้องเห็นความพินาศย่อยยับ อดออมไม่มีจะกินของทั้งประเทศ ......กับอีกพวกหมู่เหล่าเผ่าพันธุ์รวยได้ จากการเอากำไรค้าเกินควรกับ ยารักษาโรค และของจำเป็นแห่งชีวิต พี่ทิกิ จึงเห็นความประหยัด มัธยัสถ์ อดออม ของทุกคนรอบข้างมาแต่เด็ก แต่เมื่อโตขึ้น...พอเราทำงานได้เดือนแยะๆ ถ้าเทียบคนขับรถหลวงได้เดือนละ 800 บาท เราทำงานได้เดือนละ 9000 บาท พอเราทำงานได้ 1050 เราได้เดือนละ 15000 ก็เทียบกับสมัยนี้ เข้าทำงานใหม่ ได้ไม่ถึง 10000 ทำงานมานาน ได้เดือนละ 4-500000 บาท มันย่อมต่างกัน เมื่อได้เงินเดือนเยอะๆมาเรื่อยๆก็ใช้ไม่อั้นลืมตัวว่าเคยต้องประหยัดมัธยัสถ์อดออม รายได้ฟุ้งเพื่องก็เห่อเหิมไป วันหนึ่งการค้าซบเซา หลายครั้งหลายหน ในรอบ 28 ปีที่ผ่านมา ชีวิตเราก็ต้องเห็นชีวิตแบบชิงช้าสวรรค์ คือหมุนวน จนบ้าง รวยบ้าง อยู่อย่างนี้ จนเกือบจะ บรรลุสัจจธรรมแห่งการ อย่าไปยึดมั่นถือมันกับสิ่งของนอกกาย หลายคนก็ว่าเราจนจริ๊ง หลายคนก็ว่าเรารวยจริ๊ง ขึ้นอยู่กับเขาจะเอาอะไรมาวัดเรา ถ้าวัดด้วยอสังหาริมทรัพย์ ก็นับกันว่ารวย ถ้าวัดด้วย กระแสเงินไหล Cash Flow ก็นับว่ายังไม่รวย ดังนั้น...ตามหลักการบัญชีที่ถูกต้อง เราจึงควร มีความระมัดระวัง รอบคอบ การตระหนึ่ของคนรอบข้างก็ไม่ได้เสียหาย ในขณะที่พวกฟุ้งเฟ้ออย่างเรา ใช้เงินโครมๆ คนตระหนี่กลับมีพันธบัตรรัฐบาลในแบงก์ชาติกำไว้อุ่นใจ การเขียนงานประเภทนี้เราเพียงแสดงสัจจธรรมสั้นๆ ง่ายๆ ของการใช้ชีวิต ที่ว่า ยังไม่เป็นคนรวย อยู่อย่างรวย จะยากจนลง ยังไม่เป็นคนจน อยู่อย่างจน จะเป็นเศรษฐี เท่านี้เองแหละค่ ตอบคุณ ฤกษ์ในข้อธรรมเดียวกันค่ะ
13 ธันวาคม 2548 17:23 น. - comment id 545923
สวัสดีค่ะพี่ทิกิ...หนังสือได้ถึงอบตแล้ววันนี้ตอนเย็นค่ะกระต่ายจะส่งต่อให้โรงเรียนค่ะทางโรงเรียนคงทำหนังสือขอบคุณถึงพี่ทิกิค่ะ ถ้าเรียบร้อยยังไงจะส่งข่าวอีกที ทำบุญด้วยหนังสือเค้าว่าจะได้เป็นนักปราชญ์น่ะค่ะอย่างพี่ทิกิไม่เรียกตระหนี่ค่ะเรียกว่ารู้จักเก็บรุ้คุณค่าดีใจแทนเด็กน่ะค่ะที่จะมีหนังสือดีๆๆอ่านค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ