ณ สวนแก้วแว่วเสียงพร้องเพลงหวาน คีตกานท์ผ่านยินใจชวนฝัน หลายคนนั่งหลั่งลิขิตคิดวาดวัน ขีดภาพคั่นกาลเวลา ณ ที่นี้ สวนแก้วยังเบิกบานคนขานรับ หนุ่มสาวซับน้ำตากันที่นี่ ศิลปินถวิลหาภาพดีดี วิชาการล้นปรี่ยังมีเติม รั้วสีเขียว "ศิลปากร" ย้อนความหลัง ฉันยังฝังใจจดจำพจน์เพิ่ม นั่งเขียนกลอนวอนร่ำคำเดิมเดิม อันจะเสริมคำรักให้หนักพอ ณ สวนแก้วแว่วแล้วคีตกานท์ ใครสักคนขับขานสานเติมต่อ ลากรอยร่องริ้วสีที่เร้นรอ ปลายดินสอละเลงลงลานคำ หอมกรุ่นกลิ่นกำจายในสวนแก้ว หายเหนื่อยแล้วหลังเรียนเพียรคำร่ำ ม้าหินอ่อนผ่อนพักถักลำนำ กำจายพร่ำพรั่งพรูเพียงรู้ใจ ดอกแก้วบานเบิกเบ่งละเลงสวน ปลอบใจถ้วนทุกเหนื่อยอ่อนยามอ่อนไหว สูดสายลมบริสุทธิ์พร่างพิงร่มใบ ร่วงดอกใส่หอมนักเหมือนทักเตือน กำลังใจได้กลับมาอีกครานี้ คิดถึงวันดีดีที่มีเพื่อน ดอกแก้วยังสะพรั่งหลั่งใจเยือน เปี่ยมเสมือนแรงดลใจในคำกวี ณ สวนแก้วแว่วเสียงพร้องเพลงหวาน คีตกานท์ศาลาศิลป์ยินทุกที่ แม้ฉันห่างสถานศึกษาแห่งไมตรี ยังยินดีคิดถวิล "ศิลปากร".
17 พฤศจิกายน 2548 08:40 น. - comment id 538199
มันหอมจริงๆนะคะดอกแก้วยามค่ำคืนเนี่ย น้องยืนยัน
17 พฤศจิกายน 2548 13:28 น. - comment id 538326
แวะมาแอ่วหาเด้อ...
17 พฤศจิกายน 2548 17:30 น. - comment id 538393
หอมจัง..
17 พฤศจิกายน 2548 17:43 น. - comment id 538402
..ศิษย์เก่าทับแก้ว นี่เอง..